1323 26 Nov 2013
อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ) รายงาน
กรรมการสภาประชาสังคมชายแดนใต้
อาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัยทักษิณ
ผู้ช่วยผู้จัดการโรงเรียนจริยธรรมศึกษามูลนิธิ อ.จะนะ จ.สงขลา
Shukur2004@chaiyo.com
http://www.oknation.net/blog/shukur
"มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิของอัลลอฮฺ (สุบหานะฮูวะตะอาลา) ผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความจำเริญและสันติจงประสบแด่ศาสนฑูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน"
เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2556 ระหว่างเวลา 09.00 – 15.00 น. ณ ห้องประชุม วิลล่า B (สีม่วง) โรงแรมปาร์ควิว รีสอร์ท อำเภอเมือง จังหวัดปัตตาน ทางสภาประชาสังคมชายแดนใต้ (รวมทั้งผู้เขียน)ได้เป็นเจ้าภาพร่วมในการขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพ เรื่อง การพัฒนาระบบสุขภาพในพื้นที่พหุวัฒนธรรม ร่วมกับคณะทำงานสมัชชาสุขภาพ จังหวัด ชายแดนภาคใต้และที่ประชุมได้กำหนดทำการทบทวนมติและข้อเสนอนโยบายสาธารณะ เรื่อง การพัฒนาระบบสุขภาพในพื้นที่พหุวัฒนธรรม ข้อเสนอของสมัชชาปฏิรูปชายแดนใต้ และข้อเสนออื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาระบบสุขภาพในพื้นที่พหุวัฒนธรรม เพื่อจัดทำเป็นข้อเสนอใหม่ในการประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติในครั้งต่อไป ซึ่งมีผลการประชุมดังนี้
การติดตาม ทบทวน และพัฒนาข้อเสนอเพื่อการขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพ กลุ่มจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลา ได้ทำงานร่วมกับสภาประชาสังคมจังหวัดชายแดนใต้ จัดเวทีขับเคลื่อนและรับฟังข้อเสนอในพื้นที่มากกว่า ๑๐๐ เวที โดยแบ่งเป็นประเด็นตามมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติครั้งที่ ๑ ดังต่อไปนี้
๑. การจัดรูปแบบการปกครองส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่นแบบใหม่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้
๒. นโยบายด้านการปฏิรูประบบความยุติธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้
๓. นโยบายด้านการศึกษา
๔. นโยบายด้านเศรษฐกิจ
๕. นโยบายด้านการปฏิรูปสังคม ประเพณี วัฒนธรรม
๖. นโยบายด้านสุขภาพ การแพทย์ สาธารณสุขสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย
ผลการดำเนินการตามมติ
๑. ข้อเสนอปรับโครงสร้างการบริหารการศึกษาในพื้นที่ โดยให้มีหน่วยงานระดับอำเภอและระดับจังหวัดเพื่อทำหน้าที่ดูแลและการจัดการศึกษาของโรงเรียนเอกชนสอนศาสนา และให้บุคคลในพื้นที่ที่เข้าใจศาสนาอิสลามและมีความรู้เกี่ยวกับการจัดการศึกษาในพื้นที่เป็นอย่างดีเป็นหัวหน้าหน่วยงาน ขณะนี้ได้มีการดำเนินการแล้ว โดย จัดตั้ง สำนักงานการศึกษาเอกชน ในระดับ จังหวัด และระดับอำเภอ ในพื้นที่ 3 จังหวัด ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และ 4 อำเภอของสงขลา
๒. ข้อเสนอให้พิจารณาเพิ่มเงินอุดหนุนแก่โรงเรียนตาดีกาและสถาบันศึกษาปอเนาะที่ขึ้นทะเบียนโดยคำนวณเงินอุดหนุนเป็นรายหัว ขณะนี้มีการให้การสนับสนุนงบประมาณเป็นลักษณะการให้เงินอุดหนุนรายปี และมีการจ่ายค่าตอบแทนครูผู้สอนเป็นแบบรายเดือน
