คณะนักวิจัย ลงพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ศึกษาดูงานและประชุมเชิงปฏิบัติการ

5314 25 Jun 2015

คณะนักวิจัย ลงพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ศึกษาดูงานและประชุมเชิงปฏิบัติการ

เพื่อแสวงหาแนวทาง ปัจจัยเอื้ออำนวย และนวัตกรรมในการเข้าถึง รู้เท่าทัน
และใช้ประโยชน์จาก
“สื่อใหม่”ในยุคหลอมรวมเทคโนโลยี

เวทีภาคเหนือตอนบน ณ จังหวัดเชียงใหม่

 

 

                เชียงใหม่ – ๑๒ มิ.ย. คณะนักวิจัยสถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ลงพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ณ จังหวัดเชียงใหม่ ศึกษาดูงานและประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อแสวงหาแนวทาง ปัจจัยเอื้ออำนวย และนวัตกรรมในการเข้าถึง รู้เท่าทัน และใช้ประโยชน์จาก “สื่อใหม่” ในยุคหลอมรวมเทคโนโลยี --- มุ่งแสวงหาแนวทางเพื่อกำหนดกรอบยุทธศาสตร์ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการเรียนรู้ของคนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาส ในยุคหลอมรวมเทคโนโลยี และสร้างอาสาสมัครแกนนำถ่ายทอดความรู้ในยุคหลอมรวมเทคโนโลยีสู่คนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาส
ในพื้นที่

เมื่อวันอังคารที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๘ในช่วงเย็น (๑๘.๓๐ – ๒๑.๐๐น.) คณะนักวิจัยโครงการวิจัยยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพชีวิตและการเรียนรู้ของคนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาสในยุคหลอมรวมเทคโนโลยี สถาบันวิจัยและให้คําปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้เข้าพบหารือและสัมภาษณ์นางมยุรี ยุกตรี พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเวทีภาคเหนือตอนบน เพื่อแสวงหาแนวทาง ปัจจัยเอื้ออำนวย และนวัตกรรมในการเข้าถึง รู้เท่าทัน และใช้ประโยชน์จาก “สื่อใหม่” ในยุคหลอมรวมเทคโนโลยี  ต่อมาใน
วันพุธที่ ๑๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๘ เวลา ๘.๓๐-๑๖.๐๐ น. ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่
คณะผู้วิจัยฯนำโดย รศ. สุปราณี ศรีฉัตราภิมุข หัวหน้าโครงการวิจัย นางสาวพรรณราย ขันธกิจ นักวิจัยดร.อุดม มุ่งเกษม ที่ปรึกษาโครงการวิจัยฯ นายนุกูลสัญฐิติเสรีนางสาววัชรา ไชยสาร นักวิจัย พร้อมคณะ ได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเวทีภาคเหนือตอนบน เพื่อแสวงหาแนวทาง ปัจจัยเอื้ออำนวย และนวัตกรรมในการเข้าถึง รู้เท่าทัน และใช้ประโยชน์จาก “สื่อใหม่” ในยุคหลอมรวมเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการเรียนรู้ของคนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาส โดยได้รับเกียรติจาก นางมยุรี ยุกตรี พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมและมีผู้แทนองค์กรด้านคนพิการทุกประเภท ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาส เข้าร่วมการประชุม จำนวน ๓๗ คน

             วันพฤหัสบดีที่ ๑๑มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๘ เวลา ๙.๐๐– ๑๒.๐๐ น.คณะนักวิจัยฯ นำโดย ดร.อุดม มุ่งเกษม ที่ปรึกษาโครงการวิจัยฯ นายนุกูลสัญฐิติเสรี นักวิจัย พร้อมคณะ เข้าศึกษาดูงาน ณ มหาวิชชาลัยดอนแก้วสร้างสุข องค์การบริหารส่วนตำบลดอนแก้ว (www.donkaewlocal.go.th,www.facebook.com/pr.donkaew) อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อแสวงหาแนวทาง ปัจจัยเอื้ออำนวย และนวัตกรรมในการเข้าถึง รู้เท่าทัน และใช้ประโยชน์จาก “สื่อใหม่” ในยุคหลอมรวมเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการเรียนรู้ของคนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาส การนี้ คณะผู้วิจัยฯ ได้พบหารือและสัมภาษณ์ นายนพดลณ เชียงใหม่ นายก อบต.ดอนแก้ว และนายยุทธนา บุญสูง รองนายก อบต.ดอนแก้ว พร้อมกับเจ้าหน้าที่ และตัวแทนผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ด้อยโอกาสในชุมชนดอนแก้ว  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขอทราบประสบการณ์การพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาสในชุมชน ประเด็นสำคัญที่ขอรับทราบความคิดเห็น ได้แก่ ชุมชนมีการใช้สื่อใหม่ ผ่านช่องทางการสื่อสารโทรคมนาคมที่หลากหลาย เช่น สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ ฯลฯ ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตหรือไม่  มีปัญหาอุปสรรคในข้อใดบ้าง เช่น ขาดอุปกรณ์ (ตัวอย่างเช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ (สมาร์ทโฟน),ขาดความรู้ความเข้าใจในการใช้ หรือไม่เห็นประโยชน์และไม่ต้องการใช้ หรือข้ออื่นๆ พร้อมทั้งขอรับทราบความเห็น และความต้องการของชุมชนในการให้ กสทช. สนับสนุนการได้ใช้ประโยชน์สื่อใหม่ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการเรียนรู้ของ คนพิการ ผู้สูงอายุและผู้ด้อยโอกาสในยุคหลอมรวมเทคโนโลยี

