4 คำถาม ทลายโลก

132 21 Aug 2024

 

 

เมื่อวานมีน้องๆนักศึกษาเอกบริหารธุรกิจ จาก มรภ.สุรินทร์ มาขอสัมภาษณ์ เพื่อทำโครงการส่งอาจารย์ นี่เป็นการสัมภาษณ์ ที่เนื้อหาแน่นที่สุดในรอบหลายปีมานี้ จากคำถาม ที่น่าสนใจ ทั้งหมด 4 คำถาม ซึ่งกินเวลาอธิบายถึง 4 ชม. ตั้งแต่ 16.00-20.00 น. คำถามแรกคือ ทำไมต้องเป็นไวน์ คำถามที่สอง ไวน์ มีบทบาทอย่างไรกับเศรษฐกิจชุมชน คำถามที่สาม วางแผนจัดโครงสร้างองค์กรอย่างไร และคำถามที่สี่ มองภาพรวมทั้งหมดอย่างไรแค่ไหน

 

ผมชอบคำถามยากๆ เพราะมันทำให้สมองผมทำงานสุดกำลัง และคำถามที่ดี จะนำมาซึ่งคำตอบที่ดีด้วย เป็น 4 คำถามที่กินเวลาทำไวน์ผมทั้งหมด และ ลึกไปถึง ที่มาที่ไป สาวลึกไป ปรัชญา อุดมการณ์ การมีชีวิตทั้งชีวิตของผม ตั้งแต่การศึกษา ที่ก่อรูปเป็นอุดมการณ์ เป็นปณิธาน การมีชีวิตว่าจะทำอะไร เพื่ออะไร หรือเพื่อใคร มาจนถึงการทำงาน NGOs มีผลอย่างไร การผันตัวเองมาปลูกป่า มาทำไร่ทวนลมไร่อิ่มเอม มาสร้างสำนึก เยาวชนคนหนุ่มสาว มาสนใจปัญหา ในชุมชน และ ชีวิตกลับมามองมาสนใจ ปากท้องตัวเอง ครอบครัว พ่อแม่ หรือ ความจริงแท้ ของการมีชีวิต เป็นคน มาจนถึงทำสินค้าแปรรูปต่างๆ ข้อจำกัด ที่การปั้นแบรนด์ บ้านนอก และการหยั่งรากธุรกิจ ที่เป็นไปได้จริงๆ บนพื้นฐานจากจุดเริ่มต้นคือ ไม่มีทุน ไม่มีประสบการณ์

 

คำถามคือ 4 ที่ทำเอาเหนื่อย ลากยาวถึง 2 ทุ่มคือ มองภาพรวม การทำงานอย่างไร ?

 

ผมบอกว่า จังหวะก้าวที่ DeSimone มองมีทั้งหมด 5 กลุ่มงานหรือ 5 ภารกิจที่ยาก พอสมควร แต่ก็ละเลยไม่ได้ เพราะล้วนแต่สำคัญ คือ

1 วัตถุดิบ หลักการสำคัญมาก ของการทำไวน์ข้อหนึ่งคือ ผลไม้ดี มีคุณภาพ ก็จะได้ไวน์ดี นั่นหมายความ ผู้ปลูกหรือ ชาวสวน จะต้องดูแล คัดสรร วิธีการปลูกการดูแล เพื่อให้ได้ผลไม้ที่เหมาะ หรือมีคุณสมบัติเป็นเลิศในการทำไวน์ ซึ่งเรื่องนี้ ใหม่มาก เพราะส่วนมากเกษตรกร มักเอาง่าย เอาเร็ว เอามาก เก็บผลผลิตที่ไม่พร้อม ไม่ได้คุณภาพ ไม่สุก  มาให้เรา

 

อีกทั้ง ผลไม้หลายชนิด ยังเป็นผลไม้บ้านๆ หรือผลไม้ป่า ที่ให้ผลผลิตตาม สภาวะธรรมชาติ ดังนั้น การพัฒนาพันธุ์ ปรับปรุงพันธุ์ จึงเป็นอีกเรื่องที่ต้อง ใส่ใจ ค้นคว้าวิจัยกันต่อ

 

2 การตลาด และการกระจายสินค้า เรื่องที่ยากที่สุด จุดตายของวิสาหกิจ หรือ SMEs ชุมชน คนตัวเล็กๆ อย่างเราคือตลาด สินค้าเราเป็นสินค้าที่เข้าไปแย่งตลาดที่มีเจ้าผู้ครอบครองมาก่อนนาน มีทุนใหญ่ มีกฎหมาย นโยบาย มีท่าทีเจ้าหน้าที่คอยคุ้มครอง ล้วนแต่เป็นอุปสรรค ทำสินค้าว่ายาก ทำยังให้คนซื้อ ( ซ้ำเป็นที่สอง สาม สี่ )  นั้นยากยิ่งกว่า แถมเราไม่มีระบบสายส่ง ยี่ปั้วซาปั้ว ไม่มีร้านจำหน่าย และในกรณี สุรินทร์ยัวถูกขัดขวาง ปิดกั้น ไม่สนับสนุนจากบางหน่วยงาน ทำให้ ยุ่งยากมากขึ้น แถมกำลังการผลิตน้อยต้นทุนจึงสูง ราคาก็แพงตามมา บวกกับ สังคมไทย ไม่นิยม ภูมิใจ ในการซื้อสินค้าท้องถิ่น ต่างจากเกาหลี ญี่ปุ่น ที่มีความเป็นชาตินิยม มีความรักในชาติ ทำให้สินค้าท้องถิ่นยืนได้ เข้มแข็งไว

