กรณีนักศึกษาถูกฟ้องคดียาเสพติด-จำเลยอ้างถูกดำเนินคดีอย่างไม่เป็นธรรม

6419 29 Jul 2015

 

 

ในวันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคม 2558 เวลา 14.00 น. ณ ศาลจังหวัดมีนบุรี   ทนายความและบิดามารดาของนายกฤษณะ พงษ์ทอง จำเลยที่ถูกฟ้องว่าได้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522  มาตรา 4, 7, 15, 66, 100/1 และ 102 มีกำหนดจะร่วมกันเดินทางไปยื่นฎีกาคดีนี้ต่อศาลจังหวัดมีนบุรี  ทางมูลนิธิผสานวัฒนธรรมที่ให้ความช่วยเหลือในการดำเนินการเพื่อยื่นฎีกาขอ เรียนเชิญสื่อมวลชนและผู้สนใจร่วมสังเกตการณ์การยื่นฎีกาในครั้งนี้ตามวัน และเวลาดังกล่าว

คดี นี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 กพ 2556 ในเวลาที่ถูกจับและดำเนินคดีนั้น นายกฤษณะ พงษ์ทอง เป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรีชั้นปีที่สี่ สาขาบริหารธุรกิจ สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งและอยู่ระหว่างการสอบปลายภาคเทอมสุดท้าย ก่อนจบปริญญาตรี มีประวัติจากทางมหาวิทยาลัยว่าเป็นผู้มีความประพฤติเรียบร้อยและเข้าร่วม กิจกรรมที่ทางมหาวิทยาลัยจัดอย่างสม่ำเสมอ  โดยได้รับใบประกาศนียบัตรหลายอย่าง มีเกรดเฉลี่ยสะสม 3.03 ซึ่งหากไม่ถูกจับดำเนินคดีนี้ก็จะมีโอกาศเรียนจบตามกำหนดได้รับเกียรตินิยมด้วย ขณะนี้นายกฤษณะ พงษ์ถูกคุมขังร่วมแล้ว 2 ปี 5 เดือนคือถูกสั่งขังระหว่างการพิจารณาตั้งแต่ชั้นการสอบสวนของพนักงานตำรวจ โดยไม่ได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างที่คดียังไม่ถึงที่สุด เสียโอกาสในการแสวงหาข้อเท็จจริงในการพิสูจน์ความบริสุทธิ์อย่างเต็มที่

ทั้งนี้ที่ผ่านมาแม้ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2552 มาตรา 15 วรรคสาม (2), 66 วรรคสาม จำคุกตลอดชีวิต และปรับ 1,000,000 บาท จำเลยอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โดยจำเลยได้ปฎิเสธข้อกล่าวหายืนยันความบริสุทธิ์ตั้งแต่ต้นว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดที่คำฟ้องอ้างถึง อีกทั้งครอบครัวของจำเลยก็ได้ต่อสู้เรียกร้องความยุติธรรมให้จำเลยตลอดมาทั้งจากหน่วยงานรัฐและสื่อมวลชนหลายแห่ง

ล่าสุดนายกฤษณะ พงษ์ทองได้ยื่นเรื่องราวร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมต่อกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กองพิทักษ์สิทธิและเสรีภาพให้ตรวจสอบการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในชั้นจับกุมและในชั้นสอบสวนของพนักงานสอบสวน ซึ่งกรมคุ้มครองสิทธิฯได้ประสานเรื่องราวร้องทุกข์ของจำเลยพร้อมผู้ต้องขังอื่นอีก 19 รายไปยังสำนักงานจเรตำรวจเพื่อดำเนินการตรวจสอบ ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการแจ้งผลการดำเนินการตรวจสอบดังกล่าว

เมื่อ มูลนิธิผสานวัฒนธรรมได้รับการร้องขอความช่วยเหลือทางกฎหมายจาก นายกมล พงษ์ทองว่าบุตรชายของตนถูกจับดำเนินคดียาเสพติดและไม่ได้รับความเป็นธรรมจาก การปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนของพนักงาน สอบสวน โดยคดีนี้ศาลอุทธรณ์ได้อ่านคำพิพากษาแล้วและคดีอยู่ระหว่างฎีกา มูลนิธิฯพิจารณาแล้วเห็นว่าคดีนี้จำเลยและครอบครัวมีฐานะยากจนและเป็นคดีที่ มีอัตราโทษสูงสมควรให้ความช่วยเหลือทางคดีโดยไม่คิดมูลค่าทั้งนี้เพื่อสนับ สนุนให้จำเลยได้มีโอกาสได้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรมโดยเปิดโอกาสให้จำเลยได้ ต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที และมูลนิธิฯได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของมูลนิธิฯ

ทีมทนายความผู้ได้รับมอบหมายให้ช่วยเหลือคดีนี้ได้ทำการแสวงหาพยานหลักฐาน สอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม รวมทั้งลงพื้นที่ตรวจสอบและบันทึกภาพสถานที่ที่จำเลยถูกจับกุมตัวในสภาวะเวลาที่ใกล้เคียงกับวันที่จำเลยถูกจับกุมตัวที่สุด โดยได้ใช้ประกอบในการร่างฎีกาซึ่งขณะนี้เสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยทนายความและบิดามารดาของจำเลยได้เดินทางไปยื่นฎีกาคดีนี้ต่อศาลจังหวัดมีนบุรีตามวันและเวลาดังกล่าว

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

นางณัฐาศิริ เบิร์กแมน (ทนายความ)  085-120-8077

นางสาว จันทร์จิรา จันทร์แผ้ว(ทนายความ) 083-907-2032 

Contact Information

  • : มูลนิธิกองทุนไทย Thai Fund Foundation 2044/23 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ บางกะปิ ห้วยขวาง กรุงเทพ 10310
  • : webmaster@thaingo.org
  • : 082 178 3849
  • : www.thaingo.in.th

Thai NGO

ข่าวสารสังคมนอกสื่อกระแสหลัก ข่าวสารความเคลื่อนไหว เกี่ยวกับเอ็นจีโอ ข่าวกิจกรรมเพื่อสังคม งานสัมนา สมัครงานเอ็นจีโอ ร้องเรียน แจ้งข่าว…ประนามประจาน !! ที่ได้รับความทุกข์ร้อนไม่เป็นธรรม