นโยบายแบบไหน ช่วย เกษตรกร

102 17 Apr 2025

เมื่อหลายวันก่อน ผมตัดสินใจส่งข้อความถึง ท่าน ส.ส. ชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ ส.ส. รุ่นใหม่ไฟแรงจากสุรินทร์  ดีกรีรองโฆษกพรรค เพื่อไทย ให้หาทางช่วยเหลือ หรือประสานงาน ช่วยเรื่องงานวิจัยตะเปียงจู ว่าที่ พืชเศรษฐกิจตัวใหม่ ของคนสุรินทร์ เนื่องจากโครงการวิจัยเดิม ถอนตัว แต่ตัวอาจารย์ ซึ่งรับผิดชอบยังอยากทำต่อ ผลปรากฏว่า ท่าน ส.ส. ชนินทร์ สนใจมาก และจะหาทางช่วย

 

นี่คือ บทบาทที่สำคัญมาก ระหว่าง ชีวิตเกษตรกรกับโอกาสใหม่ๆ ในอนาคต เรามีพืช มีความหลากหลายมาก และเกษตรกรบ้านเรา เก่ง อดทน ขอให้มีตลาดมีราคา ทำได้หมด ซึ่งทั้งหมดนี้ ควรจะเป็นข้อได้เปรียบ ในทสงเศรษฐกิจ แต่กลับพบว่า เราเป็นประทศที่ภาคเกษตร อ่อนแอที่สุด เพราะว่า หน่วยงานที่ควรมีบทบาทสำคัญ กลับไม่เป็นแบบนั้น

 

งานวิจัยและพัฒนา คือกลไกไขคำตอบ ในทางวิทยาศาสตร์ เพื่อช่วยให้เกษตรกร มองเห็น คุณค่าราคา และนำออกมาสู่โลกภายนอกได้อย่างมีวิทยาการรองรับ ตะเปียงจู ต้องการตั้งแต่

  1. การคัดพันธุ์ ปรับปรุงพันธุ์ ซึ่งที่ผมให้โจทย์ คือ ความหวานเพิ่ม จาก 1-13 brix เป็น 20 brix เปลือกบาง น้ำเยอะ เมล็ดน้อยลง เปรี้ยวน้อยลง และไม่มีความคัน
  2. การเพาะขยาย และวิธีดูแล รักษา ตะเปียงจูเป็นแค่พืชป่า นอกจากเอาเมล็ด มาปลูกเรายังไม่รู้เลยว่า ขยายพันธุ์แบบอื่นได้ไหม แบบไหนเร็วขึ้น รสชาติ ไม่เปลี่ยนแปลงง่ายๆ และวิธีให้ปุ๋ยให้น้ำ ให้แดด เป็นอย่างไร ปลูกเดือนไหน ออกผลปีไหน มีข้อควรระวัง อย่างไร  เป็นต้น
  3. คุณสมบัติเด่นๆ ของตะเปียงจู เมื่อนำมาแปรรูป เป็นไวน์ หรือเหล้า  จะได้ประโยชน์ทางสารอาหารหรือ รสชาติ ต่างๆ อย่างไร กระบวนการที่เหมาะสม ได้ความเป็นเลิศ ต้องทำอย่างไร

 

ทั้งหมดนี้ ต้องมีงานวิจัย ถอดรหัส โภชนาการ รวมถึง คำติชมแนะนำ จากผู้เชี่ยวชาญ เข้ามาช่วย เป็นงานวิขาการที่ชาวบ้าน หรือเกษตรกร เอาไปศึกษา เอาไปอธิบายให้ลูกค้าฟังได้ ส่วนหนึ่งภารกิจหนึ่งที่รัฐ โดยเฉพาะบทบาทฝ่ายการเมืองหรือรัฐบาลต้องมีขนาบข้างมาด้วยคือ แหล่งทุน 80% ของเกษตรกร อาจจะไม่กล้าเปลี่ยนแปลง แต่ 20% เป็นคนรุ่นใหม่ ที่มองหา โอกาส ศักยภาพทางเศรษฐกิจใหม่ๆ คนกลุ่มนี้ ต้องการเงินทุนสนับสนุน และประเทศนี้ต้องการ ผู้ประกอบการหรือ SMEs เพิ่มจำนวนมาก เพื่อสร้างเศรษฐกิจประเทศ ให้เข้มแข็ง

