อารัติ แสงอุบล มุมมองการเมืองในสถานการณ์ปัจจุบัน

1357 17 Sep 2021

สัมภาษณ์ อารัติ แสงอุบล : เลขาธิการคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคอีสาน (กป.อพช.ภาคอีสาน)



ThaiNGO : ปัญหาทางออกประเทศไทย ที่จะพ้น วิกฤติ    มีแค่ไหน หลังรัฐประหาร ( 2557)ภายใต้แกนนำ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

อารัติ :   หลังรัฐประหาร (2557) มันเริ่มชัดเจนขึ้นเลื่อยๆ อำนาจนิยมเข้าครอบงำสังคมไทย ผ่านไปไม่กี่ปีก็ลอกคราบพยายามจะเป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้ง แต่สันดานเดิมยังอยู่การบริหารบ้านเมืองแบบอำนาจนิยมมันไปทำลายโครงสร้างสังคม ปชต. ยิ่งนานวันก็ยิงบิดเบือนทำลายแบบแผนประชาธิปไตยกันไปใหญ่โต รัฐบาลประยุทธ์หันกลับไปหนุนระบบราชการจนใหญ่โตขยายอิทธิพล หลังจากถูกรัฐบาลในยุคทักษิณลดบทบาทและพยายามปฏิรูประบบราชการมาตั้งแต่ยุคปี40 วันนี้รัฐบาลประยุทธ์ก็ได้กลับมาใช้ระบบราชการเป็นแขนเป็นขาสร้างเงื่อนไขค้ำอำนาจตัวเองจนบ้านเมืองและระบบราชการแผ่นดินวุ่นวายไปหมด เช่น แทรกแซงและใช้ประโยชน์ตำรวจแทนทีจะปฏิรูปตามที่เคยอ้างไว้ว่าจะปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง 7 ปีผ่านมาไม่เห็นมีอะไรเป็นของใหม่แถมยังใช้หน่วยงานด้านกฎหมายเป็นเครื่องมือเอาผิดคนเห็นต่างทางการเมือง แทรกแทรกองค์กรอิสระเอาผิดยุบพรรคการเมืองที่เป็นภัยต่ออำนาจของตนเอง ทำลายระบบตรวจสอบและหลักความโปร่งใสโดยเฉพาะกรณี ปปช.ไม่ตรวจสอบไม่เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินประยุทธ์และพวก ยังไม่รวมการดองเค็มท้องถิ่นสกัดการเติมโตประชาธิปไตยในระดับพื้นฐานชุมชน ยังมีเรื่องวินัยการเงินการคลังที่บริหารกันแบบผิดเพี้ยนสร้างหนี้กู้เงินมาแจกคนเพื่อสร้างฐานเสียงแต่สร้างเงินไม่เป็นจนเศรษฐกิจวันนี้ยังมองไม่เห็นทางออก ปัญหาสำคัญเร่งด่วนเฉพาะหน้าคือโควิด-19 ก็เห็นมัวแต่เล่นเกมส์ผลประโยชน์จัดซื้อวัคซีน ทั้งที่มีเวลาเตรียมการหลายเดือนก่อนการระบาดจะขยายวงกว้าง สุดท้ายคนตายเป็นเบือก็ยังไม่สำนึกยังลอยหน้าลายตา นะจ๊ะ นะจ๊ะ กอดอำนาจไปวันๆ       

                ผ่านมาแล้ว 7 ปี ยังไม่เห็นมีการแก้ปัญหาอะไรเป็นรูปธรรมเห็นทำอยู่อย่างเดี่ยวคือรักษาอำนาจ ยุทธศาสตร์ชาติยี่สิบปีก็พากันเขียนขึ้นมาเองแล้วก็เอาคนแก่กับข้าราชการเป็นโขยงไปนั่งเป็นกรรมการ นโยบายทวงคืนผืนป่าก็ไปแย่งที่คนจนขัดแย้งกับคนท้องถิ่น นโยบายความมั่นคงด้านอาหารเห็นแต่การสนับสนุนนายทุนสารพิษสารสารเคมีและเจ้าสัวร้านสะดวกซื้อ นโยบายการเกษตรก็เล่นเอาราคาข้าวและผลผลิตการเกษตรตกต่ำแบบโงหัวไม่ขึ้น นโยบายปราบปรามทุจริตคอรัปชั่นก็อย่างที่เห็นเรื่องวัคซีนโควิด-19 จะเอาแต่ซิโนแวค  นี่ยังไม่รวมความอื้อฉาวในวงการตุลาการและตำรวจที่มีเรื่องเซอร์ไพรส์ออกมาให้เห็นไม่เว้นวัน มันปฏิเสธไม่ได้ว่าปัญหาเกิดขึ้นจากระบบอำนาจการผูกขาดของคนๆ เดียวแถมพ่วงด้วยอีแอบขุนศึกศักดิ์นาและนายทุน ซึ่งยังมีอิทธิพลเหนือหลักการหนึ่งสิทธิหนึ่งเสียงในสังคมไทยเสมอมา                       

