เมืองมนตรา

648 27 May 2024

มันเป็นเรื่องอัศจรรย์ใจมาก ที่ ประเทศนี้ เดินทางร่วมขบวนกับการพัฒนาร่วมกระแสโลกสมัยใหม่ (Modern State) มาเกือบ ๒๐๐ ปี สร้างประเทศด้วยการให้การศึกษาส่งเสริม ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ ไขแจ้ง ความมืดดำ ความงมงาย ไสยศาสตร์ ด้วยความรู้ด้านพุทธศาสนา และ ความรู้สมัยใหม่ สร้างโรงเรียน มหาวิทยาลัย และสาบันวิจัยต่างๆ จนเชื่อว่า ประเทศ ตามทันกระแสโลก ซึ่งมาไกลมากจากยุคแม่มดหมอผี เวทมนต์

 

ผมเองก็เชื่อเช่นนั้น จนเกิดปรากฏการณ์ ต่างๆ สะสมมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ พระยันตระ เรื่อยมา ภาวนาพุทโธ ธรรมกาย เณรคำ เกิด การสร้าง พุทธพาณิชย์ จตุคามรามเทพ ไอ้ไข่ เทพทันใจ พระพิฆเณศ  การท่องเที่ยวเชิงพุทธ การสร้างประติมากรรม เพื่อสร้างสถูป สถาน เจดีย์ รูปเหมือน ที่เน้นไปที่เงินทำบุญ เจ้าแม่กวนอิม  หลวงพ่อ ต่างๆ

 

บางภาพก็อดสงสัยไม่ได้ว่าระหว่าง ความศรัทธากับงมงาย แยกกันห่างแค่ไหน ด้วยอะไร ถ้าเป็นเรื่องระหว่างจิตใจ พลังงานภายในที่ได้จากบูชา และสภาวะที่สงบ นิ่ง เข้มแข็งแน่วแน่ และมีพลังชีวิต สู้ต่อไป ก็ดี เพราะถึงที่สุดแล้ว ก็ต้องมายอมรับว่า ความเจริญ เทคโนโลยี และการศึกษา ไม่ได้ช่วยให้มนุษย์ข้ามพ้นความกลัว ความไม่รู้ ความไม่แน่นอนได้  ก็ต้องมามองอีกครั้ง แล้วมีกลไกอย่างไร ไม่ให้ตัวเองเป็นเหยื่อ เพราเบื้องหลัง ความศรัทธาคือผลประโยชน์มหาศาลจนทำให้ พระสงฆ์ และ วัด  ใช้สถานะ ใช้สถานที่ ขายบุญ ขายตั๋วไปสวรรค์ และ จ่ายเพื่อตัดบาป ตัดกรรม ที่ซึ่ง พุทธ แท้ๆ คงจะรับไม่ได้เพราะพุทธแท้ ไม่สอนอะไรแบบนี้ พุทธ สอนเรื่อง จิต ที่หมายถึงรู้ตน รู้สำนึก สอนเรื่องปัญญา การคิด หาคำตอบ ด้วยสติด้วยปัญญาตัวเอง ไม่ใช่เชื่อ เพราะคนนั้น บอก คนนี้ ยืนยัน พุทธ ให้เพียร หมายถึง มุ่งมั่นกระทำ ฝึกตน เหมือนพุทธองค์ เพียรภาวนา เรียนรู้ ลองปฏิบัติ ฝึกตน  ตั้งจิต ครุ่นคิด นานปี กว่าจะเข้าใจ บรรลุ ไม่ใช่เกิด ก็อุปโลกน์ อ้างลิขิตฟ้า องค์การสวรรค์ คนนั้นคนนี้มาเกิด

 

พุทธ ให้ตั้งจิต ให้เพียรทำ ให้ศรัทธา อยู่ในศีลในธรรม ไม่ใช่ อยากหมดก็ไปเทพปลดหนี้อยากรวยไปไหว้เทพทันใจ อยากใผ้ผัวรักเมียหลง ค้าขายร่ำรวย ก็ไปลงนะ หน้าทองบ้าง ลงมนต์มหาเสน่ห์ นานาต่างๆ เป็นสังคมที่ นอกจากจะงมงาย เพ้อฝัน หลอกตัวเอง แล้วยัง เป็นคนอ่อนแอ ขี้ขลาด ไม่แปลก ที่มีข่าว คนแห่แหนไปเป็นเหยื่อ ไปเป็นสาวก ลูกศิษย์ สำนัก หมอผี แปลกๆ เต็มไปหมด

 

ความอ่อนแอ และโหยหา อยากนิพพานเร็วๆ อยากมีสิทธิ์ขึ้นสวรรค์ แน่ๆ ตั้งแต่ยังไม่ตาย การทำบุญหนักๆ สร้างแล้วสร้างอีก สร้างจนวัดไม่มีที่เดิน ไม่มีความร่มรื่นเย็นกาย สบายใจ วัดกลายเป็นพลุกพล่านของคน ที่มาหาประโยชน์ ไม่ใช่ความสงบ ไม่ใช่สนทนาธรรม

 

ลูกหลานเราและ สภาพสังคมปัจจุบัน จึงดู ป่วยๆ ดูเคว้งคว้าง ไม่ศรัทธาในอะไร ที่ยึดโยงกับความดีความงาม ในการดำเนินชีวิต เลยจำพวก ป่วย วิปริต ซึมเศร้า จึงมีมากขึ้น ทุกวัน

 

เราจะทำให้สังคม การเมือง ความสัมพันธ์ รากฐานวิถี วัฒนธรรม เอื้อและเกื้อกูล เป็นเบ้าหลอม ที่สร้างคน ให้มีจิตใจดีงาม มีเมตตาธรรม มีศีลธรรม มีความเฉลียวฉลาด มีความคิดอิสระ และเชื่อมั่นในตัวเอง ในความสามารถ ในการดำรงชีวิต อย่างมีความสุข มีจุดหมายมีพลังได้อย่างไร ถ้าวันนี้ แม้แต่คนรุ่นผม ยังไม่กล้าพูดหรือ แม้แน่ไม่กล้าคิด หรือ ที่แย่กว่า คือ ไม่รู้ว่า ผิดถูก ควรไม่ควร ดีไม่ดี เห็นอะไรก็ผ่าน มองไม่เห็นคิดไม่ออก ปล่อยให้คนบางจำพวกหากิน ร่ำรวยด้วยการครอบงำ งมงาย กลายเป็นเมืองมนตรา เกลื่อนไปหมด

 

โอ๊ะ ? บ่ายแล้ว ออกไปกินข้าวกะหมอปลาดีกว่า เสร็จแล้วค่อยแวะไปเชื่อมจิต ต่อด้วยลง นะ หน้าทอง และค่อยไปนิพพาน...

Contact Information

  • : มูลนิธิกองทุนไทย Thai Fund Foundation 2044/23 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ บางกะปิ ห้วยขวาง กรุงเทพ 10310
  • : webmaster@thaingo.org
  • : 082 178 3849
  • : www.thaingo.in.th

Thai NGO

ข่าวสารสังคมนอกสื่อกระแสหลัก ข่าวสารความเคลื่อนไหว เกี่ยวกับเอ็นจีโอ ข่าวกิจกรรมเพื่อสังคม งานสัมนา สมัครงานเอ็นจีโอ ร้องเรียน แจ้งข่าว…ประนามประจาน !! ที่ได้รับความทุกข์ร้อนไม่เป็นธรรม