ลูกชาวนา, แว่นตากลม และการปฏิวัติวัฒนธรรม

1024 30 Nov 2023



ผมต้องนึกอยู่พักใหญ่เพื่อลำดับ ความเป็นมาเป็นไปของภาพแว่นตากลม ว่ามันมาได้อย่างไร อิทธิพลแนวคิด อะไรอยู่เบื้องหลัง หนังสือ บคคลใด ฯลฯ

หลู่ซิน พาย ดร.ซุน ยัดเซ็น มหาตมะ คานธี จอห์น เลนนอน แม็กซิม กอกี้ เลียฟ ตอลสตอย  
อัลตอน เชคอฟ (Anton Chekhov) จอร์จ ออร์เวลล์ (George Orwell) และวอลแตร์ (Voltaire) เบอทรัล รัสเซล รพินทรนาถ ฐากูร ฯลฯ

ห้วงยามหนึ่งของวัยหนุ่มสาว กับการเป็นหนอนหนังสือ แนวปฏิวัติ คนรุ่นผมไม่มีใครไม่อ่าน และการอ่านคือประตูสู่การซึมซับ แนวคิด มุมมองต่อชีวิต ต่อสังคม และความเร่าร้อนที่อยากจะเปลี่ยนแปลง ไปสู่สังคมอุดมธรรม ( พอวันนี้ ตอนเราแก่ขึ้น คือ ไม่รู้เหมือนกันว่า สังคมอุดมธรรมเป็นยังไง
55555 )

ลูกชาวนาที่ดิ้นรน กัดฟันสู้ชีวิตมาเรียนหนังสือในกรุงเทพ มองเห็นความไม่เท่าเทียม ความไม่เป็นธรรมจากชีวิตตัวเอง ทุ่มโถมอ่านหนังสือ วาดฝันถึงการเคลื่อนไหว ต่อสู้ ผ่านปลายปากกา เรื่องสั้น กวี และบทความ นานาต่างๆ แรงบันดาลใจจาก ชีวิตหลายๆคน ที่ยิ่งใหญ่ คาร์ล มาร์ก อันโตนิโอ กรัมชี่ เช กูวาร่า ฟีเดล คาสโตร มาจนถึง จิตร ภูมิศักดิ์ อาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ หรือแม้แต่ ขุนพลภูพาน เตียง ศิริขันธ์ ครูครอง จันดาวงศ์ เส เสถบุตร นักโทษเกาะตะรุเตา ฯลฯ ประวัติชีวิต มากมายหลายคน ประเดประดัง เข้ามาในใจ ในความคิด หล่อหลอมขึ้นเป็น ต้นแบบชีวิต เด็กหนุ่มลูกชาวนา ที่อยากจะเปลี่ยนแปลง แว่นกลมๆ คือ หนึ่งในหลายอย่าง ที่ชื่นชอบ ศรัทธา และพยายามลอกเลียนแบบ

 

หนังสือ เปิดดวงบตาให้เรามองไปรอบๆ ตัว ความร่ำรวยของคนบางตระกูล ความยากจนติดดิน ดักดาน สิ้นหวังของคนบางอาชีพ งานวิชาการ เรื่องคนจน ชาวนา จากสำนักเศรษฐศาสตร์การเมือง อย่างปรีชา เปี่ยมพงษ์ศานต์ บทความการเมือง จากท่าพระจันทร์ ธรรมศาสตร์ วรรณกรรม เพื่อชีวิต ต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มซีไรท์ ยุคแรก ศิลา โคมฉาย จีรนันท์ พิตรปรีชา วิมล ไทรนิ่มนวล อัศศิริ ธรรมโชติ ฯลฯ ตามด้วยเพลงเพื่อชีวิต คุรุชน โคมฉาย รวมฆ้อน คาราวาน และวงคันไถ บทเพลงถั่งโถม ถูกขับขานทุกวัน เพลงโคมฉาย แสงดาวแห่งศรัทธา จากภูพานถึงลานโพธิ์ เดือนหม่น ฯลฯ ถูกขับขานซ้ำๆ ทุกวัน ทั้งหมดหล่อหลอมความคิดจิตใจเด็กหนุ่มลูกชาวนา คนหนึ่งมากมาย อัดแน่น และร้อนคุ อยากมีชีวิตอุทิศพลี!!

