ปรากฏการณ์หลวงตาบุญชื่น

19259 23 Nov 2020



หลายปีมาแล้ว ที่ผมเคนพูดว่า สังคมไทยนั้น กำลังเข้าสู่ภาวะความแห้งแล้งด้านความศรัทธาทางศาสนา ความศรัทธาที่มาจากความเลื่อมใส ในวัตรปฏิบัติของพระ ที่พยายามค้นหาความสงบ ความเข้าถึงพุทธิปัญญา ความกระจ่างในหลักคำสอน ความศรัทธาที่เกิดจากปัญญาของผู้เลื่อมใส สังคมปัจจุบันเป็นสังคมที่มุ่งเน้นไปทางวัตถุ การดิ้นรน การมองสรรพสิ่งเป็นเงิน เป็นทอง เป็นข้าวของ แม้กระทั่งบุญ บาป  กรรม ทำแต่ง นานาต่างๆ เป็นสังคมที่ที่แข็งขัน และ ห่างหายจากความละอายต่อบาป จึงกระทำผิด กระทำละเมิดต่อกันอย่าง ชั่วช้า ความเสื่อมโทรมของศาสนา จึงสะท้อนความเสื่อมโทรมของสังคม ของปราชญ์ ปัญญาชน เพราะ ศิลปะ และ ศาสนา เป็นเครื่องมือสะท้อนความเจริญ รุ่งเรือง ทางจิตใจ ทางปัญญาของสังคม

เมื่อวาน ระหว่างนั่งรอหลวงตาบุญ ที่เดินจาริกแสวงบุญ ผมเข้าใจว่ามาจากจันทบุรี และจะไปนครพนม ผ่านเส้นทาง สายวัฒนา สระแก้ว โนนดินแดง บ้านกรวด พนมดงรัก ผ่านหน้าบ้านผม ซึ่งถนนสายนี้เป็น เส้นทางแสวงบุญของพระธุดงค์ มานมนาน พบพานบ่อย ทุกปี ก็เลยเฉยๆ เพราะ บางขบวน เดินผ่านกันเยอะๆ ผ่านแล้ว ผ่านเลย บางขบวนก็อึกทึก โครมคราม บางขบวนก็ดูลับๆล่อๆ ไม่น่าไว้วางใจ

พระที่เดินตามถนนในปัจจุบัน หลายครั้งที่ผมเห็นเดินโบกรถ และหลายครั้งที่ผมรับขึ้นรถ แล้วก็ผิดหวัง บางรูปให้ผมจะขอนั่งหน้าให้ผมไล่ภรรยา ไปนั่งหลัง บางรูป พอไปส่งแล้ว ทะลึ่งขอเงินค่ารถ บางรูปเมา คุยไม่รู้เรื่อง ฯลฯ ผมเคยมาหมด นี่แหละที่ผมเรียกว่า ความแห้งแล้งทางศรัทธา เพราะคนในสังคม เพราะพระสงฆ์  ไม่ได้ละอายต่อบาปกรรม อะไรแล้ว พอวันนี้ เราเจอะเจอพระที่ สงบ สมถะ พระชราในวัย
74 พรรษา ที่เดินจาริก เท้าเปล่า ท่ามกลางอากาศร้อน ระอุ กลับชวนให้รู้สึกเย็นในจิต พากันนั่งลง ริมถนน กราบนมัสการท่าน

 

เรื่องพระธุดงค์ นี่ผมเคยเขียนเมื่อ 10 กว่าปีก่อน จากกรณี เจ้าหน้าที่อุทยานฯ จับพระ เนื่องจากพระเข้าไปปักกลด ภาวนากรรมฐาน ในถ้ำ กลางป่า ซึ่งเป็นป่าต้นน้ำ โซน เอ บนเมือกเขาหลวง นครศรีธรรมราช พระท่านก็อ้างว่า ถ้ำแห่งนี้เป็นที่พักของพระสงฆ์ มาแต่โบราณ และ อยู่ในเส้นทางจาริกแสวงบุญ ของพระธุดงค์ ที่จะไปอินเดีย หรือ เดินธุดงค์ สายใต้ นี้ ส่วนเจ้าหน้าที่ ก็อ้างว่า พรบ.อุทยานฯ ห้ามใครก็ตามบุกรุก อาศัย ?

