1504 19 Mar 2023
ผมจำไม่ได้แน่ชัดนักว่ารู้จักชายชราคนนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เดาว่าน่าจะเป็น งานป่าชุมชนที่ดงมะไฟ กาฬสินธุ์ และกับครั้งแรกที่เจอ ก็มีคำถามเยอะแยะ ว่า ทำไม NGOs รุ่นพี่ๆ ถึงไปนั่งฟัง ลุงคนนี้เทศนา !! ฟังไปน้ำตาคลอเบ้าไป และผมก็เลียบๆ เคียงๆ เมี่ยงมอง คาดเดาว่า พ่อหรือเปล่า หรือ ชาวบ้านธรรมดา แต่ดูการแต่งตัว เฉกเช่นชาวบ้าน แต่ในดวงตา ในกริยาท่าทางกลับ น่าเกรงขามและดูกร้าว ห้าวหาญ ดุดัน วิจารณ์แรง แบบเอ่ยถึงคนมีอำนาจ นักการเมือง หรือ บิ๊กเนมทางสังคม แบบเจาะประวัติ วิธีคิด ไอ้นั่นเป็นใคร เกิดจากไหน ทำงานอะไร มีผลงานแค่ไหน มีตำแหน่ง มีประวัติดีเลวอย่างไร
วันหนึ่งผมมมีโอกาสไปตึกขาว ( ตึก กป.อีสาน ) ราวปี 2544-2545 ไปอีสาน ต้องแวะเยี่ยมเยียน เพื่อนพี่น้องตึกขาว แห่งขอนแก่น เหมือนไป เชียงใหม่ต้องไป โฮงเฮียนสืบสานล้านนา ไหว้ พี่ชัช ( ชัชวาล ทองดีเลิศ ) ไปใต้ต้องแวะตรัง อาณาจักร สมาคมหยาดฝนของพี่พิสิทธิ์ ชาญเสนาะ มาสุรินทร์ ต้องเยี่ยมคาวรวะ พี่แต สนั่น ชูสกุล แห่งโครงการทามมูลสุรินทร์ ไปสงขลา พลาดไม่ได้ ต้องไหว้ บรรจง นะแส ไปสุพรรณบุรี ต้องมูลนิธิขวัญข้าว ของ เดชา ศิริภัทร นั่นคือวิถีทางคนทำงานพัฒนา โดยเฉพาะ คนทำงานด้านสื่ออย่างผม
และผมก็เป็นคนหนึ่ง อาจจะเป็นคนเดียวก็ได้ ที่ฟังลุงเปี๊ยก บำรุง บุญปัญญาไม่ค่อยรู้เรื่อง ทั้งศัพท์แสงที่ใช้ และ มโนภาพงานเคลื่อนไหวที่มองไปไกล แต่ในเนื้อหา ในใจความที่ผมจับได้ มีแต่คำว่า "ขบวน" ขบวนพี่น้องประชาชน ขบวนงานพัฒนา ขบวนเอ็นจีโอ ลุงเปี๊ยก มักจ้องตาผม เป็นระยะๆ และส่ายหัวอย่าง สิ้นหวัง เพราะสิ่งที่ลุงพูดมาเหยียดยาว ผมมักยิ้มและเฉยๆ ไม่เคยคล้อยตามแกเลยต่างจากคนอื่น ซึ่งฟังอยากจดจ่อ จดจำ คำนับ ซาบซึ้ง และ คุคั่ง ตื่นเร่า !!
วันหนึ่งผมเริ่มมีไอเดีย ทำการสืบค้น ประวัติ ชายชรา ที่ดูลึกลับผู้นี้ “ราชสีห์อีสาน” และการอ่าน สืบค้น ประวัติผู้คนรุ่นบุกเบิก งานพัฒนา ทำให้ผมในเวลานั้น เกิดโครงการในใจ อยากเขียน ชีวประวัตินักพัฒนาเอกชนไทย เพื่อประดับไว้บนผืนโลก จากการสืบค้นประวัติชายชราลึกลับผู้นี้ ถึงได้กำเนิดเป็นปณิธานชีวิต ในใจเงียบๆ ชายที่สละชีวิต โอกาส ความก้าวหน้า ทั้งหน้าที่การงานและอนาคต กับครอบครัว เพียงเพื่อมาร่วมต่อสู้ ปกป้องชีวิต สิทธิ์และโอกาสอันพึงมีพึงได้ของชาวบ้าน ในยุคที่ทราชย์ครองเมือง หนึ่งในโครงการอันเป็นผลงานของชายชราผู้นี้ ที่ผมต้องอ่านทบทวนเอกสารกองมหึมาคือ โครงการจัดสรรที่ดินทำกิน หรือ คจก. ที่รัฐบาลในสมัยนั้น ทำการยึดจากคนจนหรือชาวบ้าน มาแจกชาวบ้าน อ่านเพราะค้นพบว่า ครอบครัวผม สูญเสียที่ดินเกิอบทั้งหมดที่เพียรเก็บหอมรอมริบ ซื้อมา ไปกับโครงการนี้ ( ปัจจุบัน คือ หมู่บ้านและพื้นที่ทำกินของบ้านไทยนิยมและไทยสันติสุข ) การเคลื่อนไหวต่อสู้ จัดขบวนประชาชนในยุคที่อำนาจรัฐยังป่าเถื่อน อุ้ม ฆ่า คนทำงานต้องวางแผน ใช้ชีวิตลึกลับ ซุกซ่อน อำพรางตัว ทำงานในหมู่บ้าน ไม่นานจากนั้น ก็เกิดขบวนประชาชน หลากหลายปัญหา เดินทัพดาหน้ามุ่งสู่ทำเนียบรัฐบาล มีทั้ง สกย. ( สมัชชาเกษตรกรรายย่อย) สกย.อ และสมัชชาคนจน