 

 

       ต่อมาในเวลา ๑๓.๐๐–๑๕.๐๐น.คณะวิจัยฯ เข้าศึกษาดูงาน ณ สถานสงเคราะห์เด็กบ้านเวียงพิงค์(Viengping Children's Home--http://baanviengping.go.th) เลขที่ ๖๓/๓ หมู่ที่ ๔ ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อแสวงหาแนวทาง ปัจจัยเอื้ออำนวย และนวัตกรรมในการเข้าถึง รู้เท่าทัน และใช้ประโยชน์จาก “สื่อใหม่” ในยุคหลอมรวมเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการเรียนรู้ของผู้ด้อยโอกาส การนี้ คณะผู้วิจัยฯ ได้พบหารือและสัมภาษณ์ นางสุรีย์พร ชูสุข ผู้ปกครองสถานสงเคราะห์เด็กบ้านเวียงพิงค์นางจิราพร เชาวน์ประยูร ยามาโมโต้ ผู้ปกครองสถานสงเคราะห์เด็กชาย บ้านเชียงใหม่ และนายวิเชียร ในจ๊ะ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จังหวัดเชียงใหม่โดยมีประเด็นหารือ/สัมภาษณ์เกี่ยวกับประสบการณ์การพัฒนาคุณภาพชีวิตและการเรียนรู้ของผู้อยู่ในความดูแลของสถานสงเคราะห์ ประเด็นสำคัญที่ขอรับทราบความคิดเห็น คือ สถานสงเคราะห์ฯได้ใช้ประโยชน์จาก สื่อใหม่ในยุคหลอมรวมเทคโนโลยีในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้อยู่ในการดูแลของสถานสงเคราะห์หรือไม่  มีปัญหาอุปสรรคในข้อใดบ้าง และความต้องการของสถานสงเคราะห์ในการให้ กสทช. สนับสนุนการได้ใช้ประโยชน์สื่อใหม่ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการเรียนรู้ของผู้อยู่ในความดูแลของสถานสงเคราะห์ฯ

                เวลา ๑๕.๓๐–๑๗.๐๐น.คณะนักวิจัยฯ เข้าศึกษาดูงาน ณ ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ บ้านธรรมปกรณ์เชียงใหม่ (http://thammapakorn.go.th) เลขที่ ๑ ถนนมูลเมือง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ การนี้ได้พบหารือและสัมภาษณ์นางมิ่งขวัญ วีระชาติ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านธรรมปกรณ์ เชียงใหม่ และนางมลินีโล่ห์ชิงชัยฤทธิ์ นักสังคมสงเคราะห์ชำนาญการ ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ บ้านธรรมปกรณ์เชียงใหม่ มีพันธกิจในการจัดบริการสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพและได้มาตรฐาน ส่งเสริมสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ พัฒนาองค์กรให้เป็นศูนย์ต้นแบบการจัดบริการสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุระดับประเทศ โดยมีเป้าหมาย ให้ผู้สูงอายุในศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านธรรมปกรณ์ (เชียงใหม่) ดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพและมีความสุขในบันปลายชีวิต ผู้สูงอายุมีศักยภาพสร้างประโยชน์ให้กับสังคมได้ มีเครือข่ายการทำงานด้านผู้สูงอายุที่เข้มแข็งและยั่งยืน และเป็นองค์กรต้นแบบด้านการจัดบริการสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุที่ได้มาตรฐาน

