เก็บตก “ชูวิทย์’ ผนึก ผู้นำศาสนา การศึกษา หมอสุภัทรและประชาชน คัดค้านนโยบายกัญชาเสรี ที่จะนะ

29752 27 May 2023

 

อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)รายงาน

Shukur2003@yahoo.co.uk

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขจงมีแด่ศาสนฑูตมุฮัมมัดและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน

 

 วันที่ 17 เมษายน 66 นาย ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ลงพื้นที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ตามที่เคยสัญญาไว้หลังศาลตัดสินอนุญาตให้สามารถรณรงค์คัดค้านนโยบายกัญชาเสรีได้ จนเป็นข่าวดังและมีเรื่องดราม่ามากมาย

 

#จะนะเมืองหลวงคัดค้านกัญชาเสรี

 

สำหรับอำเภอจะนะจังหวัดสงขลา ถือว่า เป็นพื้นที่สำคัญจะเรียกได้ว่าเป็นเมืองหลวงคัดค้านนโยบายกัญชาเสรี มาตั้งแต่ เดือนมิถุนายน 2566 ทำไมอย่างไร หากเราติดตามข่าวการคัดค้านนโยบายกัญชาเสรี ตลอดจะพบว่า ผู้นำศาสนาและการศึกษา จนเกิดเป็นสมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้และ 35 องค์กรมุสลิมมาจากอำเภอจะนะที่นำโดยดร.ข๊ดดะรี บินเซ็น และบาบอฮุสณร  บินหะยีคอเนาะ ในขณะที่ผู้นำด้านการแพทย์ในนามแพทย์ชนบทคือนายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ จังหวัดสงขลา นอกจากนี้ทั้งสองกลุ่มนี้ก็ทำงานร่วมกันตลอดเกี่ยวกับการช่วยรัฐแก้ปัญหาโควิด โดยเฉพาะการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามภาคประชาชนจนเกิดเป็นจะนะโมเดล อีกประการที่ไม่แพ้กันคือร่วมกันต่อสู้กับชาวบ้านคัดค้านโครงการจะนะเมืองอุตสาหกรรมจนรัฐบาลประยุทธ์ต้องสั่งถอยให้กลับไปศึกษา SEA ก่อน

#มีกลุ่มชาวบ้านบางส่วนไล่ชูวิทย์

 

ก่อนที่ นายชูวิทย์ จะเดินทางมาถึงราวครึ่งชั่วโมงนั้น ปรากฏว่าได้มีกลุ่มชาวบ้านประมาณ 50 คน เดินทางมารวมตัวกันที่ฝั่งตรงข้ามประตูทางเข้าโรงเรียนบุสตานุดดีนบริเวณจัดกิจกรรมคัดค้านนโยบายกัญชาเสรี พร้อมถือแผ่นป้ายด้วยคำที่หลากหลายคัดค้านการเดินทางลงพื้นที่ของ นายชูวิทย์ และส่งเสียงตะโกนเป็นระยะ เพื่อต้องการสื่อให้เห็นว่า ยังมีคนบางส่วนที่ไม่ยอมรับในตัว นายชูวิทย์ เพราะ มองว่า นายชูวิทย์ ทำงานรับใช้คนอื่น คนอื่นทำงานการเมืองเพื่อชาติ แต่นายชูวิทย์ รับงานโจมตีคนอื่น รวมทั้งชาวจะนะไม่ต้องการคนชื่อชูวิทย์ และยังระบุว่า หมดศรัทธาในตัวนายชูวิทย์ แต่ยังโชคดีที่ทางกลุ่มผู้เห็นต่างได้สลายตัวกันไปก่อนที่ ซึ่งเหตุการณ์คัดค้านจากประชาชนบางส่วนก็ยังเกิดที่อำเภอสะบ้าย้อยในวันต่อมา

นายชูวิทย์ จะเดินทางมาถึง เนื่องจากต้องเดินทางกลับบ้าน เพื่อไปทำพิธีละศีลอด หวิดที่จะปะทะคารมกันซึ่งนายชูวิทย์ สะท้อนต่อเรื่องนี้ว่า 

