ใครจะกิน ไวน์มึง ?..

453 26 Jun 2024

สิ่งหนึ่งที่สอนผมได้ดีมากๆ เมื่อพาชีวิตมาสู่เส้นทางคนทำไวน์และคนขายไวน์ ความน่าสนใจคือ 2 สิ่งนี้สัมพันธ์กันอย่างลงตัว คือ ตัวผมกับไวน์ มีความเป็นพื้นเมือง ทั้งรูปลักษณ์ กลิ่นสี ลีลาท่าทาง และชาติกำเนิด ในช่วงแรกๆ ที่ผมพา DeSimone ออกสู่อาณาจักรของนักดื่ม เรายืนเรียกคน อ้อนเขา กวักมือ เชื้อเชิญ คนแล้วคนเล่า มองผ่าน เดินผ่าน มุ่งตรงไปที่บูธไวน์องุ่น เสียงสั่งของ  1 ลัง 5 ลัง 10 ขวดดังออกมาเป็นระยะๆ ลังไวน์ กล่องไวน์ ถูกเข็นออกมาจากหลังร้าน ผมมองตาม เงียบๆ น้ำตาเอ่อ ปริปริ่ม ถามตัวเอง เบาๆ “กูมาทำไม ว่ะ ?”

“ไม่มีต้อนรับมึงหรอก ?”     “ไม่มีใครอยากกินไวน์บ้านนอกของมึง..!!

ลูกค้าคนแรกที่เข้ามาซื้อ เหมือนเดินพลัดหลงเข้ามา ดูทีท่าเหมือน ไม่รู้จะซื้ออะไร มันเยอะไปหมด มันกว้าง มันใหญ่โตจนไม่อยากเดิน ผมแอบมองเค้า มาพักหนึ่งแล้ว ผมจะซ้อมขายกะคนนี้แหละ ผมคิดในใจ เพราะผมรู้แล้ว คนที่นี่ คนกรุง คนในเมืองทอง เขาไม่สนใจไวน์บ้านนอกของผมหรอก อย่างที่ชาวบ้านถามผม ตั้งแต่วันแรกที่ขุดหลุมลงเสาโรงบ่ม ว่า “ใครจะกินไวน์มึง ?”

 

เขายืนเก้ๆ กังๆ ห่างจากบูธ ผมไม่ถึง 2 เมตร มองผมแบบอายๆ ในรอยยิ้ม ในดวงตา และใบหน้าที่ประหม่า ผมรู้ทันทีเลยว่า “บ้านนอก” คนพันธุ์เดียวกับผม แบบนี้คุยกันได้ ผมชอบ เกือบอึดใจที่เขายังยืนยู่ตรงนั้น ต่อหน้าผม  จนผมเรียกซ้ำครั้งที่สาม “ม๊า... เข้ามา ไม่ซื้อไม่เป็นไร ครับมาชิมดู..”  ผมรบเร้า กวักมือ อย่างอ้อนวอน จนเขายอมเดินเข้ามา

“ผลไม้บ้านเรา...”    ผมใช้น้ำเสียงแบบคนคุ้นเคยกัน นั่นคือคำแรกของพ่อค้าขายไวน์ ครั้งแรก ในเมืองทองธานี ดินแดนของคนเมือง ที่คนบ้านนอกอย่างเราใฝ่ฝันนักหนา ว่าเป็นแดนสวรรค์ของการค้าขาย ผลไม้บ้านนอก คนบ้านนอก และ สินค้าบ้านนอก ได้มายืนเชย มองคนผ่านไปผ่านมา

 

ลูกค้าคนแรก ชิมอย่างงงๆ ส่วนพ่อค้า ก็เริ่มแจกแจงสาธยายไปอย่างงงๆ ไม่รู้จะบรรยายตรงไหน ลูกค้าไม่ถาม เราก็ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน เรื่องหมักดีไหม หรือ เรื่องราวที่เราแบกถุงปุ๋ยลุยป่า ไปเก็บกับตาเพลย เรื่องบ่มก็ดี เรื่องเราไม่เคยทำไวน์ หละ เล่าดีไหม ?

 

ไม่ดีหรอก!!
 

ลูกค้าก็ชิมๆ ทำท่าทำทีเหมือนนักชิม ชิมไปยิ้มไป มีบ้างที่นิ่งนึก กับรสสัมผัส ในปาก หรือ ขณะกลืนลงคอไป  ดูตื่นตาตื่นใจ ไม่ต่างจากพ่อค้า

 “อันนี้ลูกอีหยัง...?”

“กะท้อน ครับ”

“อันนี้ เด่ ?”
“บักอิโก่ย ครับ”

 

เขาดูไม่ได้ อยากซื้อรักหรอก ในทีแรก แต่พอชิมไป กลับรู้สึกว่า มันดีจริงๆ สีหน้าขแงเขาเหมือนเห็นความงาม ความหวัง เห็นตัวตนของเขา มโนภาพบ้านเกิด ชายป่า ทุ่งนา และ ผลไม้พื้นเมืองที่ยังดกดื่น ผลไม้พวกนี้ก็คือเขา เขาก็คือผลไม้ คือ พันธุ์พื้นเมือง

 