 

เมื่อวาน ผมได้เข้าไปเจรจา สอบถาม และ หารือหาทางออก เรื่องภาษี เพราะตามที่กฎหมายบัญญัติ ไว้ เรื่องภาษีป้าย นั้น มันหนักเกินไป เรายู่บ้านป่า ในดงหลืบลึก แต่กฎหมาย มีสภาพบังคับทุกคนเท่ากันทั่วประเทศ !

พูดตรงๆ ผมไม่มีเงินชำระภาษีที่โคตรแพงขนาดนั้นได้ หรอกครับ พอไปหารือ หาทางออก เพราะไม่งั้นผมคงต้องถอดป้ายออกทั้งหมด และกลับมาอยู่ความเชื่อเดิมๆ คือ รัฐ ไม่ได้สนใจ อยากให้ประชาชนมีกินมีทางออก แต่โชคดี ที่หัวหน้าการคลัง อบต. บักได ท่านช่วยพลิกเปิดดูกฎหมายไล่เรียงทุกข้อ เลย  และหาข้อที่เข้าข่าย ที่อาจจะช่วยได้ สุดท้าย ก็พบ ก็เจอ มาตรา 8 (10) ใน พ.ร.บ. ภาษีป้าย บอกว่า “เกษตรกรที่แปรรูปผลผลิตของตนเอง ไม่ต้องชำระภาษี”  ผมดีใจแทบน้ำตาไหล ชีวิตเกษตรกร หันมาช่วยเหลือตัวเอง แปรรูปผลผลิต (เป็นไวน์) เจอด่านภาษี 5-6 ประเภท ทั้งอ่วมทั้งอาน จนหลังแอ่น แล้วยังมาเจอ ภาษีป้ายที่โหดมาก !!

( เรื่องนี้ขอบคุณฝ่ายการคลัง อบต.บักได ที่ระดมแรงช่วยกันจนเห็นทางออก )

 

 ในภาคหน้า ผมอาจจะทำเป็นเอกสาร ข้อเสนอแนะ การแก้ปัญหาภาคเกษตรเชิงนโยบาย ให้พรรคการเมือง นำไปบรรจุเป็นนยายหาเสียง เพราะ นอกจากงานวิจัยและพัฒนา ตั้งแต่ เมล็ดพันธุ์ กระบวนการผลิต และ ทุนสนับสนุนต่างๆ แล้ว ผมอยากให้มองไปถึง มาตรการช่วยเหลือ ด้านภาษี อย่างน้อยในระยะ แรกๆ และที่ผมพูดเสมอ คือ รัฐ ต้องช่วยผู้ประกอบการ ในสถานการณ์ ผลผลิตราคาตกต่ำ เมื่อเรา ผู้ประกอบการหันไปช่วยเกษตรกร เหมือน กรณีมะม่วง ลองกอง และมังคุด ที่โรงบ่มไวน์ DeSimone ช่วยเหลือเกษตรกร ในเวลาแบบนี้ รัฐบาล ต้องมีมาตรการช่วยเราด้วย เช่นกัน

Contact Information

  • : มูลนิธิกองทุนไทย Thai Fund Foundation 2044/23 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ บางกะปิ ห้วยขวาง กรุงเทพ 10310
  • : webmaster@thaingo.org
  • : 082 178 3849
  • : www.thaingo.in.th

Thai NGO

ข่าวสารสังคมนอกสื่อกระแสหลัก ข่าวสารความเคลื่อนไหว เกี่ยวกับเอ็นจีโอ ข่าวกิจกรรมเพื่อสังคม งานสัมนา สมัครงานเอ็นจีโอ ร้องเรียน แจ้งข่าว…ประนามประจาน !! ที่ได้รับความทุกข์ร้อนไม่เป็นธรรม