ThaiNGO :   ปัญหาสำคัญ คือ อะไร  คุณมีแนวคิด หรือ ทางแก้ไขอย่างไร ทั้งใน เชิงนโยบาย เร่งด่วน ระยะสั้น และระยะยาว      

อารัติ : กรณีปัญหาที่อยากจะพูดถึงคือ “ความมั่นคงด้านอาหารและการคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรม” ซึ่งประเด็นการพัฒนาภาคเกษตรและอาหารก็มีอยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมห่างชาติและถูกขยายความลงมาถึงแผนปฏิบัติในระบบราชการ (กระทรวง,ทบวง,กรม,กอง,หน่วยงาน) และลงมาถึงแผนพัฒนาจังหวัด อำเภอ ตามลำดับ แต่ปัญหาในทางปฏิบัติการกำหนดแผนงานและระบบงบประมาณมันไปอยู่ในหน่วยงานราชการแล้วก็ท็อปดาวน์ลงมาจากกระทรวงแบบกำหนดสเปคมาให้พร้อม ชุมชนท้องถิ่นมีหน้าที่ปฏิบัติตามแผนงานแถมเงินก็อาจไม่เคยได้เห็น ตัวอย่างที่พูดถึงกันมากตอนนี้คือโคกหนองนารวมทั้งการขุดสระน้ำในไร่นาที่ล๊อกสเปคกันซะจนใช้งานอะไรไม่ได้จริง ขุดเป็นบ่อเก็บลมมีให้เห็นดาษดื่น ประเด็นความมั่นคงด้านอาหารจึงไม่เห็นอะไรเป็นรูปธรรมยิ่งในสถานการณ์โควิด-19 ที่รัฐบาลประยุทธ์ล็อกดาวน์กรุงเทพแบบไม่มีมาตรการรอง รับแรงงานจำนวนมากต้องอพยพกลับชนบท ผู้คนจำนวนมากตกงาน ครอบครัวและชุมชนต้องแบกรับภาระการเพิ่มขึ้นของประชากร อาหารซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญพื้นฐานมีราคาแพงขึ้นและเป็นที่ต้องการมากขึ้น แต่รัฐกลับไม่มีมาตรการใดๆ รองรับลอยแพรผู้คนโยนภาระให้ชุมชนท้องถิ่นต้องแบกรับบนข้อจำกัดของความพร้อมและอุปสรรค์สำคัญคือระบบการเงินการคลังขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนการคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรมยิ่งไม่ต้องพูดถึงแผนพัฒนาฯ กำหนดให้มีการขยายพื้นที่เกษตรกรรมยั่งยืน 5 ล้านไร่ หน่วยงานราชการที่รับผิดชอบก็ยังวกวนนับตัวเลขความสำเร็จซ้ำไปซ้ำมาหากินกับของเก่าไปวันๆ ในทางกลับกันที่ดินเพื่อการเกษตรถูกผลักดันให้ไปตอบสนองภาคอุตสาหกรรมและพลังงานโดยไม่เห็นสนใจการจัดสมดุลในเรื่องความมั่นคงทางด้านอาหารของประเทศ

                   เรื่องความมั่นคงด้านอาหารและการคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรม จะยังคงเป็นประเด็นสำคัญเพราะมันจะกระทบกับปากท้องของประชากรจำนวนมาก ในระยะเร่งด่วนคงต้องเร่งให้ชุมชนท้องถิ่นสำรวจคนตกงานกลับบ้านเพื่อเข้าใจสภาพที่แท้จริงของคนเล่านั้นเพื่อรับมือแก้ปัญหา เร่งส่งเสริมให้ชุมชนท้องถิ่นผลิตอาหารและสมุนไพรเพื่อจัดการตัวเองในระดับตำบลเท่าที่จะทำได้โดยนำระบบงบประมาณที่มีอยู่ลงไปตอบสนองปัญหาในพื้นที่และหยุดโครงการที่ไม่จำเป็นไว้ก่อน ในระยะยาวประเทศจำเป็นต้องมีการกระจายอำนาจลงสู่ท้องถิ่นแบก้าวกระโดดเพราะวิกฤติครั้งนี้ย่อมสะท้อนให้เราเห็นแล้วว่าชุมชนท้องถิ่นเขามีปัญญาพอที่จะจัดการตัวเองได้ แผนงาน โครงการและงบประมาณที่ท็อปดาวน์ลงมาจากกระทรวงทบวงกรมมันขั้นแย้งอย่างสิ้นเชิงกับหลักการแนวคิดกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น เพราะทุกวันนี้ระบบราชการมันใหญ่โตคับหัวชาวบ้านมันมีอำนาจมากกว่าหลักการปกครองส่วนท้องถิ่น สังคมไทยจำเป็นต้องเร่งการเคลื่อนไหวเพื่อเคลื่อนตัวเองออกจากรัฐราชการ เพื่อเดินไปสู่อำนาจของการปกครองส่วนท้องถิ่นและการเป็นรัฐสวัสดิการ ซึ่งหนีไม่พ้นเรื่องการเขียนรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนกันใหม่เพื่อปลดล็อกจากอำนาจนิยมแบบรัฐราชการอย่างที่เป็นอยู่  