ในวันนี้นำความจริงมาเปิดเผย ไม่ต้องมาประท้วงผม เพราะ ผมนำความสันติสุขมาให้กับพี่น้องชาวมุสลิม และเอาความจริงเรื่องกัญชาที่หลายหน่วยงานได้มาร่วมรณรงค์ต่อต้านกัญชาเสรี เพราะกัญชาทางการแพทย์นั้นถูกใช้เป็นเพียงแค่ข้ออ้างในการปลดล็อคกัญชา ใครอยากจะเลือกพรรคภูมิใจไทย หรือพรรคอะไร ก็สามารถเลือกได้ แต่ตนมองเห็นความอันตรายของยาเสพติดและกัญชาที่ปลดล็อคออกมาสู่สังคมไทยโดยที่ไม่มีการควบคุมต่างหาก ซึ่งเมื่อก่อนกัญชาเป็นยาเสพติด และได้ทำการปลดล็อคออกมาโดยทันทีโดยไม่ผ่านสภา ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องมาตั้งแต่ต้นแล้ว ผมไม่มีพรรค ไม่มีเบอร์ ไม่ได้มาหาเสียง เป็นประชาชนเต็มร้อย ไม่ได้แม้แต่เชียร์พรรคไหน

 

แต่นักการเมืองเก่าอย่างผมจับอาการได้เร็ว ที่จะนะกับสะบ้าย้อย แค่ส่งเด็กมายืนถือป้ายไม่กี่คนก็รู้ทรงแล้ว ว่าใครจ้างมา สักพักหายกันหมด เพราะมาด้วยใจกับมาด้วยเงินมันต่างกัน” 

 

.

 

.

 

#

ยื่นหนังสือสองฉบับผ่านชูวิทย์

 

ในช่วงที่นายชูวิทย์พบปะผู้นำการศาสนา การศึกษาและประชาชนนั้น ได้มีตัวแทนมอบหนังสือ 2 ฉบับ ฉบับที่หนึ่ง คัดค้านนโยบายกัญชาพร้อมข้อเสนอแนะโดยดร.ขดดะรี บินเซ็น  นายกสมาคมสมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้ ได้เปิดเผย ว่า “สมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้นั้นประกอบด้วยโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามจำนวน 400 โรงเรียนทั่วภาคใต้ ครูจำนวน 80,000 คน นักเรียนจำนวน 500,000 คน มีเป้าหมายผลิตนักเรียนให้เด็กมีความรู้คู่คุณธรรมสอดคล้องตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการมีความเป็นห่วงกับสถานการณ์หลังจากที่รัฐบาลมีการออกกฎหมายคือ กัญชาเสรี ปลดกัญชาจากยาเสพติด เพราะค้านหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการที่ใช้สอนด้วยกัญชายังเป็นยาเสพติด ในหนังสือเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการและมันยังเป็นประตูสู่การเสพติดอื่นที่ร้ายแรงกว่า กัญชาก่อให้เกิดการเสพติดและ การเจ็บป่วยจากการเสพติดที่ชัดเจน แม้จะมีสารบางส่วนของกัญชาที่มีประโยชน์ทางการแพทย์ ดังนั้นจึงสร้างความลำบากใจให้ครูที่ทำการสอนในโรงเรียนเป็นอย่างมาก อีกทั้งเรา คัดค้านกัญชาเสรี ตั้งแต่ 9 มิถุนายน 2565 -ปัจจุบัน ร่วมหลายๆองค์กรที่ออกมาแสดงจุดยืน และแสดงความกังวลต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกรณี ปล่อยผีกัญชาจากยาเสพติดเช่น แพทย์ชนบท สมาคมเภสัชกร กลุ่มนักวิชาการ กลุ่มองค์กรศาสนา กลุ่มโรงเรียน และสถาบันการศึกษา  ​​​และก่อนหน้านี้เราก็ทำหนังสือทางการผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลาและสตูล เดินทางไปยื่นหนังสือถึงรัฐสภาและสำนักนายกรัฐมนตรีที่กรุงเทพมหานคร

 

