ชาวบ้านค้านประชาพิจารเหมืองแร่ทองคำอัคราไมนิ่ง

1449 30 Oct 2012

ชาว บ้าน 3 จังหวัดกว่า 1000 คนร่วมฟังการทำประชาพิจารย์ เพื่อกำหนดขอบเขตและแนวทางการประเมิลผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพโครงการ เหมืองแร่ทองคำ ชาตรีเหนือ ของบริษัทอัราไมนิ่ง เมื่อเช้าที่ผ่านมาที่ศาลาวัดคีรีเทพนิมิต ตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร ประชาชนกว่า 1000 คน จากอำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร อำเภอวังโป่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ และอำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก เข้าร่วมทำประชาพิจารย์ โดยมี มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นผู้ดำเนินการ โดยการทำประชาพิจารย์ ครั้งนี้ รศ.ดร.เดช วัฒนชัยยิ่งเจริญ เลขานุการคณะกรรมการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน การประเมิลผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพโครงการเหมืองแร่ทองคำ ชาตรีเหนือ ของบริษัทอัราไมนิ่ง จากมหาวิทยาลัยนเรศวร ระบุว่า ที่ผ่านมา ได้มีประชาชนได้ร้องเรียนว่าได้รับผลกระทบของประชาชน จากการทำเหมืองแร่ทองคำ ประกอบรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พศ 2550 มาตรา 67 วรรคสอง ระบุว่าการดำเนินโครงการหรือกิจกรรม ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านสุขภาพและสิ่งแวด ล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพ จะกระทำมิได้ เว้นแต่จะได้รับการศึกษาและประเมินผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของ ประชาชนในชุมชน และจัดให้มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียก่อน ประกอบกับการที่นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้มีคำสั่งให้เหมืองแร่ทองคำ ของบริษัท อัคราไมนิ่งจำกัด ปิดดำเนินการ ในพื้นที่เฟส 2 ที่อยู่ในทิศเหนือของโครงการจำนวน 9 แปลง 2700 ไร่ ที่สร้างปัญหาทางด้านเสียงตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา และไม่ไดเมีการแก้ไขให้ดีขึ้น ให้หยุดดำเนินการทั้งหมดทั้งกลางวันและกลางคืน ส่วนพื้นที่ตอนกลาง 5 แปลง จำนวน 1500 ไร่ มีปัญหาเสียงดัง ให้หยุดดำเนินการในช่วงเวลากลางคืน ตั้งแต่ 19.00 น ถึง05.00 น จนกว่าจะมีการแก้ไขให้เรียบร้อย โดยให้มีการแก้ปัญหาเรื่องโลหะหนักปะปนกับน้ำบริโภคของชาวบ้าน รวมถึงการให้ทางเหมืองติดตั้งเครื่องกรองน้ำ ซึ่งหากไม่ดำเนินการจะมีการบังคับใช้กฎหมายขั้นเด็ดขาด จึงทำให้ทั้ง 3 จังหวัด จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการเวทีรัฟังความคิดเห็นของประชาชน ขึ้น เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ข้อกังวล และห่วงใยที่เป็นข้อเท็จจริง ของประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลระทบ ในการดำเนินกิจการเหมืองทองคำ เพื่อนำไปเป็นมาตรการและแนวทางแก้ไขปัญหาไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยการทำประชาพิจารย์ครั้งนี้ ได้กำหนดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ตลอดทั้งวันนี้ โดยมีชาวบ้านพยามถามถึงการดำเนินการรับฟังความคิดเห็นครั้งนี้ เพื่อให้เหมืองทองสามารถเปิดดำเนินการไปได้หรือไม่แต่ทางคณะผู้ดำเนินการ แจ้งว่าเป็นการดำเนินการเพื่อหาทางแก้ไขในอนาคตเท่านั้น นอกจากนั้นชาวบ้านยังได้พยามถามถึงผลสำรวจเลือดของชาวบ้าน ที่พบว่ามรีสารหฯในร่างกาย กับคณะรับฟังซึ่งมีตัวแทนจากสำนักงงานสาธารณสุขจังหวัดพิจิตร เป็นผู้ร่วมฟังประชาพิจารย์ แต่ก็ไม่สามารถตอบคำถามของชาวบ้านได้ นอกจากนั้น ชาวบ้านยังพูดถึงผลกระทบทั้งทางด้านเสียงที่มีการใช้ระเบิดหิน ทุกวัน ฝุ่นละอองที่ปะปนกับน้ำ รวมถึงทรัพยากรธรรมชาติ อย่างเขาหม้อที่เคยเป็นแหล่งซูเปอร์มาเก็ตของชาวบ้าน ไม่ว่าจะเป็นกลอย ผักหวานป่า หน่อไม้ ที่ชาวบ้านเคยเก็บมากินก็หายไปด้วย โดยไม่มีการสร้างมาใหม่เพื่อทดแทน และชาวบ้านยังเป็นห่วงอีกว่า ทางเหมืองทอง จะนำรายชื่อชาวบ้านที่เข้าร่วมประชาพิจารย์ไปเป็นประโยชน์ต่อการขออนุญาติใน การดำเนินการของ้เหมืองต่อไปทั้งที่ชาวบ้านไม่เห็นด้วย โดยคณะผู้ทำประชาชาพิจารย์ได้บันทึกข้อความของชาวบ้าน ให้เสร็จสิ้นภายใน 30 วัน เพื่อสรุปและนำเสนอไปยังคณะรัฐมนตรีต่อไป   ที่มา  http://77.nationchannel.com/video/131811/

Contact Information

  • : มูลนิธิกองทุนไทย Thai Fund Foundation 2044/23 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ บางกะปิ ห้วยขวาง กรุงเทพ 10310
  • : webmaster@thaingo.org
  • : 082 178 3849
  • : www.thaingo.in.th

Thai NGO

ข่าวสารสังคมนอกสื่อกระแสหลัก ข่าวสารความเคลื่อนไหว เกี่ยวกับเอ็นจีโอ ข่าวกิจกรรมเพื่อสังคม งานสัมนา สมัครงานเอ็นจีโอ ร้องเรียน แจ้งข่าว…ประนามประจาน !! ที่ได้รับความทุกข์ร้อนไม่เป็นธรรม