ภัยพิบัติ "ชีวิต"

275 09 Oct 2024

หลายเดือนมานี้ นั่งดูภาพข่าว เพื่อนพี่น้องคนไทยทางภาคเหนือ ประสบภัยธรรมชาติ หนักหนาสาหัส มาก สูญเสีย ทั้งชีวิตและทรัพย์สิน หลายครอบครัวถึงสิ้นเนื้อประดาตัว นับ 1 ใหม่ หรือ บางครอบครัวอาจจะติดลบ เป็นหนี้เป็นสิน ก็คงได้แต่ส่งกำลังใจให้

 

คิดในแง่ดี ก็บอกได้ว่า ภัยธรรมชาติ ไม่ได้เกิดขึ้นทุกวัน หรือ ทุกปี บางที่ แทบจะได้บอกได้ว่า ตั้งแต่เกิดมาพึ่งเจอะเจอ น้ำป่าที่รุนแรงขนาดนี้ หรือน้ำท่วมมากมายมหาศาลแบบนี้ ถ้าเอาชีวิตคน คนหนึ่ง บนเส้นทางกาลเวลา สั้นๆ แค่ 50 ปีหรือ 70 ปี ก็อาจจะไม่เคย แต่ถ้าคิดดีๆ ไตร่ตรองถี่ถ้วน จะนึกออกว่า เหตุการณ์ลักษณ์นี้ เคยเกิดขึ้น ที่โน่น ที่นี่ อยู่เรื่อยๆ ในบ้านเรา หรือ ทุกที่ทั่วโลก

 

ธรรมชาติมนุษย์ ก็มักจะเอาประสบการณ์การรับรู้ของตัวเองเป็นเกณฑ์ จึงไม่ได้ คิดแผนรับมือ คิดออกแบบ ทางออก ทางรอด ว่า ถ้าน้ำท่วมโลกตามคำพยากรณ์ เราจะทำอย่างไร อะไรที่เราสละได้ อะไรที่เราปกป้อง ยกย้าย หนีน้ำ หรือ พาครอบครัวให้รอด อย่างไร

 

หลายคน ก็ ไม่อยากจะเชื่อ เวลาผมดูแผนที่โลก หรือ ภาพถ่ายดาวเทียม มายังพื้นโลก ผมมักเห็นร่องรอยของน้ำตามหุบเขา ไหล่เขา ซึ่งอาจจะเคยเกิดขึ้นเมื่อ 100ปี 1000ปี หรือ 10,000ปีมาแล้ว หากใครอ่านหนังสือ แนวขุดค้น ของโบราณล้านปี หรือ วารสารธรณีวิทยา จะพบงานเขียนที่อ้างหรือพบเห็นเปลือกหอยทะเล บนภูเขา หรือ กระดูกปลา ในทะเลทราย ฉะนั้น ไม่แปลกที่ จะรู้สึกว่า เกิดมาจนแก่ปูนนี้ (70ปี) ไม่เคยเห็น ไม่เคยเกิดขึ้น แหละบอกว่า โลกวิกฤติ ทั้งๆ ที่โลกก็เป็นไปตามวิถีโลก สัตว์ มนุษย์ ต้องตั้งมั่น เรียนรู้ และ ทำจิตใจให้พร้อม เสมอ

 

นี่แหละ คำว่า ภัยพิบัติธรรมธรรมชาติ ยากจะประมาณการ ใครจะเชื่อว่า บนดอยสูง จะเกิดภัยพิบัติ น้ำท่วม ผมว่านี่คือการเตือนสติเราจากภัยธรรมชาติ ฝนจะตกตรงไหนก็ได้พื้นผิวโลก ดังนั้น จงมีอย่างไม่ประมาท และเรียนรู้ที่ปลดปลง ไม่ยึดติด และ คิดในทางที่ดี คิดบวก เพื่อให้ตัวเรามีความหวัง เสมอๆ รวมถึง กลับมาสนใจคนอื่นๆ อยู่อย่างพึ่งพา อย่ามีชีวิตแยกขาด เห็นแก่ตัว ปลีกตน แต่ ต้องพาตัวเองหถนกลับไปสู่ ครอบครัว เครือญาติ ชุมชน และ สังคม  เพราะภาพหนึ่งที่น่าปลื้มใจมาก คือ คนไทยด้วยกันเยอะมาก ออกไปอาสา ไปช่วยกัน ระดมข้าวของ แม้แต่ที่นี่ อ.พนมดงรัก ก็ป่าวประกาศ ขอเรี่ยไร ข้าวสารอาหารแห้งของใช้ต่างๆ ไปช่วยเหลือ เป็นสังคมที่ยังห่วงใยกัน

 

พูดเรื่องภัยพิบัติธรรมชาติไปแล้ว ก็มาเทียบเคียงภัยพิบัติชีวิตกันบ้าง หลายคนคงโดนพายุเศรษฐกิจพัดกระหน่ำ โดนโชคชะตาเลวร้าย ท่วมท้น จนลอยคอ ร้องขอความช่วยเหลือ หลายคู่อาจจะถึงกับ แยกขาด ตัดหย่า เดินคนทาง บ้างก็สิ้นเนื้อ ประดาตัว กิจการเจ๊ง เป็นหนี้ท่วมหัว

 

ภัยพิบัติธรรมชาติอาจจะนานๆ ที แต่ภัยพิบัติชีวิต บางคนเจอแทบทุกปี หนักบ้างเบาบ้าง เป็นไปตามโชคชะตา หรือ วิถีการดำเนินชีวิต คนที่ฉลาดคือที่ตั้งสติ คนที่ค้นพบสวรรค์บนดินคือคนตั้งมั่นในความดีงาม ค้นพบคุณค่าตัวเอง อาจจะเจอพายุชีวิตบ้าง แต่ก็จะมีบริวาร หรือ เพื่อนสนิท มิตรสหาย ญาติๆ แห่ห้อมช่วยเหลือ

 

บางคนคลั่งรวย หาเงินได้เป็นกอบเป็นกำ ด้วยวิถีทางที่ผิด และหลงตน หาเงินได้ ใช้เงินซื้อบริวาร ซื้อฐานะ หน้าตา  ซื้อความสะดวกจากเจ้าหน้าที่ ก็ยิ่งหลงใหล เดินผิดลู่ผิดทาง วันหนึ่งก็จะเข้าใจว่า มีได้ ก็เสื่อมได้ เมื่อภัยพิบัติเข้าบ้าง หรือแม้แต่ ใช้ชีวิตคู่ อยู่กันมานานๆ ก็เริ่มประมาท ละเลย ไม่ดูแล ใส่ใจวันหนึ่งพายุก็เข้า อย่างจัง.. พัดหลังคา ฝาผนัง เสาเรือน ลอยไปคนละทิศละทาง และสุดท้ายคือ หย่า!!

 

หมดเนื้อหมดตัว หมดพลังงานชีวิต หมดฝัน หมดทุกอย่าง สิ่งที่ทำได้คือ ประคองลมหายใจ ทนให้ได้ อยู่ให้รอด รอให้แผล ให้จิตใจสงบ...  พอแล้วๆๆ พอแค่นี้ !!