วันศุกร์ที่ ๑๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๘ เวลา ๑๐.๐๐–๑๒.๐๐ น. คณะนักวิจัยฯ เข้าศึกษาดูงาน ณ สภาคนพิการทุกประเภทจังหวัดเชียงใหม่ (www.chiangmaidc.com, www.facebook.com/disabilitieschiangmai) และมูลนิธิบ้านสมานใจ (http://hffcm.org,www.facebook.com/healingfamilyfoundation) ตำบลท่าศาลา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้พบหารือกับ นายไวยวัต ณ เชียงใหม่ ประธานสภาคนพิการทุกประเภทจังหวัดเชียงใหม่ และนายประดิษฐ์ ปรีชานนท์ ประธานกรรมการดำเนินงานมูลนิธิบ้าน
สมานใจ ในการนี้ คณะผู้วิจัยได้เข้าเยี่ยมชมศูนย์บริการคนพิการส่งเสริมการประกอบอาชีพอิสระ โดย ชมรมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญาจังหวัดเชียงใหม่ สภาคนพิการทุกประเภทจังหวัดเชียงใหม่, ศูนย์พัฒนากิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อคนพิการ (ซาโอริ) มูลนิธิบ้านสมานใจซึ่งให้การดูแลและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการออทิสติก

ต่อมาเวลา ๑๔.๐๐–๑๗.๐๐น. คณะนักวิจัยฯ ได้เข้าศึกษาดูงาน ณ องค์การบริหารส่วนตำบลข่วงเปา (อบต.ข่วงเปา) หมู่ที่ ๑๒ ตำบลข่วงเปา อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้เข้าพบหารือ/สัมภาษณ์ นายรุ่งสุริยา เชียงชีระ นายก อบต.ข่วงเปา เพื่อขอทราบประสบการณ์และข้อเสนอแนะการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาสในชุมชน รวมทั้ง ความต้องการของชุมชนในการให้ กสทช. สนับสนุนการได้ใช้ประโยชน์สื่อใหม่ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการเรียนรู้ของคนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาสในยุคหลอมรวมเทคโนโลยี

 

ผลการลงพื้นที่ศึกษาดูงานและจัดประชุมเชิงปฏิบัติการฯ เวทีภาคเหนือตอนบนในครั้งนี้ ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง มีผู้แทนองค์กรคนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาส เข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการและสมัครเข้าเป็นอาสาสมัครแกนนำถ่ายทอดความรู้ในยุคหลอมรวมเทคโนโลยีสู่คนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาส มีข้อเสนอแนะแนวทาง ปัจจัยเอื้ออำนวย และนวัตกรรมในการเข้าถึง รู้เท่าทัน และใช้ประโยชน์จาก “สื่อใหม่” ในยุคหลอมรวมเทคโนโลยี ที่สำคัญ ดังนี้