คนที่ทำงานหรือทำกิจกรรม ในระหว่างปี 2530-2540 ไม่มีใครไม่รู้จักชื่อ ขบวนประชาชน และคำว่า MOB ( ม็อบ) คำว่า NGOs พลังอำนาจประชาชน ทำให้รัฐบาลหลายรัฐบาลสมัยนั้นต้องหันมาเจรจา ทำให้ข้าราชการต้องยอมทำงานร่วม หรือมีชื่อ NGOs ร่วมเป็นคณะทำงาน ต่างๆ
สำหรับผม เชื่อสนิทใจมาตลอดว่า หนึ่งในคนที่วางรากฐานกระบวนการทำงานพัฒนา แนวคิดเกี่ยวกับงานพัฒนา คล้ายๆคำว่า คำตอบอยู่ที่หมู่บ้าน คือ ฝังตัว ศึกษา หาแนวทางแก้ปัญหาและยกระดับสู่การเคลื่อนไหว เพื่อแก้ไขในเชิงโครงสร้าง คือในระดับ กฎหมายและนโยบาย หนึ่งในนั้นและแสนสำคัญที่สุด คือ ลุงเปี๊ยก “บำรุง บุญปัญญา” ชายชราที่ดูป้ำๆเป๋อๆ คล้ายเมาตลอดเวลา นั่งปะปนกับชาวบ้านตามสถานที่ชุมนุม หรือ งานอีเว้นต์ประชาชน
วันหนึ่ง เมื่อผมมาเข้าเรียนวัฒนธรรมศึกษา หลักสูตรปริญญาโทของมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เราได้สืบค้นแนวคิดงานพัฒนาจากสำนักต่างๆ อาทิ สำนักเชียงใหม่ สำนักขอนแก่น สำนักจุฬา สำนักธรรมศาสตร์ ฯลฯ บำรุง บุญปัญญา กลับเป็นหนึ่งในเจ้าสำนักคิด ทางวิชาการ คือ สำนักวัฒนธรรม หรือ ผู้สร้างแนวคิดทางวัฒนธรรม คำที่เราคุ้นเคย คือ “ภูมิปัญญาชาวบ้าน” ในประเทศที่เห่อ ตำราฝรั่ง แนวคิดตะวันตก แต่บุรุษนามอุโฆษผู้นี้กลับเสนอทางออกงานพัฒนา คือ ปราชญ์ หรือ ภูมิปัญญาชาวบ้าน และการจัดการตนเอง รวมถึงคำว่า นิเวศวัฒนธรรม
ก่อนนั้นผมเคยสังสัยว่า ตาแก่คนนี้คือใคร ( ว่ะ ?) จากวันนั้นมา ผมกระจ่างหมด และดีใจที่เกิดมาชาติหนึ่ง ได้ไหว้ ได้ฟัง ได้สัมผัสรู้จัก คนแบบนี้ สักครั้งในชีวิต และดีใจที่แผ่นดินนี้ มีคนแบบนี้เกิดมาเพื่อสร้างคุณูปการให้กับคำว่า ขบวนพี่น้องประชาชน สถานะนี้ ไม่ใช่ได้มาเพราะรัฐให้ แต่ได้มาเพราะการชุมนุมต่อสู้มายาวนาน
พักผ่อน ตลอดกัลปาวสาน ในชั้นฟ้าที่คับคั่งไปด้วยวิญญาณสามัญชน ครับลุงเปี๊ยก บำรุง บุญปัญญา ราชสีห์อีสาน.. ข้าผู้น้อย ขอกราบคาราวะ ดวงวิญญาณ ลุง ตลอดกาล
............
ประวัติลุงเปี๊ยก “บำรุง บุญปัญญา”
เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2488 มีภูมิลำเนามาจากบ้านหนองผำ อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ เป็นนักคิด นักพัฒนา สำนักคิดวัฒนธรรมชุมชน ที่มีชื่อเสียงในแวดวงพัฒนา วิชาการ ระดับประเทศ
บำรุง บุญปัญญา ทำงานพัฒนาอยู่ในชนบทอีสานมากว่า 50 ปี ได้รับการยอมรับในวงการพัฒนา วิชาการทั้งในและต่างประเทศ เรียนจบจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ระดับเกียรตินิยม ได้ทุนไปศึกษาที่ประเทศอังกฤษ เคยทำงานในองค์การระหว่างประเทศ Forum Asia จึงเป็นที่รู้จักระดับนานาชาติ ก่อนจะลงมาทำงานพัฒนากับองค์กรพัฒนาในภาคอีสาน ติดต่อกันมา 50 ปี
05 Nov 2024
09 Oct 2024
09 Oct 2024
20 Sep 2024
05 Nov 2024
05 Nov 2024
05 Nov 2024
05 Nov 2024
ข่าวสารสังคมนอกสื่อกระแสหลัก ข่าวสารความเคลื่อนไหว เกี่ยวกับเอ็นจีโอ ข่าวกิจกรรมเพื่อสังคม งานสัมนา สมัครงานเอ็นจีโอ ร้องเรียน แจ้งข่าว…ประนามประจาน !! ที่ได้รับความทุกข์ร้อนไม่เป็นธรรม