สำหรับครั้งนี้สมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้ ทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรถึงทุกพรรคการเมืองผ่านท่านชูวิทย์ ซึ่งมีข้อเสนอแนะดังนี้  ๑ .เมื่อท่านเป็นนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในประเด็นกัญชาเสรี นั้นเสนอแนะให้ปิดสภาวะสุญญากาศทันที (สอดคล้องกับองค์กรต่างๆที่ได้เสนอแนะก่อนหน้านี้)โดยออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข ให้ชะลอการบังคับใช้ประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับปลดกัญชาจากการเป็นยาเสพติดออกไปก่อน จนกว่าจะมีกฎหมายควบคุมที่เพียงพอ หรือประกาศให้กัญชา (ครอบคลุมดอก ยาง สารสกัด และทิงเจอร์ จากดอกและยางกัญชา) เป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท ๒. หรือ นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจในการออกพระราชกำหนดกำหนดให้กัญชายังเป็นยาเสพติด จนกว่าจะมีกฎหมายกัญชาเพื่อการแพทย์(เท่านั้น)ออกมาบังคับใช้ และ ๒.ปรึกษาหารือหาทางออกร่วมกันเพื่อสร้างชุมชนปลอดจากยาเสพติดโดย จัดให้มีกระบวนการรับฟังผู้เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน เพื่อร่วมกันออกแบบนโยบายที่สอดคล้องพัฒนา ทรัพยากรมนุษย์ซึ่งสมาคมสมาพันธ์ยินดีร่วมปรึกษาหารือในการหาทางออกร่วมกันเพื่ออกแบบชุมชนแห่งศาสนธรรมสู่สันติภาพ/สันติสุขอย่างยั่งยืน  เมื่อทุกพรรคการเมืองทราบก็ขอให้ตอบจดหมายฉบับนี้เป็นลายลักษณ์อักษร”

 

สำหรับฉบับที่สอง “ประเด็นปัญหาในโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ จังหวัดสงขลาที่ว่าด้วยความผิดปกติในการดำเนินงานของ ศอ.บต. และการออกโฉนดที่ดินโดยนักการเมืองในพื้นที่”

 

โดยบาบอฮุสณี บินหะยีคอเนาะ ที่ปรึกษาสมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามจังหวัดสงขลา ยื่นหนังสือแทนชาวบ้านให้นายชูวิทย์ช่วยตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิที่ดินในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมจะนะ ซึ่งเอื้อประโยชน์ต่อนักการเมือง ทั้งนี้ นายชูวิทย์ ยินดีจะไปศึกษาข้อมูลนี้หากมีมูลยินดีจะช่วยชาวบ้านจะนะ 

 

สำหรับโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ รัฐบาล หรือฝ่ายการเมืองโดยรองนายกรัฐมนตรีประวิตร วงศ์สุวรรณ ได้เลือกใช้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นผู้รับผิดชอบ ด้วยหวังที่จะใช้ทั้งอำนาจและกลไกหลักของจังหวัดชายแดนภาคใต้ อันร่วมถึงระบบรักษาความมั่นคงภายในเข้าไปเป็นผู้กระทำการเพื่อให้โครงการนี้เกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลาในที่สุด อันเป็นการสมรู้ร่วมคิดร่วมกับกลุ่มทุน2 บริษัท คือ ที่พืไอ พีพี และไออาร์พีซี (TPIPP. และ IRPC.) ทั้งนี้มีการเชื่อมโยงกับกลุ่มผลประโยชน์อื่นๆในพื้นที่อีกอย่างน้อย 3 กลุ่ม คือ

นักการเมืองในพื้นที่ ทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่นกลุ่มผลประโยชน์ด้านที่ดิน ทั้งนายหน้า นักกฎหมาย และข้าราชการที่เกี่ยวข้อง แกนนำในระบบ ที่อ้างว่าเป็นองค์กรภาคประชาสังคมชายแดนใต้ ซึ่งได้รับผลประโยชน์จากโครงการพัฒนาต่างๆของ ศอ.บต. มาอย่างต่อเนื่อง