 

อยากปฏิวัติเปลี่ยนแปลงสังคม...

 

เช้าวันหนึ่ง แดดอ่อนระรวย กลางเดือนธันวาคม เขามองแม่ ที่นั่งเหนื่อยหล้า แต่ในแววตากลับมุ่งมั่น และเด็ดเดี่ยว นางมองลูกชายอย่างภูมิใจและเฝ้ารอเขาเอ่ย อะไรสักคำ ที่นางอยากถาม นางเฝ้ารอ มานานหลายปี
“แม่..”  เขาเอ่ย ช้าๆ “ผมเรียนจบแล้ว
!!
นางแทบหัวใจหยุดเต้น หลายคนมักหัวเราะใส่นาง ว่า ลูกมึงไม่มีทางเรียนจบหรอก ใครไปเรียน รามฯ มีแต่ใจแตก เสียคน เรียนไม่จบ
!!  นางฟังแบบนี้ มาหลายปี และก็อมทุกข์ อยู่เงียบๆ วันนี้ คำที่นางได้ยิน คือ เรียนจบแล้ว หมายถึงว่า นางะมีโอกาสไปรับริญญา ลูกชาย นางลุกขึ้นไปนั่งในครัวและปาดน้ำตาเบาๆ

“แม่..”  เขาเอ่ยช้าๆ  “ผมสายตาสั้นลง อยากมีแว่น..” เขาหยุด นิดหนึ่งหันมามองแม่ การเติบโตมากับนาง เขาเรียนรู้ว่า จะขอออะไร ต้องดูสีหน้า ( หมายถึงอารมณ์) นางก่อน ถ้าอารมณ์ดี ขออะไรก็ได้ ถ้าอารมณ์ อาจจะโดนด่า ข้ามวันข้ามคืน แบบไม่พักกินข้าว
“เดี๋ยวแม่ขายข้าวเกวียนหนึ่งพอไหม๊ ?”  นางเองก็ไม่รู้จริงๆ ว่าแว่นสายตา ราคาเท่าไหร่ แต่... จะเสียดายทำไม ลูกเราจบปริญญานะ
!! นางคิดอย่างภูมิใจ

แว่นตากลมๆ ตัวแรกของเขา ทรงเดียวกับนักเขียน อย่างมหาตมะ คานธี หรือ จอห์น เลนนอน มูลค่า
4000 บาท ( ราคาเมื่อ 26 ปีก่อน ) จากการขายข้าว 1 เกวียน ที่นางมองแล้ว มองอีก ว่า ของชิ้นแค่นี้ ราคาแพงเท่ากับข้าว 1 เกวียนของนาง แต่พอเขาสวม แว่นตา ลูกชายชาวนาของนางดูภูมิฐานมาก นางยิ้มขณะนึกถึงวันรับปริญญา....

Contact Information

  • : มูลนิธิกองทุนไทย Thai Fund Foundation 2044/23 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ บางกะปิ ห้วยขวาง กรุงเทพ 10310
  • : webmaster@thaingo.org
  • : 082 178 3849
  • : www.thaingo.in.th

Thai NGO

ข่าวสารสังคมนอกสื่อกระแสหลัก ข่าวสารความเคลื่อนไหว เกี่ยวกับเอ็นจีโอ ข่าวกิจกรรมเพื่อสังคม งานสัมนา สมัครงานเอ็นจีโอ ร้องเรียน แจ้งข่าว…ประนามประจาน !! ที่ได้รับความทุกข์ร้อนไม่เป็นธรรม