ผมไม่เคยคิดว่าจะได้คำตอบมาแบบง่ายๆ ว่า  “ใครจะกินไวน์มึง ?” แต่การเมืองทองธานี ครั้งนั้น ทำให้ผมพบคำตอบนี้ คนกินไวน์ ( องุ่น) จริงๆ ไม่กินไวน์ผมหรอก มันต่ำต้อย ในรสนิยม บ้างว่า ไม่อร่อย ไม่อบไม่อวล จริงๆ แล้ว เป็นข้ออ้างที่จะปฏิเสธการยอมรับ การทำความเข้าใจมากกว่า อาหารก็ดี เครื่องดื่มก็ดี เป็นสิ่งที่เกิดจากความคุ้นเคย ยอมรับ เปิดใจมากกว่า ซึ่งคนที่เหยียดหรือปิดกั้น ดูแคลน ไม่ใช่คนพันธุ์เรา แต่เป็นคนพันธุ์อื่น คนมีอันจะกิน

ขณะที่ผมกำลังเก็บแก้วชิมทิ้งลงถังขยะ ชายแปลกหน้าผู้มาจากบ้านนอกแสนไกล ล้วงกระเป๋ากางเกง กำแบงค์พันเก่าๆ ยับยู่ยี่ออกมา ผมมองมืออันหยาบกร้านของเขา และเงิน 1000 บาทนั่น น้ำตาผมปริปริ่ม แทบไหลออกมา แต่รีบฝืนยิ้มให้

“เอาอีหลี ติ ?”  ผมถามย้ำอย่างตื่นเต้น ยืนมาหลายวันแล้ว นี่ผมกำลังจะขายได้ขวดแรกแล้ว จากคนผู้มาจากชนบทห่างไกล น่าจะเป็นค่าแรงที่พึ่งเบิกมา ผมตัดราคาหนเร้านออก เอาแค่ราคาต้นทุน ยื่นให้เขา  เขารับและใส่กระเป๋าเลยโดยไม่คิดจะนับ

“สิเอาไปชิมนำเมีย หมากไม้บ้านเฮา...”  เขาเอ่ยด้วยดวงตาส่องประกายความสุข  

“ใครจะกินไวน์ มึง ?” ผมมักคิดทบทวนคำนี้เสมอ

 “ก็มึง นั่นแหละ ไอ้บ้านนอก!!!” ผมยิ้มเบาๆ ขณะมองตัวเอง ยืนพึมพำ เรียกคนเดินไปมาผ่านไปผ่านมา กลางลานตึกมหึมา ชื่อ เมืองทองธานี   

“ชิมไวน์ ไหมครับ ?”
“ชิมไวน์ไหมครับ ไวน์จากผลไม้ป่า บ้านเราครับ”

..............

คนบ้านนอกอย่างเรามักคิดว่า คนเมือง คนกรุง  ซึ่งก็คือ คนมีเงิน (ในความิดเรา) เขาจะดีใจเมื่อเจอะเจอของป่า ของธรรมชาติ หรือของหายาก ไม่จริงครับ หรือมี แต่น้อยมาก หลายปีมานี้  ที่ผมมาขายในกรุงเทพ ตั้งแต่ สุขุมวิท รังสิต จตุจักร ไบเทคบางนาและเมืองทองธานี  ผมเฝ้ามองคนที่นี่ มองลึกเข้าไปในดวงตา ในหัวจิตหัวใจ ในกริยาท่าที กล้าตอบได้ว่า  “ไม่จริง ครับ...”  คนที่กิน ที่ตื่นเต้นสินค้าคุณ ที่ยอมควักเงินอันน้อยนิด ซื้อและกอดมัน มองมัน หอบหิ้วมันกลับบ้าน อย่างภาคภูมิใจ คือ คนบ้านเดียวกับคุณ นั้นแหละ

 

เมื่อก่อน ผมเคยน้อยใจ เพื่อนพี่น้อง ที่ไม่ยอมอุดหนุน สนับสนุน ชิม ชม เชียร์ แชร์ แต่โพสต์ เหล้าเบียร์อื่นๆ หราหน้าเฟส ได้ทั้งปี ผมเคยน้อยใจ และนั่นเมื่อก่อน ทุกวันนี้ผมไม่รู้สึกไรแล้ว...!!    เพราะผมสู้เพื่อสร้างบางสิ่งบางอย่าง ที่เรียกว่า ตัวตนเรา คนพันธุ์พื้นเมือง และผมดีใจที่ได้เห็นประกายแววตา คล้ายแรงบันดาลใจ

“ใครจะกินไวน์ มึง ?”...ผมยิ้มเงียบๆ ขณะมองเขาเดินออกไปจนลับสายตา
....

การมาเมืองทองธานีรอบนี้ ผมถือโอกาสมาบอกกล่าว เพื่อนพี่น้อง ผู้ร่วมอาชีพประกอบการสุรา ทั้ง สุราแช่ สุรากลั่น ว่าผมจะมาเป็นปีสุดท้าย ( เหลืออีก 2 รอบ  สิงหาคมกับธันวาคม )   ไม่มาเพราะผมรู้ว่าคนกรุงเทพ หรือคนมีอันจะกิน ไม่กินไวน์ผม!! 

Contact Information

  • : มูลนิธิกองทุนไทย Thai Fund Foundation 2044/23 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ บางกะปิ ห้วยขวาง กรุงเทพ 10310
  • : webmaster@thaingo.org
  • : 082 178 3849
  • : www.thaingo.in.th

Thai NGO

ข่าวสารสังคมนอกสื่อกระแสหลัก ข่าวสารความเคลื่อนไหว เกี่ยวกับเอ็นจีโอ ข่าวกิจกรรมเพื่อสังคม งานสัมนา สมัครงานเอ็นจีโอ ร้องเรียน แจ้งข่าว…ประนามประจาน !! ที่ได้รับความทุกข์ร้อนไม่เป็นธรรม