182 04 Jun 2025
เมื่อคืนผมวิจารณ์ แนวคิดรังสิมัน โรม ไม่ใช่ในฐานะ ส.ส. แต่ในฐานะ กรรมาธิการความมั่นคง ที่มาสามาถมีบทบาททางการเมืองได้อีกมาก รังสิมันพยายาม บอกว่า เราต้องไม่เข้าสู่สงครามเพื่อนำไปสู่ความยุ่งยาก ซึ่งบางส่วนก็จริง แต่หลายส่วน ก็ไม่ใช่ เกมส์สงครามอย่างไม่สมเหตุสมผล มีอะไรที่น่าขบคิดอีกมาก ที่ผมคิดว่า เราต้องมอง ให้ลึกไปใน 3 ส่วน สำคัญๆ คือ
หนึ่ง สถานการณ์โลก โดยรวม ที่ซึ่งเหมือนอยู่ในหมากเกมส์ ภาพใหญ่มาก ที่หลายประเทศกำลัง ขนอาวุธ หรือ บางประเทศได้เริ่มไปแล้ว นั่นคือสงคราม การสู้รบ กันเต็มกำลัง เป็นเรื่องการพยายาม จัดขั้วอำนาจโลกใหม่ ซึ่งตัวละครที่ผมมอง คือมหาอำนจจีน ที่ได้แทรกซึม ประเทสเพื่อนบ้านเราแทบทุกอณู รอบประเทศ และเราคือประตูการค้า ที่สำคัญอีกเส้นทางหนึ่ง อย่าลืมว่า โดยสถานภาพกัมพูชาเพียงลำพัง ไม่มีศักยภาพมากพอจะต่อกรกับเรา แบบหาเรื่อง ตอแย แหย่ยุ ไม่หยุด ทั้งแนวชายแดนและในสนามการเมืองระหว่างประเทศ
สิ่งที่เราต้องคิดคือ ใครได้ประโยชน์มากที่สุดหากเกิดสงครามระหว่างไทย กัมพูชา และใครเสียหายมากที่สุด สองประเทศเสียหายมากที่สุด และ จีน ในทัศนะผม ได้ประโยชน์มากที่สุด จากความอ่อนแอ ภายใน และความเสียหายทางเศรษฐกิจ บ้านเมือง
สอง สถานการณ์รอบตัวเรา ตลอดแนวชายแดน ทั้งพม่า ชนกลุ่มน้อย ลาว เวียดนาม และกัมพูชา ทั้งหมด ถูกจีนแทรกซึม ทั้งเศรษฐกิจและการเมือง กลุ่มธุรกิจคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งมีมากมายรายรอบ โดยเฉพาะตามแนวตะเข็บชายแดน กัมพูชาและพม่า ล้วนมาจากกลุ่มทุนจีน (เทา) หรือ จริงๆ อาจจะไม่เทาเลย แต่ผ่านการรับรู้เห็นชอบมาตลอด ของรัฐบาลจีน ไม่อย่างคงปราบปรามสิ้นซาก ไปนานแล้ว เพราะศักยภาพจีน ในภูมิภาคนี้ มีมากเหลือกำลัง และทำไม กัมพูชาถึง น้อมรับ การสนับสนุนอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จากจีน ซึ่งถ้าหากสู้รบ ทั้งทุนและอาวุธ รวมถึง เทคโนโลยีสงคราม น่าจะมาจากจีนทั้งหมด
ผมเห็นด้วยคนหนึ่ง ว่าเรา ไม่ต้องการสงคราม แต่เราผมไม่เห็นด้วย ที่เราจะละล้าละลัง ในการแสดงออกซึ่งความเด็ดเดี่ยวหาญกล้าหาญ ในสนามรบ และ รู้สึกแย่ ที่ ฝ่ายการเมือง ไร้ประสิทธิภาพ ไร้เอกภาพ ที่พูดนี้ คือรวมถึง ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน เพราะในยามศึก สงคราม แบบนี้ ทั้งรัฐสภา ควรบรรลุพันธกิจ ร่วมกันแก้ปัญหาหรือรับมือ สถานการณ์ร่วมกัน และไปในทิศทางเดียวกับฝ่ายความมั่นคง หรือทหาร เพื่อให้ เพื่อนบ้านรายรอบประเทศ โดยเฉพาะกัมพูชา เห็นว่า เราไม่ธรรมดา ปวกเปียก ทะเลาะกันเอง หากมีใครแตะต้องอธิปไตยเรา
สาม ประชาชน ควรมี สติ ถกเถียงกันในเชิงปัญญา มีเหตุมีผล พูดคุย และกับแสดงเอกภาพในการส่งเสียงออกไปยัง เพื่อนบ้านและประชาคมโลก ไม่ใช่ใช้อารมณ์ ด่าทอ เพื่อนบ้าน หรือ ฝ่ายการเมือง สะท้อนความแตกแยก ความอ่อนแอทางอารมณ์ แบบไร้วุฒิภาวะ
สงครามไม่ใช่ การเล่นของของเมื่อมันเริ่ม มันจะนำมาซึ่งความสูญเสีย เหลือคณานับ และไม่ควรให้ใครมา เหยียดหยาม ความกล้าหาญของชาติเรา ดังนั้น หมากเกมส์นี้ เราต้องแยกยุทธวิธี ว่า อันไหนเราเล่นตามเกมส์ ตีต่อย ให้คนได้ประโยชน์ดูเพลินๆ และอันไหน เราต้องวางหมากเกมส์ เดินรุก คืนบ้าง ผ่านการมอง วิเคราะห์ แล้วส่งสัญญาณให้ประชาชนทราบ เป็นระยะ ๆ โดยเฉพาะบทบาท “รัฐสภา” ของฝ่ายการเมือง ควรละวางทิฐิ สร้างบรรยากาศ จับมือ นำสิ่งที่เรียกว่า มติเอกฉันท์ เป็นบทบาทที่ฉลาดแยบยล และมองการณ์ไกล ไปข้างหน้า เพื่อประชาชนคนไทย เป็นห้วงยามที่ต้องสลัด ความโง่เขลาเห็นแก่ตัว ได้แล้ว
ผมเชื่อว่าเราเก่งเสมอ ในยามหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ และ เราต้องมองศัตรูที่แท้จริง ให้ออก ว่าใคร อยู่เบื้องหลัง ใครได้ประโยชน์จากเกมส์สงคราม ครั้งนี้ อย่างแท้จริง ซึ่งผมไม่คิดว่าประชาชนกัมพูชา จะเข้าใจถ่องแท้ ว่าเกมส์สงครามนี้ เกมส์ที่จะต้องพลีชีวิตประชาชน ทหารตัวชั้นผู้น้อย ซึ่งรู้สึกแค่คำว่า รักชาติ นี้จะได้ประโยชน์อะไร
ผมได้แต่ภาวนาว่า เรา และมิตรเพื่อนบ้าน ที่พึ่งพาอาศัยกันมายาวนาน จะต้องไม่รบรากัน เพื่อประโยชน์ของคนอื่น ที่แอบซ่อนตัวอยู่.... ผมได้แต่ภาวนา!!!!
04 Jun 2025
04 Jun 2025
04 Jun 2025
17 Apr 2025
ข่าวสารสังคมนอกสื่อกระแสหลัก ข่าวสารความเคลื่อนไหว เกี่ยวกับเอ็นจีโอ ข่าวกิจกรรมเพื่อสังคม งานสัมนา สมัครงานเอ็นจีโอ ร้องเรียน แจ้งข่าว…ประนามประจาน !! ที่ได้รับความทุกข์ร้อนไม่เป็นธรรม