ความล่มสลายของทุนผูกขาด คือ อนาคตใหม่ของประชาชน

24 16 Jan 2025

เมื่อวาน เบิกบานกันทั่วไทย เมื่อทราบข่าว พรบ.สุรา แก้ไขใหม่ ได้ผ่านวาระ ในสภา 3 วาระรวด แบบจับมือกันทุกๆ ฝ่าย ทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล ซึ่งสำหรับอิ่มเอิบมากกว่าใครๆ เพราะ ถ้อยความสำคัญ ที่ฝากไปกับหฃายพรรคการเมืองก่อนนี้ ถูกบรรจุเป็น เจตนารมณ์ ของกฎหมาย คือ “เกษตรกรไทย มีสิทธิ มีเสรีภาพ ที่จะแปรรูปสร้างมูลค่าให้กับพืชผลการเกษตรของตนได้”... “รัฐ มีหน้าที่อำนวย ความสะดวก อย่างทั่วถึงและเที่ยงธรรม”  ... “สิทธิและเสรีภาพนี้ ต้องถูกบรรจุไว้ในกฎหมายรัฐธรรมนูญ”

 

ประเทศนี้ล่าช้า ในการพัฒนาทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม มาจาก 2 เรื่อง คือ ทุนไทย อิงรัฐและอ้างความเป็นชาติ เพื่อทำการผูกขาด มายาวนาน กลายเป็น “ทุนอภิสิทธิ์” และเป็นทุนอุปถัมภ์รัฐ ทำให้ เศรษฐกิจไทยไม่เติบโต ไม่เกิดการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรม  และ สอง รัฐไทย ทำหน้าที่คุ้มครองทุน (บางกลุ่ม) และ ผลประโยชน์ เอื้ออุปถัมภ์ มายาวนาน จนขาดการวางตัวเป็นกลางและเป็นธรรม รวมถึงไม่สามารถเป็นกลไกที่คอยอำนวยความสะดวก คอยสนับสนุนการก่อเกิด การเติบโตของประชาชน

 

ทุนผูกขาดเหล้า-เบียร์ สำหรับผมถือ สัญลักษณ์ ความคร่ำครึมาแต่โบร่ำโบราณ ชนิดเดียว ที่ยังหลงเหลืออยู่ เป็นความน่าอับอายของประเทศนี้ ประเทศที่ประชาชนเกือบ 90% เป็นเกษตรกร ประเทศที่ผลิตอาหาร วัตถุดิบ ส่งออกเกือบทั่วโลก แต่ไม่มี ไวน์ไทยดีๆ จากผลไม้ไทย หรือ ไม่มี วิสกี้ บรั่นดี ดีๆ ที่หลากหลาย ออกมาอวดชาวโลก หรือ เป็นหน้าเป็นตาประเทศ

 

การผูกขาดของทุนไม่ใช่ ไม่ใช่สิทธิ และการถูกคุ้มครองทางกฎหมาย ถูกกีดกันจากจากนโยบาย และถูกกลั่นแกล้ง กดดัน เหนี่ยวรั้งจาก ระเบียบ ข้อบังคับของกระทรวง ทบวง กรม ไม่นับท่าทีของข้าราชการในพื้นที่ แต่ทุนผูกขาด ยังปิดกั้นด้วยระบบ สายส่ง และช่องทางการซื้อขายหรือการเข้าถึง อาทิ สุราชุมชน ไม่สามารถขาย หรือวางจำหน่ายได้ในเซเว่น ที่กลไก พ่อค้าคนกลาง กระจายสินค้า หรือ ไม่มีระบบ ยี่ปั้ว ซาปั้ว ทำให้สุราชุมชน แม้จะผลิตได้คุณภาพ ก็ทำตลาดยาก อีกทั้ง ไม่มีทุนจัดอีเว้นต์ เพราะปัจจุบัน งานอีเว้นต์ งานดนตรี ต่างๆ รับทุนมาจากเหล้า -เบียร์ แล้วปิดกั้น สุราท้องถิ่น รวมถึง งานอีเว้นต์ ในพื้นที่ราชการ หรืออีเว้นต์ ราชการ ก็ “ห้ามจำหน่ายแอลกอฮอล์” “พรบ. สุรา ห้ามโฆษณา ที่รวมถึง ห้ามเห็นภาพสินค้า สัญลักษณ์ เครื่องหมาย และห้ามสาธยาย รส สี กลิ่น” ทำให้ แม้จะมีกฎหมาย ให้โอกาส “ผลิต” แต่ก็ยังมืดมน ในการจำหน่าย การเข้าถึงตลาด หรือ ผู้บริโภค อยู่ดี

 

เพราะที่ผ่านๆ มา ฝ่ายทุน และฝ่ายราชการที่รับใช้ทุน รวมถึง สสส. ที่มองการแก้ปัญหาแค่มิติเดียว กลายเป็น สร้างกฎหมาย เอื้อนายทุน มากกว่า สร้างความเสมอภาค แก่ประชาชน นี่ไม่นับรวม กลไกภาษีและแหล่งทุนภาครัฐ

 

เราเกิดและอยู่ อย่างกล้ำกลืนในประเทศนี้มาหลายชั่วอายุคน ภายใต้กลไกรัฐ ราชการที่ รวมศูนย์อำนาจไว้ส่วนกลาง ส่วนกลางที่เขียนกฎหมาย ส่วนกลางที่ก้มหัวรับใช้ นาย หรือ นายทุน และส่วนกลางที่มองไม่เห็นปัญหา อะไรเลย ในความชอกช้ำยากจน สิ้นไร้ความหวัง มายาวนานของเกษตรกร ชาวไทย

 

ข่าวเมื่อวาน อาจจะเป็นธรรมดาของใครบางคน แต่สำหรับผม สำหรับนักต่อสู้เพื่อสร้างความเป็นธรรมทสงเศรษฐกิจ นี่คือ ข่าวดีที่สุดข่าวหนึ่ง ในต้นปีนี้ ขอให้มีข่าวดีแบบนี้ เรื่อยๆ ไปทั้งปีนะครับ