  1. แก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (เทศบาล อบต.) สามารถขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี เพื่อจัดบริการอินเทอร์เน็ต/Wi-Fi ฟรีแก่ประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบได้เนื่องจากระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นหัวใจหลักที่สำคัญในการเชื่อมโยงทุกอย่างเข้าด้วยกัน เชื่อมทุกคนเข้ากับเครือข่ายเพื่อใช้บริการสาธารณะ
  2. สนับสนุนการจัดบริการ Wi-Fi ฟรี การจัดตั้งศูนย์บริการอินเทอร์เน็ต แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถานสงเคราะห์ ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคม ศูนย์การเรียนรู้ มูลนิธิ ที่มีการรวมตัวของคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส โดยให้มีการจัดฝึกอบรมหลักสูตรหรือองค์ความรู้ในการใช้เทคโนโลยี สื่อใหม่อย่างรู้เท่าทันแก่ผู้ใช้บริการกลุ่มดังกล่าวด้วยรวมทั้งมีการบริหารจัดการการเข้าใช้งานที่ดี มีการเก็บฐานข้อมูลผู้ใช้ เพื่อควบคุมการดาวน์โหลด หรือใช้งานที่ไม่เหมาะสม
  3. ค่าบริการในเครือข่าย 3G หรือ 4G ควรจะลดตำลงกว่าที่เป็นอยู่ เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เพื่อติดต่อสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การใช้FaceTime (การติดต่อสื่อสารมองเห็นหน้า)ซึ่งจะทำให้เกิดความใกล้ชิดกันมากขึ้น เพิ่มกำลังใจให้กับผู้สูงอายุ เป็นต้น
  4. กสทช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีการกำกับดูแล การคุ้มครองผู้บริโภคการควบคุมการให้บริการโทรคมนาคม สื่อใหม่ต่างๆ เพื่อให้มีการเรียกเก็บค่าบริการที่เหมาะสม และป้องกันไม่ให้
    ผู้ให้บริการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค
  5. กสทช. ควรสนับสนุนการจัดตั้งสถานีวิทยุชุมชน สถานีโทรทัศน์ชุมชน โดยมีชุมชนเป็นผู้บริหารจัดการ เพื่อเป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์ หรือการให้องค์ความรู้สำหรับประชาชนทุกกลุ่มในท้องถิ่น เรื่ององค์ความรู้ของท้องถิ่น การดูแลสุขภาพ การประกอบอาชีพ เป็นต้น
  6. เพิ่มช่องทางในการสื่อสารไปยังกลุ่มคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส ผ่านการส่งสัญญาณภาพ โดยใช้อินเทอร์เน็ตไร้สาย (Wi-Fi) ไปยังจอ LED ขนาดใหญ่ จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (เทศบาล อบต.) ซึ่งติดตั้งไว้ในชุมชน/หมู่บ้าน เพื่อกระจายข่าวสารต่างๆ แก่คนในพื้นที
  7. ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยี สื่อใหม่ต่างๆ ในการให้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสิทธิต่างๆ ของ
    คนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาส รวมทั้งการใช้เป็นเครื่องมือหรือสื่อในการเรียนรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ หรือการดำเนินงาน
    เช่น อสม. ใช้รายงานการเจ็บป่วยของคนในหมู่บ้าน/ชุมชนที่ตนเองอยู่ การส่งข้อความ รูปภาพ วีดีโอ ผู้ที่เจ็บป่วยผ่านแอพพลิเคชันไลน์ไปยังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ (รพ.สต.) เพื่อวินิจฉัยและให้คำแนะนำในการรักษาในเบื้องต้น หรือใช้ในการส่งรายงานต่างๆ เข้าสู่ระบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานที่สะดวกรวดเร็ว
  8. การดำเนินโครงการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการเรียนรู้ของคนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาส ในยุคหลอมรวมเทคโนโลยี ควรบูรณาการการดำเนินงานร่วมกับโครงการของหน่วยงานภาครัฐจากส่วนกลางที่มีนโยบายสอดคล้อง หรือใกล้เคียงกัน ก่อนถ่ายทอดโครงการลงมาสู่ท้องถิ่น ทั้งนี้ เพื่อให้ท้องถิ่นในฐานะหน่วยงานที่เป็นปลายทางก่อนจะถึงประชาชนได้เข้าใจ และส่งเสริมให้เป็นภาพกว้างและประสานประโยชน์ร่วมกัน
  9. ควรให้ความสำคัญกับการสร้างเครือข่ายอาสาสมัครที่มีจิตอาสาในการเข้าสนับสนุนการดำเนินงาน โดยใช้เทคโนโลยี สื่อใหม่ในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และสร้างความรวดเร็วในการดำเนินงาน
  10. ค่าบริการรายเดือนของเคเบิลทีวีควรมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำ หรือไม่คิดค่าบริการในส่วนของช่องรายการสำหรับเด็ก และกสทช.ควรควบคุมดูแลรายการโทรทัศน์สำหรับเด็กให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น การให้องค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์กับเด็กทั้งการดูแลตนเอง การรักษาสุขอนามัย การปรับตัวเข้าสู่การเป็นวัยรุ่น เรียนรู้และเข้าใจการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายในแต่ละช่วงวัย รวมทั้งเพิ่มเนื้อหาเกี่ยวกับประชาคมอาเซียนให้มากขึ้น
  11. กสทช. ควรสนับสนุนการจัดทำห้องปฏิบัติการ (War room) เพื่อเฝ้าระวังทางสังคม การแจ้งเหตุความรุนแรง/การเจ็บป่วยของเด็ก คนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาสและคนทั่วไป ได้อย่างทันที รวมไปถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการเรียนรู้รายบุคคลด้วยและ/หรือสนับสนุนการจัดเก็บข้อมูลในระดับท้องถิ่น การประมวลผลเป็นสารสนเทศเพื่อการตัดสินใจในการบริหารจัดการ มีการวิจัยเครื่องอุปกรณ์ หรือเทคโนโลยีเพื่อมาอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาส การตรวจสอบความปลอดภัยสำหรับกลุ่มเป้าหมาย มีการกำหนดพิกัดในการติดตามช่วยเหลือ
  12. กสทช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรสนับสนุนการทำพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
    (e-Commerce) หรือช่องทางการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์และสินค้าจากคนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาส รวมทั้งการฝึกอบรมให้ความรู้ การจัดตั้งศูนย์เจรจาทางธุรกิจเพื่อเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้แก่บุคคลกลุ่มดังกล่าว เป็นช่องทางในการเชื่อมโยงเครือข่าย แลกเปลี่ยนเรียนรู้ เช่น การแก้ไขปัญหาโรคพืช ปัญหาจากการเพาะปลูก การผลิต การตลาดเป็นต้น
  13. แนวคิดการจัดตั้งศูนย์การเจรจาทางธุรกิจ ของ กสทช. จะต้องมีการหารือในรายละเอียดก่อนที่จะมีการดำเนินการ เพื่อให้ได้รูปแบบธุรกิจที่ตรงกับศักยภาพของคนพิการผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาสเพื่อผลักดันให้บุคคลกลุ่มนี้ได้รับประโยชน์ที่เป็นรูปธรรม
  14. ควรสนับสนุนส่งเสริมการดำเนินงานของศูนย์การเรียนรู้ภูมิปัญญาสำหรับผู้สูงอายุ โดยมีระบบการจัดการความรู้ ในการรวบรวมองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญ ภูมิปัญญาจากผู้สูงอายุ เพื่อเก็บรักษาภูมิปัญญาให้สืบทอดไปยังอนุชนรุ่นหลังต่อไป
  15. กสทช. ควรผนวกการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการเรียนรู้ของคนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาส ในยุคหลอมรวมเทคโนโลยีเข้ากับกับโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการเรียนรู้ที่มีหน่วยงานอื่นดำเนินการร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยอาจเพิ่มเป็นหลักสูตร หรือกิจรรมในโครงการดังกล่าวเช่นสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ อบต.ดอนแก้ว (อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่) ดำเนินโครงการมหาวิชชาลัยดอนแก้วสร้างสุข มีการเปิดหลักสูตรการเรียนแก่ผู้สูงอายุ เป็นหลักสูตรระยะสั้นเริ่มต้นตั้งแต่ ๓เดือน ๖เดือน ๑ปี ที่แตกต่างกันในแต่ละวิชา เมื่อศึกษาจนจบหลักสูตรจะได้รับใบประกาศนียบัตรที่ผ่านการรับรองจาก สสส. คณะพยาบาลศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น และมหาวิชชาลัยดอนแก้วสร้างสุข (อบต.ดอนแก้ว) เรียกว่าใบปัญญาบัตร เป็นต้น
  16. ส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี สื่อใหม่ในการป้องกันความพิการโดยต้องมีการให้ความรู้ผ่านสื่อใหม่การผลิตสื่อหรือช่องทางในการรณรงค์ เพื่อป้องกันความพิการ เป็นการเฝ้าระวังก่อนการเกิดเหตุ
  17. ส่งเสริมสนับสนุนการผลิตสื่อที่เหมาะสมสำหรับคนพิการทางด้านสติปัญญา เพื่อการพัฒนาศักยภาพเด็กพิการส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยเด็กออทิสติกคนพิการมีช่องทางการสื่อสารระหว่างกันมีกิจกรรมร่วมกัน

