สะท้อนบทเรียนว่าด้วย ทิศทางกระบวนการพูดคุยสันติภาพภายใต้เงื่อนไขรัฐบาล 4 เดือนจะเดินหน้าอย่างไร​

56 10 Nov 2025

สะท้อนบทเรียนว่าด้วย ทิศทางกระบวนการพูดคุยสันติภาพภายใต้เงื่อนไขรัฐบาล 4 เดือนจะเดินหน้าอย่างไร​

 

กระบวนการสันติภาพได้ก่อตัวริเริ่มมาอย่างต่อเนื่องและมีพัฒนาการในรูปแบบกระบวนการจากทางลับสู่วิธีเปิดเผยทางการ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 ที่เมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยมีการลงนาม 3 ฝ่ายในเอกสารฉันทามติทั่วไปว่าด้วยกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพ (General Consensus on Peace Dialogue Process) ซึ่งเป็นการลงนามครั้งประวัติศาสตร์ที่เปิดพื้นที่ทางการเมืองในการแสวงหาความขัดแย้งโดยสันติวิธี และเป็นการปูการพูดคุยในระยะต่อมาโดยมีพัฒนาการในการวางกรอบประเด็น (Agenda) ที่ชัดเจนมากขึ้น เช่น การพยายามเพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัย (Safety Zone) และกระบวนการพูดคุยล่าสุดได้มีการกำหนดกรอบแผนปฏิบัติการร่วมเพื่อสร้างสันติสุขแบบองค์รวม (Joint Comprehensive Plan Towards Peace :JCPP) ซึ่งมีสารัตถะ 3 ข้อ คือ 1.การลดเหตุรุนแรง (หยุดยิง)(Reduction of Violence) 2.การปรึกษาหารือสาธารณะ (Public Consultation) และ 3.การแสวงหาทางออกทางการเมือง(Political Solutions) สิ่งนี้เป็นกระบวนการที่ดำเนินในช่วงคณะพูดคุยครั้งที่ผ่านมา และเมื่อมีการแต่งตั้งคณะพูดคุยสันติภาพชุดใหม่จะมีการดำเนินต่อเนื่องหรือไม่อย่างไรต่อไป ซึ่งหลายฝ่ายกำลังตั้งตารอคอยและเฝ้าติดตามประเด็นเหล่านี้

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ได้ฟังจากการเสวนา “การพูดคุยสันติสุข: จากอดีตสู่ปัจจุบันและมุ่งหน้าสู่อนาคต” เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ.2568 ในบางส่วนของบทสนทนา ซึ่งมีข้อสังเกตต่อเวทีเสวนาในครั้งนี้(https://web.facebook.com/share/v/1DTSVnhoJC/) คือ