ข้อขัดแย้งเรื่องนี้น่าสนใจ มาก ระหว่าง การอนุรักษ์ กับ การรักษา จารีตประเพณี ความเชื่อ ต่างๆ เราควรจะจัดการอย่างไร โลกก็ต้องการธรรมชาติไว้เยี่ยวยา ศาสนาก็ต้องการธรรมชาติไว้ภาวนาค้นหา พระธรรม ความสงบ เรื่องนี้ จนวันนี้ ผมก็ยังไม่มีคำตอบ แต่ ก็ไม่เห็นสังคมไทย ที่เรียกตัวเอง ว่า สังคมพุทธ เมืองพุทธ มีคำตอบ และไม่แปลก ที่ปัจจุบันนี้ เราจะเห็นพระธุดงค์ เดินตามถนนลาดยาง กลางแดดเปรี้ยง ๆ คอยหลบรถราขวักไขว่ มองไม่เห็นความสงบ สองข้างทางถ้าไม่ใช่ตึกรามบ้านช่อง ก็เป็น สวน ไร่ นา ที่ล้วนแต่ มีการเพาะปลูกแบบเข้มข้น ซึ่งผมมักคิดไว้ ว่า เมืองไทย เมืองพุทธ หลายคนมักเขียนหรือ พูดถึงดินแดนแห่งนี้ ว่า เส้นทางพระธรรม หรือ พุทธภูมิ ฯลฯ แต่กลับไม่มี แนวทางฟื้นฟู รักษา หัวใจของศาสนา เส้นทางจาริก แสวงบุญ เดินเท้าเปล่าได้  เรามีถนน
8 เลนส์ ให้รถบรรทุกวิ่ง สะเทือนเลือนลั่น  มีทางด่วน สองระดับ ให้รถทำความเร็ว สะดวกดายจ่ายคล่อง แต่เราไม่มีเส้นทางพระธรรม เส้นทางพระธุดงค์

เมื่อวาน ผมตั้งใจจะล้างเท้า ที่ย่ำตามถนนร้อนๆ ของหลวงตาบุญชื่น แต่ถูกห้าม เพราะเท้าของหลวงตาเป็นแผล บาดแผลนั่นทำให้ผมนึกขึ้นได้ ว่า ผมเคยคิดเรื่องนี้มานานแล้ว เราไม่มีเส้นทางพระธรรม สำหรับพระธุดงค์เดินแสวงบุญ

 

ผมนึกถึง เรื่อง พระบุกรุกป่าอุทยานฯ ที่ นครศรีธรรมราช เรามีที่กว้างใหญ่ ศาสนิกชน ชาวพุทธ ร่ำรวย มีที่ดินกันทุกคน แต่ก็พ่นยา ปลูกพืชเชิงเดี่ยว ตัดต้นไม้ ทำลายป่า  ใช้สารเคมี  ล้อมรั้ว ไม่มีไม้ใหญ่ร่มรื่น ประดับผืนดิน เผื่อวันหนึ่ง อาจจะมีพระสักรูปหนึ่งมาปักกลด บำเพ็ญเพียร ภาวนา หาความสงบ เอาเข้าจริงๆ  เส้นทางพุทธธรรม ดินแดนพุทธภูมิ คนไทยศรัทธศาสนา อะไรเทือกๆ นี้ เอาเข้าจริงๆ เราไม่เคยทำนุ บำรุง หัวใจศาสนากันเลย

นานมาแล้ว ที่ผมไม่เคยเขียนเรื่องพระสงฆ์ องค์เจ้า จริงๆจังๆ  เพราะผมไม่ค่อยเข้าวัด ผมเบื่อพระ ที่ไม่ค่อยจะเป็นพระ แต่เป็นคน พระที่คลั่งสมณศักดิ์ หลงปัจจัย ที่พอกพูนด้วยกิเลส ความโลภ ความหลง และพระที่ไม่ยอม ปลด ปลงตัด เพื่อเข้าสู่สภาวะและสถานะพระ
มองเข้าไปในวัด เห็นพระโกลาหลกับกฐิน ผ้าป่า มูลค่าปัจจัย เห็นกุฏิหลังหลายล้าน เงี่ยหูฟัง ได้ยินแต่เสียงแอร์หึ่งๆ เอาดวงจิตเข้าไป มีความร้อนรุ่ม วุ่นวาย ไร้ความสงบ และคลาคล่ำไปด้วยคน ที่ปลดเปลื้องความบาปแบบเร็ว อยากได้ความร่ำรวยโชคลาภ อยากขึ้นทางด่วนไปสวรรค์ ฯลฯ ไม่มีใครไปวัดเพื่อหาความสงบ หาลักธรรม  วัดกลายเป็นแดนคนบาป หรือ มารศาสนาไปแล้ว!!  

 

และนานมาแล้ว ที่ผมหันไปไหว้ผี ไหว้ต้นไม้ ใบหญ้า ผืนดิน และผมมักเขียนบ่อยๆ ว่า ป่า หรือ ธรรมชาติ เงียบๆ บนผืนดิน คือศาสนาของผม ผมเห็นหลักธรรมที่นั่น และผมพบความสงบ พบทางสว่างในสติปัญญา ที่นั่น....

เขียนยาวแล้ว ไปทำจังหันตักบาตร หลวงตาบุญชื่น  ดีกว่า.... อรุณสวัสดิ์ ครับ มิตรสหาย....

 

Contact Information

  • : มูลนิธิกองทุนไทย Thai Fund Foundation 2044/23 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ บางกะปิ ห้วยขวาง กรุงเทพ 10310
  • : webmaster@thaingo.org
  • : 082 178 3849
  • : www.thaingo.in.th

Thai NGO

ข่าวสารสังคมนอกสื่อกระแสหลัก ข่าวสารความเคลื่อนไหว เกี่ยวกับเอ็นจีโอ ข่าวกิจกรรมเพื่อสังคม งานสัมนา สมัครงานเอ็นจีโอ ร้องเรียน แจ้งข่าว…ประนามประจาน !! ที่ได้รับความทุกข์ร้อนไม่เป็นธรรม