ยังให้การดำเนินงานในโครงการนี้มีความรีบเร่งอย่างผิดปกในในทุกระดับ ตั้งแต่การมีมติคณะรัฐมนตรีครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2562 ซึ่งเป็นมติในการประชุม ครม.นัดสุดท้ายในยุค คสช. อันถือเป็นมคิทิ้งทวนเพื่อโครงการนี้ และหลังจากนั้นได้มีมติคณะรัฐมนตรีอีก 2 ครั้ง ที่มีความผิดปกติ และเร่งให้มีการดำเนินการเพื่อปรับเปลี่ยนสีผังเมืองให้เป็นสีม่วง โดยการอ้างถึงกระบวนการดำเนินงานของ ศอ.บต. ที่ไม่ได้เป็นไปตามกระบวนการทงกฎหมาย โดยสรุปไปว่าประชาชนในพื้นที่ลงชื่อสนับสนุนโครงการดังกล่าวแล้วกว่า 2 หมื่นรายชื่อทั้งที่การได้มาซึ่งรายชื่อเหล่านั้นไม่สามารถนำมาอ้างได้ และจะต้องตรวจสอบถึงที่มาทั้งหมดที่มากไปกว่านั้นคือ ในการดำเนินการเรื่องที่ดินในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมที่กำลังจะขอเปลี่ยนเป็นสีม่วงจำนวน 16,700 ไร่ มีความผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากความไม่เป็นธรรมในการออกเอกสารสิทธิ์ หรือโฉนดที่ดิน ซึ่งดำเนินการภายใต้โครงการเดินสำรวจเพื่อออกโฉนดที่ดิน ซึ่งเป็นโครงการที่เป็นนโยบายของกระทรวงมหาดไทยที่กำกับดูแลโดย นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (ขณะนั้น)ซึ่งมีช่องว่าง และช่องโหวในการดำเนินนโยบายนี้คือ ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ถูกออกเอกสารทับที่ดินจำนวนหลายสิบราย และบางแปลงมีการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ และบางแปลงเป็นที่ดินสาธารณะ ข้อมูลเหล่านี้จำต้องตรวจสอบอย่างเข้มข้มเพื่อทำความจริงให้ปรากกฎ และเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวนี้ได้เป็นต้นเหตุสำคัญของความขัดแย้งในพื้นที่

 

#

หมอสุภัทร ยืนยันกับพี่น้องจะนะ คัดค้านกัญชาเสรี  พร้อมวิเคราะห์การสื่อสารในยุคดิจิตอลผ่านชูวิทย์

 

นายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ สะท้อนเมื่อได้ร่วมฟังชูวิทย์รวมทั้งผู้นำศาสนา การศึกษาและประชาชนจะนะโดยยืนยันกับพี่น้องจะนะ ว่าจะยังคงคัดค้านกัญชาเสรี  พร้อมวิเคราะห์การสื่อสารในยุคดิจิตอลผ่านชูวิทย์”โดยท่านกล่าวว่า” ตนได้รับคำเชิญมาร่วมงาน และถือเป็นโอกาสดีที่ได้กลับมาเยี่ยมสถานศึกษาแห่งนี้ที่เคยถูกใช้เป็นโรงพยาบาลสนามเก่าของโรงพยาบาลจะนะ ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ในนามประธานชมรมแพทย์ชนบท ตนสนับสนุนกัญชาในทางการแพทย์เท่านั้น ส่วนกัญชาในด้านอื่นๆ หรือผสมในอาหารนั้น ตนไม่เห็นด้วย และมีโอกาสที่จะเกิดผลข้างเคียง ซึ่งจริงๆ แล้วกัญชาในทางการแพทย์ก็มีใช้กันพอสมควรแล้ว และไม่ต้องใช้กัญชาเป็นจำนวนมากขนาดนี้...และยินดีจะยืนหยัดกับ ผู้นำศาสนา การศึกษา หมอสุภัทรและประชาชน คัดค้านนโยบายกัญชาเสรี และโดยส่วนตัวผมสนใจการเคลื่อนไหวเพื่อเปลี่ยนแปลงสังคม กรณีคุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ถือว่าน่าสนใจมาก การเคลื่อนไหวในอดีตต้องจัดตั้งองค์กร (organization) เป็นพรรค เป็นขบวน เป็นกองกำลัง เป็นเครือข่าย เป็นชมรม เป็นองค์กรสารพัดแบบ แต่ค่อยข้างต้วมเตี้ยม ไม่ทันกับการเปลี่ยนแปลงพลิกผันของสถานการณ์ที่รวดเร็ว