๓. ข้อเสนอให้มีการจัดตั้งกองทุนเพื่อการศึกษาสำหรับโรงเรียนตาดีกา และสถาบันการศีกษาปอเนาะ และมีการตั้งกองทุนกู้ยืมสำหรับนักศึกษาปริญญาตรี ขณะนี้มีข้อเสนอให้รัฐโดยกระทรวงศึกษาธิการ จัดให้มีกองทุนกู้ยืม เพื่อการพัฒนาคุณภาพให้กับโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม เช่น การนำไปพัฒนาอาคาร สถานที่ หรือสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม เป็นต้น
๔. ข้อเสนอให้โรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่สามารถกำหนดวันศุกร์และวันเสาร์หรือวันสำคัญทางศาสนาอื่นๆ เป็นวันหยุดเรียนประจำสัปดาห์ของโรงเรียน ขณะนี้โรงเรียนส่วนใหญ่ในชนบทได้เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ปฏิบัติศาสนกิจตามหลักการอิสลาม เช่น การจัดห้องสำหรับละหมาด หรือการให้นักเรียนไปร่วมละหมาดวันศุกร์ร่วมกับชุมชน บางโรงเรียนเปิดให้มีการทำละหมาดวันศุกร์ในโรงเรียน แต่ยังไม่กำหนดเป็นวันหยุดเนื่องจากมีผลกระทบต่อการเรียนและกลไกกฎหมายของรัฐ
๕. ข้อเสนอให้บรรจุเนื้อหาเกี่ยวกับสันติศึกษา วิถีชีวิตท้องถิ่นและศาสนาเปรียบเทียบในหลักสูตรแกนกลาง ขณะนี้มีการจัดตั้งโรงเรียนอิสลามแบบเข้ม ในโรงเรียนรัฐ โดยมีการบูรณาการหลักสูตรแล้ว
๖. ข้อเสนอสนับสนุนให้มีโรงเรียนพิเศษหรือห้องเรียนพิเศษในโรงเรียนเพื่อจัดการศึกษาให้แก่เด็กพิเศษในพื้นที่ ขณะนี้มีการดำเนินการแล้ว แต่เฉพาะบางโรงเรียน และทาง เขตการศึกษา ได้ดำเนินการโครงการพัฒนาครูเพื่อรองรับการศึกษาของเด็กพิเศษในโรงเรียนสังกัดรัฐบาล
๗. ข้อเสนอด้านเศรษฐกิจ ขณะนี้มีการจัดตั้งสภาเศรษฐกิจชายแดนใต้ เพื่อเสนอแนะแนวนโยบายทางด้านเศรษฐกิจให้กับรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐ และมีโครงการพัฒนาฝีมือแรงงาน มีการเตรียมความพร้อมเรื่องภาษาต่างประเทศเพิ่มเติม และ ศอ.บต. ได้มีการดำเนินการเจรจาการคุ้มครองแรงงานไทยในมาเลเซีย
๘. มีการจัดตั้งศูนย์วิทยาศาสตร์ด้านฮาลาล อยู่ที่จังหวัดปัตตานี ดำเนินการโดย ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
๙. มีการดำเนินการจัดตลาดกลางที่มีการอำนวยความสะดวกในการจัดเก็บผลผลติทางการเกษตรและประมง โดยจัดตั้งอยู่ที่ ค่ายอิงคยุทธบริหาร จังหวัดปัตตานี
๑๐. ข้อเสนอให้มีการจัดตั้งศูนย์นิติวิทยาศาสตร์อย่างน้อย 1 ศูนย์ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือพื้นที่ใกล้เคียง ขณะนี้ ได้มีการจัดตั้งศูนย์นิติวิทยาศาสตร์ในพื้นที่จังหวัดยะลาโดยมีความร่วมมือกับสำนักจุฬาราชมนตรี
๑๑. ข้อเสนอให้กรมประชาสัมพันธ์ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมจัดให้มีรายการโทรทัศน์ วิทยุ สำหรับการเสริมสร้างสถาบันครอบครัวเป็นการเฉพาะ ขณะนี้เริ่มมีรายการวิทยุสำหรับการเสริมสร้างสถาบันครอบครัวของสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย แต่ยังไม่ได้มีความร่วมมือเชิงนโยบายจากกรมและกระทรวงตามข้อเสนอ
๑๒. และได้มีการกำนดวันรายออีดิลฟิตรี (วันตรุษละศีลอด ตรงกับวันที่ 1 เดือนเชาวาลตามปฏิทินอิสลาม) วันรายออีดิลออัฏฮา (วันตรุษเชือดสัตว์พลีเนื่องในพิธีฮัจย์ ซึ่งตรงกับวันที่ 10 เดือนซุลฮิจญะฮ์ตามปฏิทินอิสลาม) เป็นวันหยุด รวมถึง วันสำคัญของศาสนาอื่น ๆ เช่น คริสต์ ซิกซ์ เป็นต้น แต่ครอบคลุมเฉพาะพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้