ThaiNGO :   มองการว่า การเมืองภาคประชาชน ควรจะมีบทบาท หรือไม่ อย่างไร ในสถานการณ์นี้ 
อารัติ : ผมคิดว่าวันนี้ประชาชนก็แสดงตัวออกมามีบทบาทมากขึ้นเป็นลำดับ สิ่งที่เราไม่คาดคิดคือการแสดงออกของคนรุ่นใหม่ทั้งเด็กนักเรียนและเยาวชนนิสิตนักศึกษา พูดได้ว่าการตื่นตัวของคนรุ่นใหม่เป็นปรากฏการที่เกินความคาดหมาย มีความแหลมคมในประเด็นการต่อสู้ที่ผู้ใหญ่จำนวนมากคิดไม่ถึงและยังรับไม่ได้ การที่ขบวนการคนหนุ่มสาวกล้าหาญที่จะพูดถึงข้อเรียกร้องสำคัญคือ “การร่างรัฐธรรมนูญใหม่โดยประชาชน และ การปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ให้อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ” ย่อมสะท้อนให้เห็นว่าคนหนุ่มสาวมองเห็นรากเหง้าของปัญหาสังคมไทยและแหลมคมพอที่จะเสนอแนวทางเปลี่ยนแปลงแบบถึงแก่นแกนของปัญหาสังคม ซึ่งแน่นอนคงมองข้ามไม่ได้ว่าเรากำลังอยู่ในสภาวะการต่อสู่ภายในสังคมประชาธิปไตย ที่คนฝ่ายหนึ่งเชื่อมั่นในวิถีเสรีนิยมเชื่อว่าคนเท่าเทียมกันและทุกคนควรได้รับการดูแลจากรัฐในฐานะรัฐสวัสดิการแทนการรับแบบผู้อนาถา เชื่อในหลักเสรีภาพและสิทธิมนุษยชน และคนอีกฝ่ายหนึ่งที่ยังอยู่ในวิถีอนุรักษ์นิยมเชื่อมั่นในระบบเจ้าขุนมูลนาย/ระบบพวกพ้องและอาวุโสนิยม เชื่อในระบบทางการมีแบบแผนแบบรัฐราชการ/แบบแผนประเพณี เชื่อในคุณงามความดีและการให้หรือการอุปถัมภ์ผู้ด้อยหรืออ่อนแอกว่า ความเชื่อและศรัทธราในคุณค่าการดำรงชีวิตแบบสองขั้วจะยังฝังอยู่ในชีวิตเราไปอีกนาน มันจึงเกิดปรากฏการผู้ใหญ่บางส่วนและภาคประชาสังคมจำนวนมากไม่สามารถฝ่าความคิดความกลัวของตนเองออกมาสนับสนุนขบวนการเปลี่ยนแปลงสังคมและอีกจำนวนมากจึงเลือกที่จะหลบซ้อนตนเองอยู่ในมุมปลอดภัย ประเด็นที่อยากทิ้งท้ายไว้ก็คือภาคประชาชนจำเป็นต้องออกมามีบทบาทในทางสังคมการเมืองมากขึ้น ควรที่จะตั้งคำถามกับอนาคตว่าเราอยากให้สังคมไทยเดินไปทิศทางใด ควรที่จะต้องฟังและปกป้องคนหนุ่มสาวให้มากขึ้นแทนการตั้งท่าเป็นศัตรูกับอนาคตประเทศ ควรที่จะร่วมมือเปลี่ยนแปลงสังคมผ่านการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญใหม่ร่วมกัน และควรที่จะมีข้อสรุปได้แล้วว่ารัฐบาลประยุทธ์และพวก รวมถึง 250 สว. คือปัญหาและอุปสรรคที่ทำให้สังคมไทยไม่สามารถเดินไปสู่สังคมประชาธิปไตยตามที่เราปรารถนาได้                   

 

                กันยายน 2564
อัฎธิชัย ศิริเทศ  ไทยเอ็นจีโอ สัมภาษณ์                            

Contact Information

  • : มูลนิธิกองทุนไทย Thai Fund Foundation 2044/23 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ บางกะปิ ห้วยขวาง กรุงเทพ 10310
  • : webmaster@thaingo.org
  • : 082 178 3849
  • : www.thaingo.in.th

Thai NGO

ข่าวสารสังคมนอกสื่อกระแสหลัก ข่าวสารความเคลื่อนไหว เกี่ยวกับเอ็นจีโอ ข่าวกิจกรรมเพื่อสังคม งานสัมนา สมัครงานเอ็นจีโอ ร้องเรียน แจ้งข่าว…ประนามประจาน !! ที่ได้รับความทุกข์ร้อนไม่เป็นธรรม