ดินเหนื่อย

26 09 Oct 2024

 

เมื่อวานเดินย่ำย่ำผืนดิน หลังฝนพร่างพรำ ซึ่งก็พร่างพรำมาหลายวันติดๆ ทำให้ดินนุ่มอุ้มน้ำ ต้นไม้ใบร่าร่าเริง และยุง รวมถึงแมลงไพร หิวโซ ฟ้าอึมครึมแทบทั้งวัน ใต้ร่มไม้จึงมืดทึบทึม ยิ่งมืดยุงยิ่งชุม จนรู้สึกคันยุบยิ๊บ ไปทั่วตัว

 

เวลา 17.00 นาฬิกา ถ้าไม่มีครึ้มฝน ฟ้าก็แจ้ง แดดยังไม่หลุบพ้นขอบฟ้า แต่ระยะมีพายุฝน จึงโพล้เพล้ไวกว่าเดิม ผมรีบจ้ำอ้าว ในมือมีถุง เหง้าผักเปราะ ที่สั่งซื้อออนไลน์มา กับกิ่งหม่อน ที่เอามาปักเล่นๆ เผื่อจะงอกและรอด ปีนี้ ผมหันสนใจดูแลสวน ไร่มากขึ้น เนื่องจาก กระแสการค้าการขาย หดตัว บวกรวมกับ ฤดูกาลของฝนฟ้า ช่วงเข้าพรรษา ก็เลยยิ่งเงียบ โชคดี ชีวิตดราคนชนบท ทำหลายอย่าง เป็นอาชีพ จึงไม่ค่อยกังวลหรือเครียดมากนัก

 

นานๆ เดินย่ำดิน จริวๆ ก็เดินทุกวันแหละ แต่ส่วนมากเดินเพื่อไปให้ถึงจุดหมาย ไม่ใช่เดินเพื่อพินิจพิจารณา สรรพสิ่งรอบเท้า หรือใต้ฝ่าเท้า เพื่อหาที่เหมาะๆ ขุดฝังกิ่ง และหาที่เหมาะๆ ฝังเหง้าผักเปราะ หลายปีแล้วที่ ผมพักดิน ปล่อยให้เขาพักผ่อน หลับสบายไปตามฤดูกาล ไร่ทวนลม กับ ไร่อิ่มเอม เคยผ่านงานหนัก ทั้งข้าว ปอ มันสำปะหลัง  และยูคาร์ลิปตัสมา อย่างน้อยๆ ก็ 30-40 ปี พึ่งมาพักได้ 10 กว่าปี และสวนซีโมน (แปลงโรงบ่ม) พึ่งได้พักแค่ 8-9 ปี

 

ทุกจอบที่สับลึกลงไปจึงรู้ได้ ถึงความตกใจของผืนดิน ดินที่ค่อยๆฟื้นคืน เนื้อดินแน่น คลาคล่ำไปด้วยรากไม้รากพืช ที่ถักทอกันอยู่ใต้ดิน บางความเชื่อ เล่าว่า ต้นไม้ ส่งสาส์น หรือสื่อสาร กันผ่านราก ที่แผ่ออกไป รากต่อราก รากต่อราก เต็มทั่วผืนป่า ต้นไม้มีภาษาและมีสุ้มเสียงสื่อสารพูดคุยกัน เป็นสัญญาณเป็นเสียงรูปแบบหนึ่ง ดังนั้น เวลาใครไปนอนป่า ในยามดึกที่เงียบสงัดจะได้ยินเสียงป่า สนทนากัน

 

