คนล่าฝัน ชีวิตจากลูกชาวนา ตอนที่ 2 ต้นทุนชีวิต

1120 30 Nov 2023



ความยาก แสนยากของคนลูกชาวนา หรือ ชาวบ้านธรรมดา อย่างเรา เวลาคิดฝันอะไรเกินเอื้อม เกินตัว หลายคนเลือกทางเดิน ที่สำเร็จง่ายกว่าด้วยการ สอบเข้า หรือ ไต่เต้าไปตามลำดับ ในองค์กร ซึ่งนั่นก็ได้ความสำเร็จมาเหมือนกัน หมายถึงได้ชีวิตที่ดีขึ้น มีรายได้ มีสวัสดิการ มียศ มีตำแหน่ง มีอำนาจ มีคนยอมรับ นับหน้าถือตา และเป็นเกียรติแกวงศ์ตระกูล แต่หลายคน เช่นผม เรามีความคิด แตกต่าง เราอยากเป็น หัวหมา มากกว่า หางราชสีห์ คำนี้หลายคน คงไม่คุ้นเคย เป็นวิธีคิดของนักก่อการ และคนชอบอิสระ ต่อให้เป็นธุรกิจ น้อยๆ พอประทังชีวิต ก็พึงพอใจ ชีวิต เพราะได้เป็นนายของตัวเอง

ทำเกษตรก็อิสระ แต่ชีวิตเกษตรกร ผูกมัดกับสิ่งภายนอก เหนือการควบคุม ราคา ฟ้าฝน ภัยธรรมชาติ ปีแล้วปีเล่า ก็ได้แต่นั่งคอตก ปลอบใจตัวเอง ว่า เอาใหม่ ปีหน้าต้องดีกว่านี้ แล้วก็ทุ่มโถมทำ ทำๆ ผ่านไปปีแล้วปีเล่า หลายคนจึงกลายเป็นคนคับแคบบ้าง เห็นแก่ตัวบ้าง แล้วแต่ใครจะเป็นไป นี่คือความจริง ว่า ชีวิตชาวบ้าน หรือ ชีวิตชนบทไม่ได้ สวยงาม อย่างในนิยาย หรือ ที่ใครๆ มอง

การลุกขึ้นมา เปลี่ยนแปลง วิธีคิด วิธีการอยู่รอด มองโลกความจริง มากกว่าการเฝ้าฝัน เพ้อเจ้อ ว่าจะรวย หรือสีโชคลาภสักอย่าง ถูกหวย หรือ มีอภินิหาร ทำให้เรารวย
90% ที่ชาวบ้านกราบยไหว้ บนบาน อธิษฐาน มีแค่นี้แหละ ขอให้รวย แต่ไม่รู้หรอdกว่า ตัวเองจะรวยได้ด้วยวิธีไหน ?

การแปรรูป คือ การสร้างมูลค่าให้ผลผลิต แรงบันดาลใจจริงจังนี้ ผมเคยไปอบรมการเกษตร (โครงการค้นกล้าคืนถิ่น)  มีวิทยากรยั่วน้ำลายผมว่าเขาขายข้าวได้ กิโลละ
10,000 บาท ใครอยากรู้ ต้องอบรมให้จบคอร์ส ผมนี่ใจสั่นเลย “ทำได้ไง ว่ะ ?”  คำตอบคือ แปรรูป ครับ ( ทำเป็นแป้งพับ ขายกรัมละ 10 บาท 1 กิโล 1000 กรัม = 10,000 บาท ) ผมถึงบางอ้อ

ประเทศเรายังย่ำกับที่ และยากจนเพราะไม่คิด ไม่พัฒนา ไม่กล้า และไม่เปิดทาง สนับสนุนจริงจัง เราได้ ก้มหน้าก้มตา ทำแบบเดิม ทำซ้ำ แต่คาดหวังผลลัพธ์ ใหม่ๆ ซึ่งไม่มีทาง

เมื่อเริ่มลงมือ ด้วยความฝัน จริงจัง ให้ตายสิ มันยาก ชิบหาย
!!

จะทำอะไร ทำแบบไหน จะขายที่ไหน จะขายยังไง จะขายให้ใคร ขายเท่าไหร่ ขายแบบไหน ฯลฯ เริ่มจากง่ายๆ ต้มแล้วกรอกไปยืนขาย ตลาดนัด งานวิเว้นแถวบ้าน งานโอท็อป ขยับเพิ่มปริมาณ เปลี่ยนรูปแบบ บรรจุภัณฑ์ สวยๆ  ติดฉลากอย่างดี ห่อหุ้มซีล สวยงาม ไปวางร้าน จากร้านเล็กๆ ของเพื่อน ของคนรู้จัก ขยับไปร้านของฝากประจำจังหวัด จากต้มกวน ใต้ถุน ลงทุนสร้างโรงงาน ลงเครื่องจักร จาก 10 กก. ขยับมาล็อตละ 100 กก. และเพิ่มเป็น 200 300 กก. ต้นทุนก็ขยับจากหลักพันบาท เป็นหลายแสนบาท !!
อยากได้แพ็คเกจสวยๆ ใครออกออกแบบ อยากขายบนห้าง สินค้าคุณมี อย. อยากไปเมืองทองธานี (เขาว่าดินแดนสินค้าผลิตภัณฑ์ชาวบ้าน) มีได้ ดาว กี่ ดาว มีใบรับรอง มผช. มอก. ไหม อยากทำให้ดี มีทุนหรือเปล่า อยากขยายการผลิต มีวัตถุดิบหรือยัง จะหาจากไหน ให้ใครปลูก มีคุณภาพแค่ไหน

