1757 26 Jan 2023

อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บิน ชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)
กรรมการสภาประชาสังคมชายแดนใต้
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตากรุณาเสมอ ขอความสันติสุขจงมีแด่ศาสฑูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีแด่ผู้อ่านทุกท่าน
จากข่าวนักศึกษาวิชาทหารหรือ รด.ปี 1 ที่จังหวัดนราธิวาส ฝึกจนเด็กเข้า รพ.หลายคน(17คน) ในจำนวนนี้ต้องทำการฟอกไตหรือล้างไต จำนวน 6 ราย โดยแพทย์ระบุสาเหตุเกิดจากการฝึกโดยที่ร่างการเด็กไม่มีความพร้อม และสภาพอากาศที่ร้อน รวมไปถึงการขาดน้ำ เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดเหตุดังกล่าวทำให้จึงเป็นเรื่องใหญ่ทั้งในพื้นที่ชายแดนภาคใต้และสื่อมวลชน
#พร้อมรับผิดชอบค่ารักษา - สั่งสอบครูฝึก
พล.ต.ไพศาล กล่าวว่า ผบ.ทบ.และแม่ทัพภาคที่ 4 มีความเป็นห่วงนักศึกษาวิชาทหารที่ล้มป่วยจากการฝึก และจากการเยี่ยมอาการพบว่า นักศึกษาวิชาทหารเริ่มมีอาการดีขึ้นตามลำดับ คาดว่าอีกสักระยะจะสามารถหายจากอาการป่วย
“ในเบื้องต้นจากการสอบสวนผู้รับผิดชอบ ยอมรับว่า นักศึกษาวิชาทหารได้รับการพักจากการฝึกในแต่ละช่วงการฝึกน้อยเกินไป จนร่างกายอ่อนเพลีย และได้ดื่มน้ำน้อย จนเป็นปัจจัยทำให้เกิดอาการไตวายเฉียบพลัน ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นทางทหารจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายและการบำรุงขวัญ ส่วนเรื่องของครูฝึกก็มีการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เราไม่ได้นิ่งดูดาย”
รองแม่ทัพภาค 4 กล่าวด้วยว่า ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะนำไปเป็นบทเรียนเพื่อกำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการฝึก ไปปรับปรุงแก้ไขไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยขึ้นอีก(อ้างอิงจาก https://www.isranews.org/article/south-news/documentary/114157-trotcscare.html)
#
ข้อมูลแย้งสองกลุ่ม
จากปาก รด.ปี 1 เล่าไทม์ไลน์ฝึกหนัก 3 วัน ถูกลงโทษจนเดินไม่ได้ “โดย นักศึกษาวิชาทหารชั้นปีที่ 1 ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ต่อหน้ามารดาที่เฝ้าดูแลอาการว่า หลังเข้ารับการฝึกจะเดินไม่ได้ เนื่องจากถูกทำโทษ มารดาซึ่งยืนอยู่ข้างเตียงลูกชายที่นอนป่วยอยู่ ได้บอกกับเจ้าหน้าที่ว่า ตอนแรกตนก็ไม่ได้คิดอะไร ยังบอกกับลูกชายว่า อาจจะเพราะแรกๆ ร่างกายไม่พร้อม ซึ่งอาจจะเกิดการปวดเมื่อยได้ แต่เพื่อความสบายใจจึงได้พาลูกชายไปพบแพทย์ พบว่าไม่ใช่เป็นอาการเมื่อยตามปกติจากการฝึก”(อ้างอิง https://www.matichon.co.th/region/news_3707405)ในขณะนศท. คนอื่นๆยัน ว่า ครูฝึกดูแลดี น้ำ-อาหารพอทุกจุด ใครป่วยแจ้งได้ แจงการทำโทษ 2,000 ครั้งไม่เป็นความจริง(อ้างอิง https://www.matichon.co.th/politics/news_3709256)
จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ผู้ปกครองไม่ยอมพร้อมจี้ครูฝึกต้นเหตุขอโทษ - และออกมาโต้ นศท.หญิงออกพูดแก้ต่าง "เมื่อไฟมันดับแล้วจะราดน้ำมันทำไม" (อ้างอิงจากThe Reporter)
ในขณะที่นวลน้อย ธรรมเสถียร นักข่าวดังตั้งคำถามว่า “ปรากฎการณ์นี้น่าสนใจ คนอ่านแต่ละคนเองก็คงมีจินตนาการหลายอย่างต่างๆกันไป เชื่อว่าข้อมูลนี้จนท.คงจะเอาไปประกอบในการตรวจสอบข้อเท็จจริง ดังนั้นมันคงส่งผลทั้งต่อการตรวจสอบอย่างเป็นทางการและกับจิตวิทยาทางสังคม
การออกมาพูดเช่นนี้ทำให้เรื่องนี้หักมุมอย่างฉับพลัน ด้านหนึ่งมันกลายเป็นคำพูดของนศ.ที่ขัดแย้งกันเอง ครูฝึกไม่อยู่ในสถานะผู้ต้องตอบคำถาม (คนเดียว) อีกต่อไปเพราะมันกลายเป็นการโยนคำถามกลับไปที่นศ.ที่เจ็บป่วย ส่วนนศ.กลุ่มนี้เองก็แน่นอนว่าจะถูกตั้งคำถามด้วยและมันก็ปรากฎแล้ว
แต่ในแง่ข่าว เราว่าเขียนได้ชวนงงเหมือนกันนะ เพื่อนๆลองไปอ่านข่าวตัวเต็มดู มันไม่ยาว
#ตรวจสอบเพื่อความโปร่งใสและข้อเสนอแนะ
นางสาวอัญชนา หีมมีหน๊ะจาก กลุ่มด้วยใจและนักสิทธิมนุยชนในพื้นที่เสนอ
ขอเรียกร้องต่อกองทัพเบื้องต้นกรณี รด.
