822 08 Apr 2023
หลังคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด หน่วยงานรัฐบี้เจ้าของบริษัททำเหมืองหินดงมะไฟ ดำเนินคดีโทษฐานไม่ส่ง รายงานผลการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมฯ และ ไม่ทำบัญชียุทธภัณฑ์ปุ๋ยแอมโมเนียมไนเตรท
ภายหลังจากศาลปกครองสูงสุดพิพากษาเพิกถอนใบอนุญาตเข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเก่ากลอยและป่านากลาง เพื่อทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน (หมดอายุวันที่ 3 กันยายน 2563) และประทานบัตรเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน (หมดอายุ24 กันยายน 2563) ของบริษัท ธ.ศิลาสิทธิ จำกัด เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมานั้น ก็ได้มีข่าวสารแพร่สะพัดทั่วบ้านโชคชัย หมู่ 8 และ 12 ต.ดงมะไฟ อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู ว่า เสียไฮ้ หรือ นายธีรสิทธิ์ ตรีวัฒน์สุวรรณ เจ้าของบริษัทฯ ได้ทำการแจ้งความต่อ สภ.สุวรรณคูหา ว่าจะแจ้งความดำเนินคดีต่อสมาชิกกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได ที่มีรายชื่อฟ้องในคดีดังกล่าว อีกทั้งผู้นำชุมชนยังได้แจ้งต่อสมาชิกกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนฯ ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุวรรณคูหา ต้องการพบสมาชิกกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนฯ เพื่อจะได้ทำการสอบปากคำในคดีที่เกี่ยวกับเหมืองหินและโรงโม่
วันนี้ 23 กุมภาพันธ์ 2566 เวลาประมาณ 13.00 น. ตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนฯ จึงเดินทางไปยัง สภ.สุวรรณคูหา เพื่อสอบถามรายละเอียดสำนวนคดี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบคดีได้ชี้แจงว่า สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดหนองบัวลำภูได้แจ้งความต่อ สภ.สุวรรณคูหา ว่า นายธีรสิทธิ์ ตรีวัฒน์สุวรรณ ไม่ทำตามเงื่อนไขแนบท้ายประทานบัตรข้อที่ 17 ที่ต้องส่งรายงานผลการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทุกวันที่ 1 กุมภาพันธ์ และ 1 สิงหาคม ของทุกปีตั้งแต่ปี 2561 โดยในเบื้องต้น นายธีรสิทธิ์ ตรีวัฒน์สุวรรณ ได้รับสารภาพว่าไม่ได้จัดทำรายงานดังกล่าวส่งอุตสาหกรรมฯจริง เนื่องจากถูกชาวบ้านขัดขวาง ทำให้เข้าไปประกอบกิจการไม่ได้จึงไม่ได้ส่ง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการข้อมูลเพิ่มเติมจากกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนฯ ในฐานะที่ถูกให้การพาดพิงก่อนที่จะส่งสำนวนคดีไปยังอัยการ กลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนฯ จึงยืนยันต่อเจ้าหน้าที่ว่าต้องทำหนังสือหรือออกหมายเรียกกลุ่มฯพร้อมนัดวันและเวลาในการเข้าให้ข้อมูลอย่างเป็นทางการ โดยทางกลุ่มฯยินดีที่จะให้ข้อมูลอย่างเต็มที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายเรียกพยานเพื่อนัดกลุ่มฯเข้าให้ปากคำในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 66 เวลา 09.00 น. ณ สภ.สุวรรณคูหา
นอกจากนี้แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจยังแจ้งอีกว่าอำเภอสุวรรณคูหาได้แจ้งความบริษัท ธ.ศิลาสิทธิ จำกัด กรณีไม่ทำบัญชียุทธภัณฑ์ปุ๋ยแอมโมเนียมไนเตรทที่เป็นสารตั้งต้นในการทำระเบิดที่นำไปทำลายภูเขาเพื่อทำเหมืองแร่ ที่ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2565 ทางกลุ่มฯได้แจ้งความว่ามีการขนย้ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งปัจจุบันทาง สภ.สุวรรณคูหา ได้ทำหนังสือขอข้อมูลเพิ่มเติมจากอำเภอสุวรรณคูหาแล้ว แต่ทางอำเภอยังไม่ส่งข้อมูลเพิ่มเติมมาให้
อย่างไรก็ตามคำกล่าวอ้างของ นายธีรสิทธิ์ ตรีวัฒน์สุวรรณ นั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพราะกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนฯ ได้ทำการปักหลักชุมนุมตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ตั้งหมู่บ้านผาฮวกพัฒนาชาวประชาสามัคคี บริเวณถนนสาธารณะประโยชน์เพื่อการเกษตร ที่เป็นหนึ่งในอีกหลายเส้นทางที่สามารถเดินทางไปยังภูผาฮวกได้ ในวันที่ 13 สิงหาคม 2563 ซึ่งเป็นช่วงที่ใบอนุญาตในการใช้พื้นป่าสงวนฯของบริษัทเหมืองแร่เหลืออายุเพียงเดือนเดียวเท่านั้น การกล่าวอ้างว่าถูกชาวบ้านขัดขวางทำให้เข้าไปประกอบกิจการไม่ได้จนเป็นเหตุให้ส่งรายงานฯไม่ได้ ตั้งแต่ปี 2561 จึงเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น
สมาชิกกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนฯได้กล่าวถึงความรู้สึกหลังฟังคำกล่าวอ้างของผู้ประกอบการว่า เป็นเพียงข้ออ้างที่ไร้สาระ ไม่ตรงตามความเป็นจริงไม่ว่าด้วยเรื่องของระยะเวลาและเส้นทาง เพราะเส้นทางที่ใช้ในการเข้าออกเหมืองไม่ได้มีเพียงทางเดียว สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เห็นทัศนคติของผู้ประกอบการได้เป็นอย่างดี ในการเลือกโยนความผิดมาให้ประชาชนจนถึงวินาทีสุดท้าย
การทำเหมืองที่ภูผาฮวก ที่ถูกตัดสินให้เพิกถอนใบอนุญาตในภายหลังทั้งสองใบ ทำให้เราสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมครั้งใหญ่ ที่ไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ อีกทั้งยังทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ต้องได้รับผลกระทบ ต้องเสียสละเวลาออกมาเพื่อต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรม สูญเสียโอกาสในการทำมาหากินจากแหล่งทรัพยากรในพื้นที่ สูญเสียทั้งสุขภาพและสุขภาพจิต สิ่งเหล่านี้คือความสูญเสียที่ทางกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนฯจะดำเนินการฟ้องคดีเพื่อเรียกค่าเสียหายต่อไป
05 Nov 2024
09 Oct 2024
09 Oct 2024
20 Sep 2024
05 Nov 2024
05 Nov 2024
05 Nov 2024
05 Nov 2024
ข่าวสารสังคมนอกสื่อกระแสหลัก ข่าวสารความเคลื่อนไหว เกี่ยวกับเอ็นจีโอ ข่าวกิจกรรมเพื่อสังคม งานสัมนา สมัครงานเอ็นจีโอ ร้องเรียน แจ้งข่าว…ประนามประจาน !! ที่ได้รับความทุกข์ร้อนไม่เป็นธรรม