เวลาเราเห็นคนโน้นรวย คนนี้อายุน้อย
100 ล้าน คนนั้น ประสบความสำเร็จ มันไม่ได้ง่ายๆ อย่างนั้น หลายคนมีพ่อแม่ มีวงศ์ตระกูล สะสมทุนไว้ให้มากมาย  สร้างเครือข่ายธุรกิจไว้รองรับ มีบารมี ติดต่อราชการ เกรงใจ ให้ความสะดวก ฯลฯ แต่เราลูกชาวบ้าน พ่อแม่ทำนา ทุนมีแค่ ที่ดินแปลงเล็กๆ ที่เอาไปกู้ได้ไม่กี่บาท  หมดแล้วก็หมดเลย

ในวันที่คนรักยังอยู่ เธอร้อนรนถึงความสำเร็จ ถึงการลงทุนที่ใหญ่ขึ้น ผมได้แต่ปลอบใจ และอ้อนวอนให้เธอใจเย็นๆ เพราะเราไม่มีทุน ทุนที่ไม่ใช่แค่เงิน แต่หมายถึง เครือข่ายธุรกิจ ช่องทางการค้าการขาย ฐานะสินค้าเราในตลาด ถูกรู้จักกว้างขวางแค่ไหน กำลังผลิตเราทำได้กี่ชิ้น มาตรฐานสินค้าเรา อยู่ในเกณฑ์ไหน วัตถุดิบที่จะนำมาป้อนการผลิตมีมากน้อย มั่นคง  หรือเปล่า หากจะขยายลูกสวน มีทุนไว้รองรับ หรือ ทำสัญญาซื้อล่วงหน้า เพื่อประกันผลผลิตให้เขาได้แค่ไหน ฯลฯ

ความฝันของลูกชาวนา ไม่ใช่ฝันไม่ได้ แต่ต้องรู้ฐานะ เพื่อ วางจังหวะก้าวย่าง ด้วยความต้นทุนต่ำ หรือ น้อย ก็ต้องค่อยๆ ก้าว มองซ้ายมองขวา คิดให้รอบรอบ มันยากก็จริง แต่ถ้าเราทำได้ นั่นคือ ต้นแบบให้ลูกหลาน คิดฝัน ก่อการตามเราได้  เมื่อไหร่ก็ตามที่ลูกชาวนาชาวไร่ อย่างเราประกอบการ ทำธุรกิจแปรรูปสินค้าตัวเองได้ การปลดปล่อยภาวะความเป็นทาส เป็นแค่แรงงานในภาคเศรษฐกิจ จะมีความหวัง

วันนี้ผมเจ็บปวดมาก ที่ คนไทย หันกลับไปขายแรงงานต่างประเทศ อีกครั้ง เหมือนสมัย ยุคซาอุฯ ที่คนอีสานแห่ไปทำงาน มากมาย ความล้มเหลวของการเมือง ความล้มเหลวของระบบราชการไทย ความล้มเหลวของ รัฐบาลไทย ตลอด
30 ปี ที่ผ่านมา ทำให้เศรษฐกิจประเทศนี้ถดถอยหลังไปหลายสิบปี วันนี้ หลายคนคิดฝันอยากไปขายแรงงานภาคเกษตรที่อิสรเอล บ้าง เกาหลีบ้าง ออสเตรเลีย แคนาดา แม้กระทั่งไปเก็บลูกเบอรี่ แถวแสกนดิเนเวีย ( เดนมาร์ก เนรเวย์ ฟินแลนด์) ฯลฯ มันน่าเศร้า

มีคนถามผมว่า ไม่กลัวโดนจับ หรอ ( ที่มาทำไวน์ แล้วโพสต์ขายแบบนี้ ) ผมตอบไปว่า ผมทำใจไว้แล้ว ว่า อาจจะติดคุกจนตาย แต่อย่างน้อย ผมมีโอกาส ยืนพูดต่อหน้าศาล สถิตยุติธรรม  ว่าประเทศนี้ ปกครองยังไงและประชาชนอย่างเรา มีชีวิตอย่างไร ? 

และเมื่อแปรรูป ผลผลิต การเกษตร ผมกลายเป็นอาชญากร ของประเทศนี้ได้อย่างไร เพราะอะไร ผมอยากมองดวงตา ผู้พิพากษาใกล้ๆ ตอนท่านตัดสินคดี กับประชาชนอย่างผม
!!!

Contact Information

  • : มูลนิธิกองทุนไทย Thai Fund Foundation 2044/23 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ บางกะปิ ห้วยขวาง กรุงเทพ 10310
  • : webmaster@thaingo.org
  • : 082 178 3849
  • : www.thaingo.in.th

Thai NGO

ข่าวสารสังคมนอกสื่อกระแสหลัก ข่าวสารความเคลื่อนไหว เกี่ยวกับเอ็นจีโอ ข่าวกิจกรรมเพื่อสังคม งานสัมนา สมัครงานเอ็นจีโอ ร้องเรียน แจ้งข่าว…ประนามประจาน !! ที่ได้รับความทุกข์ร้อนไม่เป็นธรรม