1.ขอให้ดูแลการรักษาพยาบาลโดยเฉพาะการอำนวยความสะดวกให้ผู้ปกครองได้ดูแลลูกอย่างใกล้ชิด ได้พักผ่อนไม่ลำบากเช่นการได้ห้องพักพิเศษทุกกรณี
2 . ครอบครัวต้องมีค่าใช้จ่ายในการดูแลผู้ป่วยทั้งเรื่องอาหาร ค่าเดินทาง หลายคนอยู่ไกลการเดินทางทุกวันมีค่าใช้จ่ายสูงและไม่ได้ทำงาน ควรมีการดูแลเรื่องนี้
3.การตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงที่ไม่มีทหารเป็นกรรมการแต่มีผู้เชี่ยวชาญทั้งเรื่องเด็ก หมอ ภาคประชาชน นักจิตวิทยา และผู้เชี่ยวชาญเรื่องการทรมาน
4 .หยุดการด้อยค่าเด็กและผู้ปกครอง มีการอ้างว่าเด็กดื่มน้ำกระท่อม พ่อแม่ดูแลไม่ได้
5 . ออกมาตราการใหม่ที่ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้
6 .นำคนผิดมาลงโทษและขอโทษต่อสังคม
สำหรับข้อ3”การตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงที่ไม่มีทหารเป็นกรรมการแต่มีผู้เชี่ยวชาญทั้งเรื่องเด็ก หมอ ภาคประชาชน นักจิตวิทยา และผู้เชี่ยวชาญเรื่องการทรมาน”เพื่อความโปร่งใส เป็นธรรมและตรวจสอบได้
รอมฎอน ปัญจอร์ จากศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ (Deep South Watch) ผู้มีบทบาทสนับสนุนสันติภาพชายแดนใต้มาสม่ำเสมอ และเป็นหนึ่งในผู้ทำวิจัยประเมินแผนงานบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ระหว่างปี 2560-2562 อีกทั้งเป็นอนุกรรมาธิการพิจารณางบประมาณจังหวัดชายแดนภาคใต้ประจำปี 2563
ให้ทัศนะว่า
“เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าคณะกรรมการสอบในเรื่องนี้ที่ตั้งโดย #แม่ทัพภาคที่สี่ จะทำหน้าที่ได้อย่างตรงไปตรงมา? เพื่อแสวงหาผู้รับผิดชอบและเป็นหลักประกันว่าจะไม่มีเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นซ้ำรอยอีก กลไกตรวจสอบภายในกองทัพนั้นเป็นสิ่งจำเป็นก็จริง แต่หลายเหตุการณ์ในอดีตพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเราจะคาดหวังอะไรได้มากน้อยเพียงใด เพื่อทำให้กองทัพมีประสิทธิภาพ ความพร้อมรับผิดรับชอบ และความชอบธรรมในทางการเมือง จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีกลไกของฝ่ายพลเรือนขึ้นมา #ควบคุมกองทัพ โดยเฉพาะกลไกที่ยึดโยงหรือมีที่มาที่ไปซึ่งเชื่อมโยงกับความเป็นตัวแทนของประชาชน หาไม่แล้ว ความเชื่อมั่นต่อสถาบันทางสังคมที่ต้องรักษาเอาไว้แห่งนี้จะเสื่อมคลายและสั่นคลอนไปมากกว่านี้
นี่คือเหตุผลว่าทำไมประเทศนี้ต้องมี #ผู้ตรวจการกองทัพ
ทั้งหมดนี้ จำต้องดำเนินไปพร้อม ๆ กับการลดละเลิกวัฒนธรรมอำนาจนิยม-นิยมทหารที่ฝังรากลึกลับอยู่ในสังคมไทยด้วยมาตรการต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงการเปิดให้มีการรับสมัครทหารตามความสมัครใจที่ทำไปพร้อมกับการ #ยกเลิกเกณฑ์ทหาร โดยที่การปรับเปลี่ยนที่ว่านี้จะลด #เหตุผลและเงื่อนไข ของการเรียน รด.ไปด้วยในเวลาเดียวกัน
