ศาลจังหวัดปัตตานีนัดไต่สวนพยานครั้งที่สาม   คดีวิสามัญนักศึกษาและชาวบ้านรวม 4 ศพ ที่บ้านโต๊ะชูด ต.พิเทน อ.ทุ่งยางแดง  จ.ปัตตานี

977 31 Jan 2016

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม และ 9 พฤศจิกายน 2558 ในคดีหมายเลขดำที่ ช.11/2558 ซึ่งเป็นคดีไต่สวนการตายของนายสุไฮมี เซ็น  นายซัดดัม วานุ  นายคอลิด สาแม็ง (นักศึกษา) และนายมะดารี        แม้เราะ (นักศึกษา) ศาลปัตตานีได้ไต่สวนพยานฝ่ายผู้ร้อง(ฝ่ายอัยการจังหวัดปัตตานี) ไปแล้วรวม 6 ปาก ยังเหลือพยานฝ่ายผู้ร้องอีก 2 ปาก  ศาลจึงได้นัดไต่สวนพยานฝ่ายผู้ร้องอีกครั้ง ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2559  โดยหากไต่สวนพยานฝ่ายผู้ร้องเสร็จสิ้นแล้ว โดยปากสุดท้ายจะเป็นพนักงานสอบสวน  และจะเริ่มทำการไต่สวนพยานฝ่ายผู้ร้องซักถาม(ฝ่ายญาติผู้ตาย)ในวันดังกล่าวด้วย และไต่สวนพยานฝ่ายผู้ร้องซักถามต่อเนื่องอีกครั้งในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2559 ในการไต่สวนการตายนี้ญาติผู้ตายทั้ง 4ได้แต่งตั้งทนายความจากมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมและมูลนิธิผสานวัฒนธรรม โดยทนายความได้ยื่นคำร้องเพื่อซักถามพยานของพนักงานอัยการ พยานที่ศาลได้ไต่สวนไปแล้ว 6 ปาก ได้แก่ พ.ต. ลิขิต กระฉอดนอก เจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วย ฉก.ที่ 41   จ.ส.ต.อัมพร เลี่ยเห้ง  เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ปฏิบัติการชายแดนใต้   อส.ทพ. วิรัตน์ชัย บือซา อาสาสมัครทหารพรานจากหน่วย ฉก.ที่ 41   นายแพทย์อรัญ รอกา แพทย์ผู้ชันสูตรพลิกศพ   อส.ทพ.รัชพล มั่นคง อาสาสมัครทหารพราน กรมทหารพรานที่ 41  วังพญา  อ.รามัน จ.ยะลา   และ พ.ต.ท ดำรงศักดิ์ ตอประเสริฐ   เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการสืบสวน ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจชายแดนภาคใต้ หัวหน้าชุดปฏิบัติการฝ่ายตำรวจ ในคดีอาญาญาติผู้ตายได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี เป็นคดีที่ 36/2558  และหน่วยงานภาครัฐได้จ่ายเงินเยียวให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต ครอบครัวละ 500,000  บาท  อีกทั้งมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้วพบว่า ผู้ตายทั้งสี่เป็นผู้บริสุทธิ์ เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งเป็นทหาร 3 คน และตำรวจ 3 คน แต่คดีอาญายังไม่คืบหน้า ยังไม่มีการดำเนินการทางวินัยและการแจ้งข้อหาอาญาใด ๆ แก่เจ้าหน้าที่รัฐ จนปัจจุบัน ขอเชิญผู้ที่สนใจและสื่อมวลชนเข้ารับฟังการพิจารณาคดีดังกล่าวได้ที่ศาลจังหวัดปัตตานี         ในวันที่ 2 และ 3 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 09.00 น. ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ  นายอับดุลกอฮาร์ อาแวปูเตะ 081-8987408  ทนายความ มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมจังหวัดปัตตานี นายปรีดา นาคผิว   089-62222474  ทนายความ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เหตุการณ์เกิดเมื่อวันที่ 25  มีนาคม 2558 เวลาประมาณ 17.20 น. ที่ได้มีการสนธิกำลังระหว่างฉก.ปัตตานี 25 นปพ. 431 ฉก. ทพ.41 กำลังตำรวจจากสภ.ทุ่งยางแดง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และ ทหารจากร้อย ร. 35314 ฉก.