1001 12 Dec 2012
นาย พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (รสก.) มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน วานนี้ (1 ก.ค.) มีมติเห็นชอบให้เดินหน้าโครงการเหมืองแร่โปแตชอาเซียนต่อ หลังดำเนินการโครงการนำร่องไปแล้ว วงเงิน 1 พันล้านบาท แต่โครงการหยุดชะงักไปตั้งแต่ปี 2533 เพราะไม่สามารถเปิดพื้นที่และรับประทานบัตรจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมได้ ขณะที่บริษัทที่ดำเนินโครงการนี้ก็มีปัญหาโครงสร้างผู้ถือหุ้น ดัง นั้นที่ประชุมจึงมอบให้ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรฯ ไปเร่งแก้ปัญหา เพื่อให้โครงการเดินหน้าต่อได้ โดยเฉพาะการสร้างความชัดเจนในการป้องกันและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมถึงสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน และต้องดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรา 67 แห่งรัฐธรรมนูญปี 2550 เช่น จัดทำรายงานผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (EIA) ประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ (HIA) และได้รับความเห็นชอบจากองค์กรอิสระด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพก่อนดำเนินการ โดยเสนอให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมอนุมัติอีกครั้ง “รัฐบาล สนับสนุนโครงการเหมืองโปแตชที่ จ.ชัยภูมิ และพื้นที่ใกล้เคียง เพราะผลประโยชน์โครงการนี้ คือ ช่วยสร้างงาน 1 พันคน สร้างรายได้จากการส่งออกปีละหลายร้อยล้านดอลลาร์ ปัจจุบันราคาโปแตชอยู่ที่ 700 ดอลลาร์ต่อตัน" ทั้ง นี้ นายกฯ ได้ตั้งคำถาม 2 ประเด็นคือ โครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัทที่ดำเนินการและปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งหากต้องการให้โครงการเดินหน้าต้องดำเนินการเรื่องสิ่งแวดล้อมให้ถูกต้อง ก่อนแก้ปัญหาโครงสร้างถือหุ้นของบริษัท” สำหรับ เหมืองแร่โปแตชของอาเซียนนั้น ครม.มีมติเมื่อปี 2533 อนุมัติโครงการ ดำเนินการโดยบริษัทเหมืองแร่โปแตช มีผู้ถือหุ้นคือ บริษัทร่วมทุนโปแตช (ฝ่ายไทย) 71% และสมาชิกอาเซียน (บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์) 29% และกระทรวงการคลังถือ 257.4 ล้านบาท หรือ 22.08% ปัจจุบันฝ่ายไทยลดเหลือ 68% ได้แก่ กระทรวงการคลัง 22.08% ธนาคารทหารไทย 10% บริษัทเทพารักษ์ จำกัด 16.83% บางจาก 5.56% อื่นๆ 15.53% ขณะที่บรูไน 1.1% อินโดนีเซีย 14.35% มาเลเซีย 14.35% ฟิลิปปินส์ 1.1% และสิงคโปร์ 1.1% แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล กล่าวว่า กระทรวง การคลังเสนอแนวทางดำเนินโครงการให้ ครม.เศรษฐกิจพิจารณา แต่ที่ประชุมไม่ได้พิจารณา เพราะนายกฯ ต้องการให้ดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อมก่อน ส่วนข้อมูลที่กระทรวงการคลังเสนอให้เดินหน้าโครงการและเลือกพันธมิตรร่วมทุน แต่กระทรวงการคลังต้องถือไม่ต่ำกว่า 20% และระหว่างหาพันธมิตรร่วมทุนกระทรวงการคลังสามารถซื้อหุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 100 ล้านบาทAttachment | Size |
---|---|
DSC07611.jpg | 218.58 KB |
05 Nov 2024
09 Oct 2024
09 Oct 2024
20 Sep 2024
05 Nov 2024
05 Nov 2024
05 Nov 2024
05 Nov 2024
ข่าวสารสังคมนอกสื่อกระแสหลัก ข่าวสารความเคลื่อนไหว เกี่ยวกับเอ็นจีโอ ข่าวกิจกรรมเพื่อสังคม งานสัมนา สมัครงานเอ็นจีโอ ร้องเรียน แจ้งข่าว…ประนามประจาน !! ที่ได้รับความทุกข์ร้อนไม่เป็นธรรม