คนขี่เสือ

64 04 Jun 2025


เมื่อวาน  อ่านเจอข่าวนักก่อการปั่นหัว คนไทย ออกมาจับมือกัน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ ยืนคนละขั้ว แต่มาวันนี้ อยู่ขั้วเดียวกัน เพียงเพราะ “อกหัก” ถูกเท จาก โอกาสผลประโยชน์ คนหนึ่งโกรธเพราะถูกถอนโฆษณา และอีกคน เพราะถูกใช้แค่เป็นหมาเฝ้านาย คอยเห่า คอยกัด ไล่ฟัด ปกป้องนาย แต่นายไม่ให้อะไรตอบแทน ที่สมน้ำสมเนื้อ ตามที่อยากได้ เลย แว้ง... หันมาจะฟัด อดีตนาย

สองคนนี้ มีความสามารถมากในการ กล่อมเกลา หลอกล่อ โน้มน้าว ชักจูง ไปจนถึงครอบงำ ด้วยลีลา การพูด การหว่านล้อม ยกข้อมูลประกอบอ้าง สร้างความจริง “ลวง” ทำให้คนเชื่อหัวปักหัวปำ และโดนจริต คนไทย เวลามีใครมาจี้ต่อมรักชาติ รักสถาบัน ก็ตื่นเร่า คำราม แล้วไอ้สองคนนี้ ก็จูงจมูกคนไทย ที่หัวอ่อน เชื่อง่าย และฝังจิตฝังใจ ไม่ฟังใครเตือน พวกนี้ชอบมาก กับการจูงจมูกคนออกไป กราดเกรี้ยว เต็มท้องถนน พอคนมากๆ ก็เหิมเกริม ยึดสนามหลวง ยึดสนามบิน ยึดถนนราชดำเนิน และ ยั่วยุทหาร ให้ ยึดอำนาจ ซึ่งทหาร ก็โง่ และ หัวอ่อน เจอปลุกเร้า เลือดรักชาติ เจอปลุกเร้า ว่า มีคนจะทำลายสถาบัน ก็จะรีบแจ้น ขนปืน ขนทหาร  ขับรถถังออกมา ไล่ยิงประชาชน  ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ เกิดขึ้นตลอด ทุก
10 หรือ 20 ปี วนเวียน รัฐประหาร ล่าสุด คือ 2557 ปีนี้ 2568 ครบ 10 ปี พอดี ไอ้ห่านี่ ก็กระเหี้ยนกระหือรือ จะออกมาอีกแล้ว ไม่ดูสภาพประเทศ ไม่ดูสถานการณ์โลก ไม่ดูวิบากกรรมประชาชน และ ไม่ดู อนาคตระบอบประชาธิปไตย ที่ล้มลุกคลุกคลาน ถอยหลังลงคลอง จากกฎหมาย ต่างๆ ที่มาจากการรัฐประหาร ที่ผ่านมา

 

ผมเชื่อในเรื่องเสรีภาพและสิทธิของประชาชน ที่จะเคลื่อนไหวทางการเมือง ตามหลักการของระบอบประชาธิปไตย แต่เกือบ 30 ปี ที่ผ่านมา ( ตั้งแต่ รัฐประหาร 2549 ) กลับพบว่า ขบวนการเคลื่อนไหวของประชาชน ไม่ได้เกิดจากเจตจำนงอิสระ จากการตกผลึกทางความคิดของประชาชน เฉกเช่น เหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 ที่ประชาชนหลั่งไหลออกมาจากบ้านเรือนเอง ด้วยความอึดอัดเต็มกลืนของบ้านเมือง ของนักการเมือง ของผู้มีอำนาจ แต่ที่ผ่านๆ มา เกิดจากการมอมเมาข้อมูล จากการมีสื่อเป็นเครื่องมือ และจากการทำงานของสื่อมวลชน ที่ยืนข้าง หรือ มีวาระปลุกปั้น  30 ปี ที่ผ่านมาสื่อมวลชนไทย มีบทบาทมากในการทำให้เกิดสถานการณ์ วิกฤติทางการเมือง หรือ ทำให้คนไทย หลงตาม จากความไว้ใจสื่อ เชื่อสื่อ และเชื่อคนทำสื่อ ที่เอาข้อมูล มาบิดเบือนสร้างความจริงลวง รวมถึง นักวิชาการไทย เกือบค่อนประเทศ ก็เคยหลงผิดคิดไม่ทัน ตกเป็นเครื่องมือมาแล้ว รวมถึง นักเคลื่อนไหว อื่นๆ ที่เร่าร้อน บุ่มบ่ามแบบโง่ๆ เช้าวันนี้ ผมเห็น ตัวละครหน้าเดิม นักวิชาการคนเดิม สื่อหัวเดิม ทยอยออกมา ปรากฏตัว วิพากษ์วิจารณ์  เร่าร้อน กับโจทก์เดิม คือ ทักษิณ ชินวัตร และบริวาร หน้าเดิม นี่มันอะไรกัน ว่ะ ?

วิบากกรรมการเมืองประเทศ ก้าวไม่พ้น คนพวกนี้ ที่ออกมาเล่นละคร ยื้อยุด แก่งแย่ง อำนาจชี้นำประชาชน อำนาจชี้นำการเมือง อำนาจชี้นำ รัฐาฐิปัตย์  “น่ามคาญครับ บอกตง..”

 

เช้านี้เลยนึกไปถึง วรรณกรรมเก่าๆ ที่เคยอ่าน และชอบมาก ชื่อ  “คนขี่เสือ” งานพวกนี้ อ่านสมัยเรียนมหาลัย เป็นผลงานวรรณกรรมระดับโลก ชิ้นหนึ่งของอินเดีย ประเทศที่มีโครงสร้างทางสังคมซับซ้อน มีรากลึกเชิงชนชั้น วรรณะ และ มีความหลงงมงายง่ายๆ หากใคร เอาความเชื่อมาเป็นเครื่องมือ สร้างตัวเอง จากวรรณะต่ำ อย่าง ศูทร มาเป็น พราหมณ์ วรรณะสูงสุด แล้วก็ลงจากหลังเสือ ไม่ได้ เพราะมีคนศรัทธามากมาย จึงหาทาง วนเวียน สร้างเรื่องให้ตัวเอง อยู่บนหลังเสือ ตลอดไป เหมือนไอ้สองคนนั่น

ยอมรับเลยครับ ว่า เจอข่าว เจอคนแบบนี้ บางทีก็อยากหาอะไรมาปลอบประโลมใจ หรือ เป็นแนวทางการครุ่นคิด สารัตถะเกี่ยวกับ การเมือง สังคม ผู้คน ระบบระบอบ และ แก่นแกนสูงสุดในทางปรัชญา ว่าเรามองเห็นอะไร เพราะอะไร และเราเชื่ออย่างไร ในตัวเราเอง

Contact Information

  • : มูลนิธิกองทุนไทย Thai Fund Foundation 2044/23 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ บางกะปิ ห้วยขวาง กรุงเทพ 10310
  • : webmaster@thaingo.org
  • : 082 178 3849
  • : www.thaingo.in.th

Thai NGO

ข่าวสารสังคมนอกสื่อกระแสหลัก ข่าวสารความเคลื่อนไหว เกี่ยวกับเอ็นจีโอ ข่าวกิจกรรมเพื่อสังคม งานสัมนา สมัครงานเอ็นจีโอ ร้องเรียน แจ้งข่าว…ประนามประจาน !! ที่ได้รับความทุกข์ร้อนไม่เป็นธรรม