๑๓. กรณีให้รัฐออกกฎหมายอนุญาตให้มีกองทุนประกันภัยที่สอดคล้องกับหลักการศาสนา และจัดให้มีกองทุนซะกาต (กองทุนที่เป็นเงินหรือทรัพย์สินอย่างอื่นที่ศาสนาอิสลามกำหนดให้มุสลิมร่วมจ่ายในอัตราที่กำหนดเมื่อครบรอบปี) เป็นสวัสดิการสังคมโดยมีกฎหมายรองรับ ขณะนี้มีการร่าง พรบ.ซะกาต และได้เสนอเข้าสู่กระบวนการสภาฯ(ยังค้างอยู่ในสภา) และมีมีบริษัทเอกชนได้ดำเนินธุรกิจประกันภัยตามหลักการอิสลาม เช่น กองทุนตะกาฟุล เป็นต้น
๑๔. ข้อเสนอให้บัญญัติกฎหมายให้มีองค์กรหรือสถาบันจัดการทรัพยากรที่เป็นอิสระ ที่มีส่วนร่วมจากหลายฝ่ายทั้งในระดับประเทศและในระดับท้องถิ่น ตัวแทนองค์กรประมงพื้นบ้าน ตัวแทนองค์กรประมงพาณิชย์ เพื่อทำหน้าที่ควบคุมให้มีการปฏิบัติตามกฎหมาย ออกนโยบายแลละมาตรการในการจัดการทรัพยากรในทะเล ขณะนี้อยู่ระหว่างการร่าง พรบ.ประมงพื้นบ้าน โดย สมาคมการประมงแห่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ
๑๕. ข้อเสนอให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จัดระเบียบสังคมให้สอดคล้องตามหลักการศาสนา โดยกำหนดให้เป็นพื้นที่ปลอดยาเสพติดและแหล่งอบายมุข ขณะนี้รัฐบาลได้มีนโยบายเร่งด่วนในการปราบปรามและควบคุมการแพร่ระบาดของยาเสพติด และคณะกรรมการกลางอิสลามและคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดได้ออกมาตรการในการแก้ปัญหายาเสพติด นอกจากนี้ศูนย์บำบัดยาเสพติดที่อยู่ในพื้นที่ ได้มีการบูรณาการหลักการทางศาสนาอิสลามเพื่อบำบัดผู้ติดยาเสพติด
๑๖. ข้อเสนอให้กระทรวงวัฒนธรรมจัดให้มีสถาบันพัฒนาผู้นำศาสนาในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สำนักจุฬาราชมนตรี ได้ดำเนินโครงการ วิทยาลัยอิหม่าม เพื่อการพัฒนาศักยภาพผู้นำศาสนาในพื้นที่ ขณะนี้สำนักพัฒนาบุคลากร ศอ.บต. ได้มีหลักสูตรพัฒนาผู้นำ เน้น หลายกลุ่มรวมทั้งผู้นำศาสนา
๑๗. ข้อเสนอให้มีศูนย์วัฒนธรรมและภาษามลายูปัตตานี ซึ่งครอบคลุมสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีหน้าที่ ส่งเสริม สนับสนุนให้มีการใช้ภาษามลายูปัตตานี ตลอดจนมีการตรวจสอบการใช้ภาษามลายูปัตตานีให้มีความถูกต้อง ขณะนี้ มีการจัดตั้งสถาบันกัลยาณิวัฒนา อยู่ในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี สถาบันอุดมศึกษาในพื้นที่มีหลักสูตรภาษามลายู นโยบาย ศอ.บต. ส่งเสริมให้ใช้ภาษามลายูผ่านการจัดสัมมนานานาชาติและการจัดทำป้ายบอกทางเป็นภาษามลายูอักษรยาวี
๑๘. ข้อเสนอให้มีการจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาสื่อมวลชนในท้องถิ่น โดยเน้นเรื่องเนื้อหา การใช้ภาษามลายูปัตตานี และการมีส่วนร่วมของท้องถิ่น รวมทั้งการใช้สื่อมวลชนเพื่อให้มีการสื่อสารความจริงที่น่าเชื่อถือ ขณะนี้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ดำเนินการเปิดสถานีวิทยุและสถานีโทรทัศน์ ภาคภาษามลายู เพื่อเป็นช่องทางการสื่อสารให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยได้ทำความร่วมมือกับ สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม TMTV และสถานีวิทยุคลื่นของ ศอ.บต.
