บริษัทจีนขยายเหมืองแร่แรร์เอิร์ธ-ทองคำ ริมแม่น้ำกก ใกล้ชายแดนไทย หวั่นผลกระทบสิ่งแวดล้อมข้ามพรมแดน

59 31 Oct 2025

มูลนิธิสิทธิมนุษยชนไทใหญ่ (SHRF) เผยภาพถ่ายดาวเทียมชี้ขยายเหมืองที่เมืองยอน รัฐฉาน เมียนมา

 

28 ตุลาคม 2568 มูลนิธิสิทธิมนุษยชนไทใหญ่ (Shan Human Rights Foundation - SHRF) ออกแถลงการณ์พร้อมเผยแพร่ภาพถ่ายดาวเทียมล่าสุดว่า บริษัท China Investment Mining Company (รัฐวิสาหกิจของจีน) กำลังขยายกิจการทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ธ (rare earth) และเหมืองทองคำ ริมสองฝั่งแม่น้ำกก ในพื้นที่เมืองยอน (Mong Yawn) ทางตอนใต้ของเมืองสาด ภาคตะวันออกของรัฐฉาน ประเทศเมียนมา ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนไทยที่อำเภอท่าตอน จังหวัดเชียงใหม่ เพียงประมาณ 30 กิโลเมตร

ภาพถ่ายดาวเทียมเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2568 แสดงให้เห็นว่า พื้นที่ทำเหมืองทองคำมีการก่อสร้างถนนและเหมืองแร่ใหม่บริเวณเชิงเขาที่ปกคลุมด้วยป่า มีการปล่อยกากของเสียซึ่งอาจประกอบด้วยโลหะหนัก ไหลลงสู่แม่น้ำกกโดยตรง

นอกจากนี้ SHRF ยังระบุอีกว่า มีเหมืองแร่แรร์เอิร์ธ 2 แห่ง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำกก ฝั่งตะวันตกหนึ่งแห่ง และฝั่งตะวันออกอีกแห่ง ซึ่งทั้งสองแห่งได้มีการพัฒนาเพิ่มขึ้นมาก ตั้งแต่มีรายงานในเดือนพฤษภาคม 2568 แล้ว 

  • สำหรับเหมืองฝั่งตะวันตกของแม่น้ำกก ภาพเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2568 แสดงบ่อแต่งแร่ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง ขณะที่ภาพล่าสุดวันที่ 14 ตุลาคม 2568 พบว่าโครงสร้างเสร็จสมบูรณ์ มีหลังคาสีดำปกคลุม แต่ยังคงสามารถเห็นพื้นที่ใต้หลังคาได้
  • สำหรับเหมืองฝั่งตะวันออกของแม่น้ำกก พบว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม 2568 เริ่มดำเนินการแล้ว โดยมีบ่อแต่งแร่สารเคมีเหลวสีน้ำเงินสดเรียงแถวอยู่ใต้ตาข่ายสีดำปกคลุม และมีอาคารใหม่หลายหลังในพื้นที่ด้านตะวันออกเฉียงเหนือของแหล่งแร่ แสดงว่า การดำเนินงานเพิ่มขึ้นอย่างมาก

การขยายตัวของเหมืองแร่ทั้งสามแห่งนี้ เกิดขึ้นแม้มีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับการปล่อยสารพิษลงสู่แม่น้ำกก ซึ่งเป็นหนึ่งในลำน้ำที่ไหลผ่านไทย ในจังหวัดเชียงใหม่-เชียงราย และต่อเนื่องสู่แม่น้ำโขง ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองฝั่งพรมแดน

 

ตรวจคุณภาพน้ำ-ตะกอน พบสารหนูและตะกั่วเกินมาตรฐาน

นอกจากข้อมูลจากมูลนิธิสิทธิมนุษยชนไทใหญ่แล้ว รายงานของ สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่) ที่ได้ดำเนินการตรวจวัดคุณภาพตะกอนดินในแม่น้ำกกและลำน้ำสาขา ได้แก่ แม่น้ำสาย รวก และโขง ตั้งแต่มีนาคมถึงกันยายน 2568 รวม 7 รอบการตรวจ พบสารหนูเกินมาตรฐานอย่างต่อเนื่องในหลายจุด โดยเฉพาะแม่น้ำกกบริเวณชายแดนไทย-พม่า ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่, สะพานสองดินแดนแม่สลัก ต.ท่าตอน, บ้านจะเด้อ ต.ดอยฮาง อ.เมือง จ.เชียงราย และสะพานเฉลิมพระเกียรติ 1 อ.เมือง จ.เชียงราย ซึ่งบางช่วงมีค่าถึงระดับที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพหากบริโภคปลาจำนวนมากและต่อเนื่อง ส่วนตะกั่วพบเกินค่ามาตรฐานบางช่วง เช่น ที่ฝายเชียงราย ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงรา

นอกจากนี้ในลำน้ำสาขา เช่น แม่น้ำฝาง กรณ์ ลาว และสรวย พบค่านิกเกิล ทองแดง และโครเมียมเกินค่ามาตรฐาน แม่น้ำสายและรวกพบสารหนูเกินระดับไม่ปลอดภัยต่อสัตว์หน้าดินเกือบทุกครั้ง ส่วนแม่น้ำโขง โดยเฉพาะบริเวณบ้านสบกกและสามเหลี่ยมทองคำ พบค่าสารหนูสูงถึง 94 มก./กก. และตรวจพบโลหะหนักอื่น เช่น แคดเมียม ตะกั่ว และนิกเกิล เกินมาตรฐานบางจุด รวมภาพรวมพบการปนเปื้อนโลหะหนักหลายชนิดที่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางน้ำในพื้นที่ชายแดนภาคเหนือ

 

ผู้ควบคุมเหมือง และ ความเชื่อมโยงจีน

พื้นที่เมืองยอน ภาคตะวันออกของรัฐฉาน อยู่ภายใต้การควบคุมร่วมระหว่าง United Wa State Army (UWSA) และรัฐบาลทหารเมียนมา การทำเหมืองที่นี่จึงต้องได้รับอนุญาตจากทั้งสองฝ่าย

บริษัท China Investment Mining Company เป็นเจ้าของโครงการเหมืองแร่แรร์เอิร์ธและทองคำในพื้นที่ดังกล่าว โดยเป็นธุรกิจในเครือ Shanghai Chijin Xiawu Metal Resources Co. Ltd. (ถือหุ้น 90% แบบร่วมค้า- joint venture) ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2565 เพื่อพัฒนาสินแร่แรร์เอิร์ธในประเทศลาว ร่วมกับบริษัท Xiamen Tungsten Corporation (รัฐวิสาหกิจจีนด้านแรร์เอิร์ธ) และ Chifeng Gold Co., Ltd. (ผู้ผลิตทองคำเอกชนรายใหญ่ของจีน)

นอกจากนี้ บริษัทเดียวกันยังมีโครงการเหมืองแร่แรร์เอิร์ธในแขวงเชียงขวางตอนเหนือของประเทศลาว ซึ่งภาพถ่ายดาวเทียมเผยการทำลายสิ่งแวดล้อมอย่างกว้างขวาง และมีการปล่อยน้ำเสียสู่ลำน้ำขาว (Nam Khao Stream) ที่ไหลลงสู่แม่น้ำคาน (Nam Khan) และสุดท้ายสู่แม่น้ำโขงที่หลวงพระบาง

 

ผลกระทบข้ามพรมแดนและความวิตกกังวล

การขยายตัวของเหมืองแร่เหล่านี้เกิดขึ้นทั้งที่มีข้อกังวลเรื่องการปล่อยสารพิษสู่แม่น้ำกก ซึ่งเป็นแม่น้ำสาขาที่ไหลผ่านจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และเป็นลำน้ำระดับต้นที่ไหลลงสู่แม่น้ำโขง ส่งผลกระทบต่อทั้งชุมชนไทยและประชาชนลุ่มน้ำโขงด้านท้าย

มูลนิธิ SHRF ระบุว่า “หากไม่มีการตรวจสอบอย่างโปร่งใสจากรัฐบาลทั้งสองประเทศ การปนเปื้อนของโลหะหนักและสารเคมีจะกลายเป็นภัยเงียบที่ส่งผลระยะยาวต่อชุมชนชายแดน”

ทั้งนี้ มีประชาชนไทยกว่าหนึ่งล้านคน ที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำกก และอีกหลายสิบล้านคนที่อาศัยอยู่ในลุ่มน้ำโขง ซึ่งอาจได้รับผลกระทบโดยตรงหรือโดยอ้อมจากแหล่งสินแร่ต้นน้ำในเมียนมา

 

เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความเชื่อมโยงระหว่างการทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ธ-ทองคำในเมียนมา โดยบริษัทจีน กับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพที่อาจลุกลามข้ามพรมแดนไทย - เมียนมา - ลาว แม้จะอยู่ห่างชายแดน 30 กิโลเมตร ก็อาจส่งผลถึงคุณภาพน้ำ ตะกอนดิน และห่วงโซ่อาหารของประชาชนไทยได้

สำหรับประชาชนในพื้นที่ลุ่มน้ำกกและลุ่มน้ำโขง จุดนี้จึงไม่ใช่เรื่องระยะไกล แต่เป็นความเสี่ยงที่ใกล้ตัว และหากไม่มีมาตรการที่ชัดเจน โปร่งใส และข้ามชาติ การปนเปื้อนและผลกระทบต่อสุขภาพอาจเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้

 

 

ข้อมูลจาก:

Shan Human Rights Foundation (SHRF) - October 28, 2025

Shan Human Rights Foundation (SHRF) - May 15, 2025

สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่)

Contact Information

  • : มูลนิธิกองทุนไทย Thai Fund Foundation 2044/23 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ บางกะปิ ห้วยขวาง กรุงเทพ 10310
  • : webmaster@thaingo.org
  • : 082 178 3849
  • : www.thaingo.in.th

Thai NGO

ข่าวสารสังคมนอกสื่อกระแสหลัก ข่าวสารความเคลื่อนไหว เกี่ยวกับเอ็นจีโอ ข่าวกิจกรรมเพื่อสังคม งานสัมนา สมัครงานเอ็นจีโอ ร้องเรียน แจ้งข่าว…ประนามประจาน !! ที่ได้รับความทุกข์ร้อนไม่เป็นธรรม