เมื่อเย็นผมเดินย่ำไปเงียบๆ บรรจงขุดช้าๆ พินิจสี สภาพ เนื้อดิน ที่ค่อนข้างดำขลับ มีเศษใบไม้ผุกพังทับถม เต็มไปหมด บางสายตา คงมองว่ามันรกเรื้อ ระเกเระกะ ไร้ระเบียบ แต่สำหรับผม นี่แหละระเบียบของธรรมชาติ มีไม้เล็กไม้ใหญ่ ไม้เลื้อย นานาต่างๆ  แอบอิงอาศัย กันและกัน รากสั้นกินหน้าดิน รากแก้วลงชั้นลึก แผ่วงกว้าง สรรพสัตว์ก็เช่นกัน ยกเว้น มนุษย์เท่านั้น ที่อยู่อย่างตัดขาด ต่อกันมากขึ้นทุกวัน ไม่เชื่อมราก และแย่งแสงสว่างกัน มากกว่านั้น คือ กอบโกย ตักตวง ไม่รู้จักแบ่งปัน โลกมนุษย์จึงมีการกดขี่ เอาเปรียบ มีคนผูกขาด และมีคนรวย แบบรวยล้นฟ้า มีคนจน ที่ขาดแม้กระทั่งข้าวสารจะกรอกหม้อ!!

 

โลกปัจจุบัน คนอิ่มพี ร่ำรวย หรือมีชีวิตสุขสบาย มาจากการรีดความอุมดมสมบูรณ์จากผืนดิน น้อยคนนักจะบำรุงที่ดิน หรือปล่อยให้ผืนดินได้พักผ่อนเสียบ้าง ที่ดินบางผืน ปลูกแล้วปลูกอีกปีละหลายๆ รอบ อยู่รอดได้ด้วยปุ๋ยเคมี ซึ่งเหมือนอาหารสำเร็จรูป ผืนดินหลายแห่งทเริ่มแข็ง กระด้าง บ้างเป็นทราย บ้างเป็นสีขาว ซีดเซียว ดูไร้ชีวิต ไร้จิตวิญญาณ ไม่มีไม้อื่น ไม่มีชีวิตชีวา อ้างว้าง และหม่นหมองหดหู่ ผมเห็นผืนดินแบบนี้เต็มไปหมด

 

ใกล้ค่ำแล้ว เหง้าผักเปราะหมดจากถุง เหลือแค่กิ่งหม่อนอยู่นิดหน่อย ผมเดินออกมาจากใต้ร่มป่า สูดอากาศเข้าปอดลึกๆ วาบหนึ่ง แอบขอบคุณตัวเองที่ ตัดสินใจเด็ดขาด กลับบ้าน และแอบชมตัวเอง ที่กล้าจะแหวก แตกต่าง จากคนอื่นๆ ทำในสิ่งที่อยากทำ ที่ฝันจะทำ คือ ปลูกป่า และปลดปล่อยให้ผืนดินได้พักผ่อน ได้หายเหนื่อย

 

จู่ๆ ผมก็เริ่มกลิ่นหอมของผืนดิน กลิ่นอ่อนโยน ละเมียด คล้ายๆ กลิ่นใบไม้ผุ คละเคล้า กลิ่นผืนดิน เมื่อยามโอบอุ้มน้ำ และกับคนที่รักผืนดินเท่านั้นจะได้กลิ่นหอมรัญจวนนี้ ฟ้ามืดค่ำแล้ว  ผมเดินยิ้มเงียบๆ กลับบ้าน!!

Contact Information

  • : มูลนิธิกองทุนไทย Thai Fund Foundation 2044/23 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ บางกะปิ ห้วยขวาง กรุงเทพ 10310
  • : webmaster@thaingo.org
  • : 082 178 3849
  • : www.thaingo.in.th

Thai NGO

ข่าวสารสังคมนอกสื่อกระแสหลัก ข่าวสารความเคลื่อนไหว เกี่ยวกับเอ็นจีโอ ข่าวกิจกรรมเพื่อสังคม งานสัมนา สมัครงานเอ็นจีโอ ร้องเรียน แจ้งข่าว…ประนามประจาน !! ที่ได้รับความทุกข์ร้อนไม่เป็นธรรม