สำหรับท่านที่สนใจร่วมแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะแนวทาง ปัจจัยเอื้ออำนวย และนวัตกรรมในการเข้าถึง รู้เท่าทัน และใช้ประโยชน์จาก “สื่อใหม่” ในยุคหลอมรวมเทคโนโลยี หรือแนวทางการวางแผนยุทธศาสตร์เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการเรียนรู้ของคนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาส ในยุคหลอมรวมเทคโนโลยีสามารถแสดงร่วมแสดงความคิดเห็นได้ทางเว็บไซต์www.convergencebtfpfund.net

--จบ--

 

สำนักงานโครงการวิจัยยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพชีวิตและการเรียนรู้ของคนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาส ในยุคหลอมรวมเทคโนโลยี

เลขที่ 23/19-20ซอยแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 41 ถนนแจ้งวัฒนะตำบลคลองเกลือ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120

โทร.  08 1933 0388, 08 1833 7730โทรสาร 0 2980 9183

Email: convergence.btfp.fund@gmail.com

สามารถติดตามข่าวสารของโครงการฯ ได้ที่  www.convergencebtfpfund.net

 

Contact Information

  • : มูลนิธิกองทุนไทย Thai Fund Foundation 2044/23 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ บางกะปิ ห้วยขวาง กรุงเทพ 10310
  • : webmaster@thaingo.org
  • : 082 178 3849
  • : www.thaingo.in.th

Thai NGO

ข่าวสารสังคมนอกสื่อกระแสหลัก ข่าวสารความเคลื่อนไหว เกี่ยวกับเอ็นจีโอ ข่าวกิจกรรมเพื่อสังคม งานสัมนา สมัครงานเอ็นจีโอ ร้องเรียน แจ้งข่าว…ประนามประจาน !! ที่ได้รับความทุกข์ร้อนไม่เป็นธรรม