ทำไมผมสนับสนุนเด็กๆไล่รัฐบาล

2505 25 Jul 2020

ที่มาของปัญหา การเมือง

การเมืองไทยไม่เคยมีเสถียรภาพ และประชาชน ไม่มีกฎหมายคุ้มครอง ที่ชัดเจน โดยเฉพาะกฎหมาย สิทธิชุมชน ทำให้เกิดรัฐธรรมนูญ 2540 ที่ให้อำนาจประชาชน อำนาจการตรวจสอบ และกลไกการควบคุมอำนาจ อาทิ กกต. ปปช. กสม.  และให้อำนาจรัฐบาล  ทำให้ พตท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร ที่ชนะท่วมท้น มีอำนาจมาก 2544

เกิดรัฐประหาร  2549 โดย คมช. ฉีกรัฐธรรมนูญ 2540 ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญ ที่ดีที่สุด แล้วร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เป็นประชาธิปไตยแบบพิการ แต่คนเสื้อแดงก็ชนะมา ตลอด แต่เกมการเมืองกลับไปสกปรก ที่นำโดยพรรคประชาธิปัตย์ และ สื่อมวลชนไทย ที่เริ่มเอนเอียnง ทำให้คนเสื้อแดงพยายามต่อสู้ ด้วยความเชื่อในความชอบธรรมคือ ชนะการเลือกตั้ง แต่ก็แพ้ วาทกรรมของ  กปปส.  เรื่องระบอบสามานย์  แต่คนเสื้อแดงก็ยังชนะการเลือกตั้ง

กปปส. ขึ้นมาดังเป็นพลุแตก โดยเฉพาะใน กทม. ดึงนักวิชาการไทยมาเกือบหมด เอ็นจีโอ นักประชาธิปไตย ชนชั้นนำไทยทั้งหมด ชนชั้นกลางผู้เทิดทูญสถาบัน มาหมด ไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง จนรัฐบาลยิ่งลักษณ์ยุบสภา

กปปส. ไล่รัฐบาล ที่มาจากการเลือกตั้ง ประเด็นคือ ปชป. ก็ออกไปไล่ด้วย และประกาศไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง นั่นไม่สำคัญเท่า กปปส. ขัดขวางการเลือกตั้ง ด้วยวาทกรรมสุดท้าย คือ ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง
 

หายไป 5 ปี ของความพยายามที่จะเค้นมันสมอง ว่า ปฏิรูปการเมืองที่อยากได้นั้น ปฏิรูปอะไร สุดท้ายก็ได้ รัฐธรรมนูญพิการมา เป็นรัฐธรรมนูญที่มีประชาธิปไตยแค่ครึ่งใบ เพราะมี ส.ว.แต่งตั้ง และมีอำนาจโหวตในสภา ?  กับกฎหมายเลือกตั้ง กฎหมายพรรคการเมือง  ที่วางหลุมพรางไว้เต็มไปหมด เพื่อไม่ให้ ระบอบผู้แทนฯ เข้ามาได้ง่ายๆ และมีบทบาทสำคัญ สรุปก็คือ เราไม่ได้ปฏิรูปอะไรเลย รัฐยังคงเข้มแข็ง และภาคประชาชนยังกำหนดอะไรไม่ได้ ในทางการเมือง หลังเลือกเลือกตั้งที่ผ่านมา เรา สส. แบบประหลาดๆ จากกฎหมาย ที่ร่างโดยคนพิการสมอง  และได้รัฐบาลจากพรรคเสียงส่วนน้อย ซึ่งผิดหลักการประชาธิปไตย ที่ทั้งโลกเขาทำ แต่ก็บังเกิดขึ้นที่นี่ และได้ นายกรัฐมนตรีคนนอก ที่มาจาก ส.ว.แต่งตั้ง โหวต

ปรากฎการณ์สำคัญในนั้น คือ เรามีพรรคของคนรุ่นใหม่มา 1 พรรค มีไฟ มีอุดมการณ์ ได้คะแนนเสียงอันดับต้นๆ โดยไม่ได้ซื้อ ไม่ได้หาเสียงอะไรมากนัก และเพิ่มเริ่มเล่นการเมือง เป็นที่ถูกใจ มีความหวังมากของคนหนุ่มสาว แล้วก็มาถุกยุบ ด้วยข้อหาที่น่าคลางแคลงใจ แถมผิดที่ผิดทางผิดกาลเวลา ทำให้ประชาชนไม่น้อยรู้สึกไปได้ว่า รัฐบาลพยายามกำจัดศัตรูทางการเมือง ด้วยวิธีการที่ไม่เป็นธรรม

เมื่อบวกรวมสถานการณ์ทั้งความขัดแย้งตั้งแต่ต้น มาจนถึงวันนี้ คือ 15 ปี เด็กๆที่มาร่วมชุมนุม ล้นแต่เติบโตเริ่มจำความได้ ท่ามกลางกระแส ความขัดแย้งทางการเมืองทั้งสิ้น กระบวนการที่ฝ่ายกุมอำนาจกระทำต่อศัตรูความคิด การยิงด้วยสไนเปอร์กลางเมืองหลวง การอุ้มฆ่า การยัดเยียดข้อหา การข่มขู่ ติดตาม ไล่ออกนอกประเทศฯลฯ   ทั้งรุนแรงและเป็นอาชญากรรม นั้น ที่เกิดขึ้น อย่างไร้กรอบกติกาประชาธิปไตย ที่เด็กๆรับรู้ รับฟัง ได้ยิน ได้เห็น มาตลอด

ดังนั้น สำนึกทางการเมืองที่คนหนุ่มสาวเหล่านี้ รู้สึกนึกคิด มาจากผลพวงการกระทำของผู้ใหญ่ในวันนี้ นี่เอง... เหตุนี้ ผมจึงต้องพูดดังๆ ว่า “ฟังเสียงเด็กหนุ่มสาวเยาวชน” เหล่านี้บ้าง เพราะนี่คือ ประเทศของเขา อนาคตของเขา เช่นกัน