  1. ได้เห็นการเล่าสู่กันฟังเป็น Narrative ของกระบวนการพูดคุยสันติภาพในแต่ละช่วงของการคณะพูดคุย เห็นพลวัตและพัฒนาการในทางบวกในบางประการ แต่ยังถือว่าเป็นการขยับที่ค่อนข้างช้าอยู่ หากเปรียบเทียบกับกรณีอาเจะห์ ประเทศอินโดนีเซีย ที่มีการลงนาม เมื่อปี ค.ศ. 2005 และกรณีมินดาเนาว์ ประเทศฟิลิปปินส์ ที่มีลงนาม เมื่อปี ค.ศ. 2014 และหวังว่ากระบวนการพูดคุยสันติภาพชายแดนใต้/ปาตานีจะมีพัฒนาการที่ดีต่อไป และยังมีความหวังว่าบทเรียนที่ผ่านมาจะสามารถผลักประเด็นให้เกิดความต่อเนื่องต่อไป อีกทั้งสามารถสร้างเป็นรูปธรรมได้
  2. ในบทสนทนาในครั้งนี้ก็มีการพูดถึงการเขียนหนังสือ อย่างน้อย 3 เล่ม คือ 1.การพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ 2.กระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจชต.: ความท้าทายของการต่อสู้ทางความคิดตามแนวทางสันติวิธีในทัศนะของผู้ปฏิบัติงานจริง (ห้วงปี 2558 - 2561) และ 3.สันติสุขชายแดนใต้แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ซึ่งเป็นการประมวลเป็นหนังสือจากคณะพูดคุยที่ผ่านมา ทำให้เห็นกระบวนการในแต่ละช่วงของการพูดคุยเป็นการเปิดและเกิดความโปรงใส สามารถที่จะเรียนรู้และต่อยอดต่อไป คิดว่าคีย์เวอร์ด (Keyword) น่าสนใจ “กระดุมเม็ดแรก” “ความหวังสันติภาพที่ปลายอุโมงค์” แสดงถึงการหาจุดเริ่มต้นที่ถูกต้องเป็นจริงเพื่อแปลงความฝันและความหวังสู่รูปธรรม
  3. การปรับกลไกการพูดคุยเป็นขั้นเป็นตอน Pattern มากขึ้น เช่น มีการกำหนด Agenda มีผู้เชี่ยวชาญในฐานะผู้สังเกตการณ์ และมาเลเซียทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยความสะดวก Facilitation นับว่าเป็นการขยับที่พัฒนาการ ถึงแม้ว่าอาจจะต้องมีกลไกอื่นเพิ่มเติม เช่น Stakeholders อื่นที่อาจจะมีส่วนร่วมในฐานะต่างๆ เช่น องค์กรภาคประชาสังคม (Civil Society Organization) องค์กรระหว่างประเทศ (International Non-Government Organization) เป็นผู้สังเกตการณ์หรือที่ปรึกษา หรือแม้กระทั่งกลไก International Contact Groups หรือ Peace Monitoring Team ที่เคยมีในช่วง Peace Process ของ Mindanao ซึ่ง ณ ตอนนี้อาจจะยังไม่เปิด แต่กลไกนี้ควรที่จะเรียนรู้ควบคู่กันไป
  4. การพูดถึงประเด็นว่าชายแดนใต้เป็นพื้นที่พิเศษโดยพฤตินัยนั้น อาจจะต้องทบทวนหรือเชื่อมโยงกับสารัตถะ การแสวงหาทางออกทางการเมือง Political Solutions หากนี่คือพื้นที่พิเศษในมุมมองของฝ่ายรัฐ แล้วพื้นที่พิเศษในมุมมองของฝ่ายขบวนการเป็นเช่นไร หรือแม้กระทั่งฝ่ายวิชาการและภาคประชาสังคมที่ได้ศึกษาวิจัยถามประชาชนที่ผ่านมา มันเหมือนหรือต่างกันอย่างไร หากถามว่าชายแดนใต้เป็นจังหวัดหรือพื้นที่พิเศษ ประชาชนมีกลไกในการกำหนดและแปลงนโยบายได้มากน้อยแค่ไหน สามารถที่จะบริหารสนับสนุนให้สอดคล้องกับพื้นที่มากน้อยเพียงใด อาจจะเอาเรื่องง่ายๆ งบจังหวัดเป็นการเฉพาะพอจะจัดสรรทุนการศึกษาเพื่อตอบยุทธศาสตร์จังหวัดสัก 1 ทุน หรือ 10 ทุนต่อปี ได้หรือไม่อย่างไรให้กับนักศึกษาในจังหวัดนั้นๆ 
  5. จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราลงทุนพอสมควร การเสียงบประมาณที่ใช้ถือว่าเป็นปกติ แต่การสูญเสียชีวิตของประชาชนกว่าจะเกิด Peace Agreement ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้การเดินทางของ Peace Process เร็วหรือช้านั้นเป็นการเดิมพันด้วยชีวิต ซึ่งเราเห็นตัวอย่างในหลายๆที่ของ Peace Process ในพื้นที่ความขัดแย้งต่างๆ ทั่วโลก ดังนั้นทิศทางต่อไป (Next Step) ของเส้นทางนี้ควรที่จะมีฉากทัศน์อนาคต (Scenario) หรือเส้นทางสู่สันติภาพ (Roadmap) เพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถหนุนเสริมไปพร้อมๆ กันและจะทำให้เห็นภาพต่อความหวังสันติภาพชายแดนใต้/ปาตานี
 
 
 

เรียบเรียงโดย: ฆอซาลี อาแว

สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล

Contact Information

  • : มูลนิธิกองทุนไทย Thai Fund Foundation 2044/23 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ บางกะปิ ห้วยขวาง กรุงเทพ 10310
  • : webmaster@thaingo.org
  • : 082 178 3849
  • : www.thaingo.in.th

Thai NGO

ข่าวสารสังคมนอกสื่อกระแสหลัก ข่าวสารความเคลื่อนไหว เกี่ยวกับเอ็นจีโอ ข่าวกิจกรรมเพื่อสังคม งานสัมนา สมัครงานเอ็นจีโอ ร้องเรียน แจ้งข่าว…ประนามประจาน !! ที่ได้รับความทุกข์ร้อนไม่เป็นธรรม