 

ตอนนี้การเคลื่อนไหวผันมาขยับโดยใช้พลังของตัวบุคคลเป็นหลัก (individual) สามารถเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว ชัดเจน เช่นกรณีคุณชูวิทย์ เพจ drama-addict ตะวัน-แบม น้ำนิ่ง เนติวิทย์ เป็นต้น ส่วนใหญ่เป็นแนวทางการเคลื่อนของคนรุ่นใหม่ ฉีกกรอบ ว่องไว เล่นกับสื่อ และไม่ผูกมัด

 

วันที่ 17 เมษายน 2566 ผมมาพบคุณชูวิทย์ ที่โรงเรียนบุสตานุดดีน ในจะนะ มาเรียนรู้จากสไตล์การเคลื่อนไหวที่โดดเด่น ลงจากรถปุ๊ป จับไมค์พุ่งไปหาสื่อในทันที พูดกับสื่อให้คนทั้งประเทศฟัง ประเด็นชัด พูดจะแจ้ง ไม่กลัวถูกฟ้องกลับ เตรียมพร็อบอุปกรณ์มาพร้อม ทั้งป้าย-สติ๊กเกอร์-ของแจก ทีมที่มาก็เล็กมากไม่กี่คน แต่ใช้การประสานพลังของพื้นที่มาร่วมขับเคลื่อน ไม่ได้มาดุ่มๆ แต่มีการจัดเตรียมที่ดี ไม่ได้เตรียมจนสมบูรณ์ แต่พร้อมที่เผชิญกับความไม่แน่นอนหน้างาน

 

ปรากฏการณ์ชูวิทย์นี้น่าสนใจมาก มีพลัง มีสีสรร และมีผลกระทบจริง วันที่ 14 พฤษภาคม 66 จะเป็นวันพิสูจน์ 

 

แต่ทุกอย่างมีดีมีข้อจำกัด ลุยเดี่ยวก็เสี่ยงกับการถูกจัดการได้ง่าย ถ้าภูมิต้านทานน้อย แบ็คไม่ดี เงินซื้อได้ อุดมการณ์ไม่แน่น  ก็จะถูกเครือข่ายผู้เสียผลประโยชน์จัดการอย่างรวดเร็ว

 

ผมเฝ้าสังเกตการณ์เสร็จก็ถึงเวลาแก้บวชเปิดปอซอ  ทานอาหารร่วมกันกับพี่น้องชาวจะนะที่คุ้นเคย ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันคือ  ยืนยันไม่เอากัญชาเสรี ครับในภาพที่เป็นข่าวนั่งรับประทานอาหารด้วยกันจนบางสื่อเอาไปตั้งข้อสังเกต ขอบอกว่า นี่เป็นสามประสาน(ชูวิทย์ หมอและผู้นำศาสนา)แต่ทำงานคนละบทบาท(อาจจะลงตัว)ในการขับเคลื่อนคัดค้านกัญชามอมเมาประชาชน”

 

หมายเหตุชมย้อนหลัง

 

https://fb.watch/k0CgAQhcXN/?mibextid=YCRy0i

และ

https://fb.watch/j_h7nnRPPs/?mibextid=YCRy0i

 

Contact Information

  • : มูลนิธิกองทุนไทย Thai Fund Foundation 2044/23 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ บางกะปิ ห้วยขวาง กรุงเทพ 10310
  • : webmaster@thaingo.org
  • : 082 178 3849
  • : www.thaingo.in.th

Thai NGO

ข่าวสารสังคมนอกสื่อกระแสหลัก ข่าวสารความเคลื่อนไหว เกี่ยวกับเอ็นจีโอ ข่าวกิจกรรมเพื่อสังคม งานสัมนา สมัครงานเอ็นจีโอ ร้องเรียน แจ้งข่าว…ประนามประจาน !! ที่ได้รับความทุกข์ร้อนไม่เป็นธรรม