ปัตตานี เข้าปฏิบัติการตรวจสอบความผิดปกติในพื้นที่ หมู่ที่ 6 บ้านโต๊ะชูด ต. พิเทน อ.ทุ่งยางแดง จ. ปัตตานี ส่งผลให้มีการจับกุมชาวบ้านจำนวน 22 คน และมีชาวบ้านเสียชีวิตจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ (วิสามัญฆาตกรรม)ในที่เกิดเหตุ 4 คน คือนายสุไฮมี เซ็น นายซัดดัม วานุ นายคอลิด สาแม็ง และนายมะดารี แม้เราะ หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ให้ข่าวสารต่อสาธารณะว่าผู้เสียชีวิต 2 คนเป็นแกนนำก่อความไม่สงบในพื้นที่ทุ่งยางแดงระดับปฏิบัติการ (RKK) ได้ ใช้อาวุธต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ แต่ชาวบ้านใกล้เคียงที่เกิดเหตุและญาติเชื่อว่าผู้ตายไม่มีอาวุธและไม่ได้ ต่อสู้กับเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด ต่อมาทางผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผลการสอบสวนปรากฏว่า จากการข่าวและพยานบุคคลยืนยันว่า ไม่ปรากฏว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 4 คน มีพฤติการณ์เป็นกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงหรือแนวร่วมผู้ก่อความไม่สงบมาก่อน มีเพียงบางรายที่เคยถูกจับเพราะเสพน้ำกระท่อม ก่อนถูกยิงเสียชีวิตในขณะที่วิ่งหลบหนีเจ้าหน้าที่ ไม่ปรากฏว่าผู้ตายทั้ง 4 ราย มีอาวุธปืนแต่อย่างใด คณะกรรมการจึงมีความเห็นเชื่อว่าผู้ตายทั้ง 4 ราย ไม่ใช่ผู้ก่อเหตุรุนแรงและไม่ใช่แนวร่วมกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ส่วนการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่นั้น คณะกรรมการมีความเห็นว่าจุดเริ่มต้นของการปฏิบัติการครั้งนี้ น่าเชื่อว่ามีเหตุผลเพียงพอ เนื่องจากมีข้อมูลด้านข่าวกรองและข่าวสารความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อเหตุ รุนแรงอยู่ในพื้นที่  ส่วนอาวุธที่เจ้าหน้าที่อ้างว่าพบอยู่กับผู้ตาย ไม่มีหลักฐานบ่งชี้เชื่อมโยงกับผู้ตาย และจากการตรวจสอบอาวุธปืนดังกล่าว ไม่พบว่าเคยใช้ในการกระทำความผิดมาก่อน จึงไม่สามารถสรุปได้ คงให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญการ แต่น่าเชื่อว่าไม่ใช่เป็นอาวุธของผู้ตายตั้งแต่เริ่มต้น และได้เสนอแนะให้มีการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ที่ทำให้ชาวบ้านทั้ง 4 คนเสียชีวิต  ทั้งให้ช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบตามระเบียบโดยเร็ว  นอกจากนี้ยังเสนอให้มีการปรับปรุงระบบการข่าวกรองให้แม่นยำมากขึ้น การเข้าปิดล้อมตรวจค้นควรมีผู้นำท้องถิ่นเข้าร่วมด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้ เกิดเหตุการณ์ผิดพลาดดังกล่าวอีก และถ้าเกิดเหตุคล้ายกับกรณีดังกล่าว ให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงเร่งชี้แจงข้อเท็จจริงโดยเร็ว  

Contact Information

  • : มูลนิธิกองทุนไทย Thai Fund Foundation 2044/23 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ บางกะปิ ห้วยขวาง กรุงเทพ 10310
  • : webmaster@thaingo.org
  • : 082 178 3849
  • : www.thaingo.in.th

Thai NGO

ข่าวสารสังคมนอกสื่อกระแสหลัก ข่าวสารความเคลื่อนไหว เกี่ยวกับเอ็นจีโอ ข่าวกิจกรรมเพื่อสังคม งานสัมนา สมัครงานเอ็นจีโอ ร้องเรียน แจ้งข่าว…ประนามประจาน !! ที่ได้รับความทุกข์ร้อนไม่เป็นธรรม