เด็ก ๆ ของเราจะไม่ต้องเสี่ยงเจ็บตัวกับการ #ฝึกทหาร เช่นนี้ เราจะยืดอกได้อย่างภาคภูมิว่าประเทศแห่งนี้เคารพสิทธิมนุษยชนและความเป็นคน ทรัพยากรที่มีค่าของเราจะเติบโตและเปล่งพลังได้อย่างที่ควรจะเป็น โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าพวกเขาจะใช้ชีวิตวัยหนุ่มไปกับการเป็น #ทาส ใคร”
ขณะที่นายกัณวีร์ สืบแสง ประธานยุทธ์ศาสตร์และรองหัวหน้าพรรคเป็นธรรม เห็นว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียนสำคัญที่ต้องมาพิจารณายกเลิกกฎหมายการเกณฑ์ทหาร ซึ่งอาจยังมีประเทศกว่า 20 ประเทศที่ยังคงกฎหมายนี้ในรัฐธรรมนูญ แต่สำหรับไทยต้องมาทบทวนบริบทด้านความมั่นคง ที่มีการสู้รบน้อยมาก และการเรียนรักษาดินแดน หรือ รด. จริงๆแล้วเป็นผลพวงจากความไม่ประสงค์ของเด็กและผู้ปกครองที่จะต้องผ่านการเกณฑ์ทหารเมื่ออายุครบ 21 ปี บริบูรณ์นอกจากนี้ รด. ที่มีอยู่เริ่มต้นตั้งแต่เด็กชายอายุ 15 ปี และไม่สมัครใจโดยส่วนใหญ่ มีการตั้งข้อสังเกตุเรื่องการฝึกกองกำลังทหารเด็ก เพราะกลายเป็นการบังคับคนโดยกฎหมายที่จะมีผลต่อเด็กในอนาคตหากไม่เรียน รด. และสร้างความกลัวให้ทั้งผู้ปกครองและเด็ก การเรียนทหารของรักษาดินแดน ควรใช้คอนเซ็ปท์ “citizen soldier” ในการฝึกฝนบุคคลให้มีศักยภาพทางทหารเมื่อประเทศของตนต้องการ และคนที่ถูกฝึกนั้นสามารถใช้ศักยภาพที่ถูกพัฒนามาเพื่อเติมเต็มหน้าที่ของพลเมืองอย่างมีคุณภาพในเวลาปกติ และการเข้าไปฝึกนั้น ควรต้องไม่ใช่เด็กและต้องเป็นไปด้วยความสมัครใจ
ทำไมไทยไม่พิจารณาและทำเฉกเช่นนี้ หากทำแล้ว 1) จะไม่ถูกครหาเรื่องการใช้กฎหมายการเกณฑ์ทหารมาบังคับให้คนเรียน รด.
2) ลบข้อครหาและความเสี่ยงถูกกล่าวหาเรื่องทหารเด็ก 3) ผู้ที่จะเข้าเรียนวิชาทหารในมหาวิทยาลัย จะไม่ใช่เด็กแล้ว 4) คนมารับการฝึกอบรมจะมาด้วยความสมัครใจ 5) ลดภาระการใช้ภาษีหลายร้อยล้านบาทจากการนำมาใช้เรื่องการอบรม รด. ปี 1 - 3 ทั่วประเทศ 6) นำภาษีที่จะต้องใช้จ่ายในข้อ 5 มาทำเป็นทุนให้นักศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยที่สมัครใจเรียน อย่าง ROTC เพื่อช่วยให้สำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษา และวิชาทหารที่สมัครใจเรียนไปพร้อมกัน และ 7) กองทัพจะได้บุคลากรที่มีคุณภาพในหลายๆ สาขาวิชาในระดับอุดมศึกษามาพัฒนากองทัพอย่างมากมาย (อ้างอิงจากThe Reporter)
31 Jul 2025
04 Jun 2025
04 Jun 2025
04 Jun 2025
ข่าวสารสังคมนอกสื่อกระแสหลัก ข่าวสารความเคลื่อนไหว เกี่ยวกับเอ็นจีโอ ข่าวกิจกรรมเพื่อสังคม งานสัมนา สมัครงานเอ็นจีโอ ร้องเรียน แจ้งข่าว…ประนามประจาน !! ที่ได้รับความทุกข์ร้อนไม่เป็นธรรม