 

3 การสร้างองค์กรและการพัฒนาทรัพยากรบุคคล ต้องยอมรับว่าน่าตกใจ ที่ ไวน์ ผลไม้ไทยยังเป็นเรื่องล้าหลัง มีแต่คนตกใจว่า มะขามทำไวน์ได้หรอ เสาวรส กล้วย มะม่วง ทำไวน์ได้หรอ ในขณะที่ต่างชาติ เมื่อได้ชิมต่างร้อง Woww!! เราขึ้นชื่อเรื่องผลไม้ สารพัดชนิดที่อร่อย ติดตลาดโลก แต่เราไร้ชื่อ เรื่องไวน์ผลไม้ ที่สำคัญ คือ ไร้ ทรัพยากรบุคคล ที่เก่งชำนาญ หรือ เคยศึกษา ประเทศที่มีผลไม้มหาศาล แต่ไม่มีสาขาวิชา วิทยาศาสตร์ ไม่มีบุคลากร มาสนับสนุน การสร้างบุคลกร จึงสำคัญพอๆ กับการสร้างองค์กร ที่ต้องวางแผน วางระบบงาน ขอบเขตหน้าที่ และวางกลไกการทำงาน อย่างเป็นระบบ ใครดูแลตลาด การบริการ ใครดูแลลูกไร่ลูกสวนดูแลคัดสรรคุณภาพผลไม้ ใครดูแลกระบวนการหมัก บ่ม ใครดูแลบัญชีและสวัสดิการพนักงาน ฯลฯ

 

4 การพัฒนากระบวนการ การผลิต เรื่องนี้ก็สำคัญ เพราะถ้าอยากเติบโต การพัฒนาสินค้าให้ได้มาตรฐาน ให้ถูกยอมรับ ให้น่าสนใจน่าซื้อ ด้วยรูปลักษณ์ บรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม ล้วนแต่ต้อง พัฒนาทำให้ดียิ่งๆ ขึ้น เพื่อการแข่งขันในตลาดที่กว้างๆออกไปได้

 

5 กฎหมายและนโยบาย ของรัฐ เรื่องนี้ จริงๆ ไม่มีควรมีเลย ในสารบบปัญหา เศรษฐกิจสำหรับประเทศที่อยากให้เศรษฐกิจ เติบโตร่ำรวย  ประเทศที่ประชากรเกือบ 90% เป็นเกษตรกร แต่กลับเป็นเรื่องแรกๆ ที่ทุกคนถอดถอนใจ คือ ปัญหาจากรัฐ ทั้งกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ ต่างๆ ที่กดเราไว้ ที่ดึงเราลงไปสิ้นแรงและตาย โดยไม่ต้องออกไปแข่งขันกับ เจอแค่ กฎหมาย ห้ามโฆษณา กับ กฎหมายของกระทรวงสาธารณสุข ก็ตายแล้ว แถมกำลังความสามารถของฝ่ายการเมือง ก็อ่อนด้อย การเมืองที่วันๆเล่นแต่การเมืองมไร้ประสิทธิภาพ ในการส่งเสริมสนับสนุน ทำให้ วิสาหกิจ รวมถึง SMEs เกิดยากและตายง่าย !!

 

เรายังต้องแบ่งเวลามาติดตาม คอยระวัง คอยกลัวการสอดส่องจับปรับ  คอยติดตามว่า งานไหน เราจำหน่ายได้บ้าง ไม่รวมเงินทุน ที่เอื้อมไม่เคยถึง ทุน ที่ไม่มีนโยบายเข้ามาหนุนเสริม ทั้งๆ ที่การแปรรูป ผลผลิตเกษตร คือหัวใจ ของการแก้ปัญหา ไม่นับรวม กลไกภาษี ก็ไม่เอื้อ ไม่ให้โอกาส รายเล็กรายย่อยรายใหม่ ทำให้ การเมืองก็ดี กลไกรัฐก็ดี ไม่ได้ช่วยให้เราเข้มแข็ง มีพลังออกไปต่อสู้กับคู่ค้าข้างนอกเลย

Contact Information

  • : มูลนิธิกองทุนไทย Thai Fund Foundation 2044/23 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ บางกะปิ ห้วยขวาง กรุงเทพ 10310
  • : webmaster@thaingo.org
  • : 082 178 3849
  • : www.thaingo.in.th

Thai NGO

ข่าวสารสังคมนอกสื่อกระแสหลัก ข่าวสารความเคลื่อนไหว เกี่ยวกับเอ็นจีโอ ข่าวกิจกรรมเพื่อสังคม งานสัมนา สมัครงานเอ็นจีโอ ร้องเรียน แจ้งข่าว…ประนามประจาน !! ที่ได้รับความทุกข์ร้อนไม่เป็นธรรม