ประชาสังคมหรือคนในคือปัจจัยหลักของความสำเร็จ กระบวนการสันติภาพที่อาเจะห์

1007 08 Jan 2014

รายงานจากอาเจะห์ อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ) รายงานจากขอนแก่น กรรมการสภาประชาสังคมชายแดนใต้ อาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัยทักษิณ ผู้ช่วยผู้จัดการโรงเรียนจริยธรรมศึกษามูลนิธิ อ.จะนะ จ.สงขลา Shukur2004@chaiyo.com http://www.oknation.net/blog/shukur "มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิของอัลลอฮฺ (สุบหานะฮูวะตะอาลา) ผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความจำเริญและสันติจงประสบแด่ศาสนฑูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน" หลักสูตรการเสริมสร้างสังคมสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รุ่นที่ 2 มีผู้เข้าร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เน้นการเปิดพื้นที่การพูดคุยในการแก้ปัญหาความขัดแย้งในจังหวัดชายแดนภาคใต้/ปาตานี จากจำนวน 30 ท่าน จากผู้นำศาสนาพุทธ มุสลิม นักการเมืองระดับชาติ ท้องถิ่น หน่วยงานความมั่นตง ไม่ว่าทหาร ตำรวจ หน่วยพัฒนาจากศูนย์อำนวยบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตัวแทนฝ่ายปกครอง ตัวแทนกำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน ตัวแทนผู้บริหารการศึกษาทั้งรัฐและเอกชน ประชาสังคม ตัวแทนสตรี และเยาวชนซึ่งจัดโดยสถาบันปกเกล้า โดยวางการศึกษาออกเป็น 3 ส่วน คือบรรยายภาควิชาการ กระบวนการสันติสนทนาเพื่อสร้างความเข้าใจหรือหาทางออกร่วมกัน โดย วิเคราะห์ภายในกลุ่มโดยมีวิทยากรกระบวนการและการเสริมสร้างประสบการณ์เชิงประจักษ์โดยศึกษาดูงานในกระบวนการสันติภาพที่เขตปกครองตนเองที่อาเจะห์ ประเทศอินโดนีเซียเป็นเวลาสามวันคือ 16-18 ธันวาคม และศึกษาทฤษฎีต่างๆที่ปัตตานี โดยใช้เวลาทั้งสิ้นจำนวนสองเดือนนับตั้งแต่วันที่22 ตุลาคม – 11 ธันวาคม 2556 ซึ่งจากไปศึกษาดูงานที่อาเจะห์นั้นเราได้เรียนรู้กระบวนการสันติภาพจากประชาสังคมต่างๆของอาเจะห์รวมทั้งสภาปราชญ์อิสลามอาเจะห์ก่อนไปพบรัฐบาลท้องถิ่นอาเจะห์ ซึ่งทั้งหมดของผู้ศึกษาดูงานพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าประชาสังคมจะเป็นตัวกลางระหว่าง Tractk1 และ Track 3 คือชาวบ้าน ให้ประสบความสำเร็จถึงแม้ข้อตกลงด้านบนระหว่างคู่ขัดแย้งจะตกลงกันไม่ได้ในหลายครั้ง ทนาย อับดุลกอฮาร์ อาแวปูเตะ.จากศุนย์ทนายความมุสลิม กล่าวสรุปว่า " จากการได้เดินทางไปดูงานที่อาเจะห์แล้วทำให้เห็นว่ากระบวนการสันติภาพเป็นเรื่องที่ท้าทายและต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่างในการที่จะได้มาซึ่งสันติภาพ ที่สำคัญจากบทเรียนของอาเจะห์ จะเห็นได้ว่าสันติภาพต้องเกิดจากการก่อตัวของคนในเอง เพราะคนในจะต้องเผชิญกับความขัดแย้งของทั้งสองฝ่าย เสียงของคนในที่ออกมาบอกว่าไม่อยากเห็นความสูญเสีย ทั้งชีวิตและทรัพย์สินอีกต่อไป จะเป็นพลังสำคัญในการผลักดันกระบวนการสันติภาพที่จะทำให้คู่ขัดแย้งลดอารมณ์แห่งความรุนแรงลง ซึ่งจำเป็นต้องใช้ความอดทนและระยะเวลาในการก่อตัวของคนทำงานภาคประชาชนในพื้นที่เชื่อมกับแทรกสามในการผลักดันให้นำไปสู้่สันติภาพให้เกิดขึ้นจริงต่อไป " จากบทสรุปดังกล่าวทำให้นักศึกษารุ่นนี้ได้เสนอโครงการเพาะเมล็คพันธ์สันติภาพเพื่อหนุนเสริมกระบวนการสันติภาพชายแดนใต้/ปาตานีผ่านสามกิจกรรมหลักคือเยาวชน นักศึกษา ผู้นำศาสนาพุทธ-มุสลิมและองค์กรชุมชนโดยใช้มัสยิดเป็นฐาน 4 ชุมชน ใน 4จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้หลักการและเหตุผลว่าเนื่องจากการก่อความไม่สงบใน จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเริ่มรุนแรงมากขึ้นตั้งแต่ปี๒๕๔๗และยังคงต่อเนื่องโดยไม่มีทีท่าว่าจะลดน้อยลงแต่อย่างใด ในความเป็นจริงปัญหานี้เกิดมานานแล้ว แต่ไม่มีรัฐบาลสมัยไหนสามารถแก้ปัญหาได้อย่างแท้จริง วิธีการแก้ปัญหามีต่างๆนานา แต่วิธีการหนึ่งคือการบ่มเพาะเมล็ดพันธ์สันติภาพให้กับประชาชนในพื้นที่หรือคนในด้วยกระบวนการสันติสนทนาเพื่อสร้างความเข้าใจหรือหาทางออกร่วมกันในปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้มีความสำคัญมากทั้งคนในและคนนอกในการหนุนเสริมกระบวนการสันติภาพชายแดนใต้/ปาตานีใน 3 กิจกรรมดังกล่าวอันเป็นการตอบโจทย์คนในเพื่อสร้างความเข้มแข็ง ซึ่งกลุ่มเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่ง ของTrack 3 หากกลุ่มเหล่านี้ไม่เข้าใจสันติภาพที่จะเกิดก็ยากหรือหากมีความสำเร็จใน Track 1 ก็ยากที่จะยั่งยืน

Contact Information

  • : มูลนิธิกองทุนไทย Thai Fund Foundation 2044/23 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ บางกะปิ ห้วยขวาง กรุงเทพ 10310
  • : webmaster@thaingo.org
  • : 082 178 3849
  • : www.thaingo.in.th

Thai NGO

ข่าวสารสังคมนอกสื่อกระแสหลัก ข่าวสารความเคลื่อนไหว เกี่ยวกับเอ็นจีโอ ข่าวกิจกรรมเพื่อสังคม งานสัมนา สมัครงานเอ็นจีโอ ร้องเรียน แจ้งข่าว…ประนามประจาน !! ที่ได้รับความทุกข์ร้อนไม่เป็นธรรม