ข้อเสนอจำแนกตามมติ
๑. การจัดรูปแบบการปกครองส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่นแบบใหม่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้
๑.๑ ตราพระราชบัญญัติจัดตั้ง “ทบวงการบริหารการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้” (Southern Border Provinces Development Administration Bureau--SBPDAB) ในฐานะเทียบเท่ากระทรวง แต่เป็นการปกครองส่วนภูมิภาคและการบริหารงานส่วนท้องถิ่นแบบพิเศษ โดยมีรัฐมนตรีทบวงเป็นผู้ดูแลนโยบาย ส่วนในระดับข้าราชการประจำจะมีปลัดทบวง รองปลัดทบวงและผู้อำนวยการเขตทำหน้าที่ดูแลในแต่ละพื้นที่ในฐานะข้าราชการส่วนภูมิภาคแบบพิเศษควบคู่ไปกับองค์กรปกครองท้องถิ่นในทุกระดับสำหรับเป็นองค์กรประสานงานการบริหารและการปกครองจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในลักษณะคล้ายกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เพื่อเป็นองค์กรหลักที่มีอำนาจหน้าที่ในการอำนวยการและการแก้ปัญหานโยบายในการบริหารในจังหวัดภาคใต้ และขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนที่รวมพลังภาคประชาสังคม ภาคท้องถิ่น และภาครัฐเข้าด้วยกัน
ข้อเสนอ
๑.๑.๑ รูปแบบการปกครองพิเศษที่เหมาะกับพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ อาจมีได้ ๖ รูปแบบ (รายละเอียดในภาคผนวก ๑) ดังต่อไปนี้
(๑) ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.)- คงท้องถิ่นเดิม
(๒) ทบวงการบริหารการพัฒนาจังหวัดชายแดนใต้
(๓) สามนคร-คงท้องถิ่นเดิม
(๔) สามนคร-เลิกท้องถิ่นเดิม
(๕) มหานคร-คงท้องถิ่นเดิม
(๖) มหานคร-เลิกท้องถิ่นเดิม
จึงเสนอให้เครือข่ายสมัชชาสุขภาพใน ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ร่วมกับ สภาประชาสังคมจังหวัดชายแดนใต้ ทำการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อตัดสินใจเลือกรูปแบบการจัดการตนเอง (Limited Autonomy) ภายใต้รัฐธรรมนูญ และอำนาจอธิปไตยของประเทศไทย โดยให้มีการเลือกตั้งผู้บริหารสูงสุดโดยตรงจากประชาชน ยกเลิกราชการส่วนภูมิภาค เพื่อสะท้อนสิทธิในการกำหนดใจตนเองในพื้นที่
๑.๒ จัดให้มี “สมัชชาประชาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้” (Chamber of Southern Border Provinces-CSBP) หรือสภาประชาชนพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเป็นองค์กรตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ในลักษณะสภาที่ปรึกษาและกลั่นกรองนโยบายโดยการคัดเลือกหรือเลือกตั้งจากกลุ่มหรือตัวแทนภาคประชาชนที่หลากหลาย ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนาทุกศาสนา ผู้รู้ทางการศึกษาและวัฒนธรรม กลุ่มอาชีพสาขาต่างๆ รวมทั้งฝ่ายปกครองท้องถิ่น เป็นผู้ประสานนโยบายและแผนที่ผ่านกระบวนการจัดทำแผนชุมชน อำนวยความยุติธรรม รวมทั้งดูแลตรวจสอบบุคลากรและงบประมาณที่นำลงไปสู่จังหวัด อำเภอและหน่วยการปกครองท้องถิ่นในทุกระดับ
ข้อเสนอ
๑.๒.๑ ให้สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติประสานกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ทำการศึกษารูปแบบของ“สมัชชาประชาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้” (Chamber of Southern Border Provinces-CSBP) หรือสภาประชาชนพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และนำเสนอผลการศึกษาให้กับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อนำไปดำเนินการต่อ
๑.๓ ให้มีองค์กรปกครองท้องถิ่นในระดับตำบลและเทศบาลเหมือนรูปแบบเดิม ที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนในท้องถิ่น มีอำนาจในการเก็บภาษีและบริหารงบประมาณการคลังส่วนท้องถิ่นเต็มที่ มีอำนาจในการออกข้อบัญญัติ รวมทั้งเพิ่มอำนาจในการจัดการท้องถิ่นในเรื่องทางศีลธรรม วัฒนธรรมและประเพณีให้มากขึ้น เช่น การกำหนดเขตปลอดอบายมุข ตำรวจศีลธรรม ประกาศห้ามเยาวชนออกนอกบ้านในยามวิกาลเว้นแต่มีผู้ปกครองอยู่ด้วย
ข้อเสนอ
๑.๓.๑ ให้คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายร่วมกับสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัด สมาคมองค์การบริหารส่วนตำบล และสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย เร่งรัดให้รัฐบาลดำเนินการตามมติ สมัชชาปฏิรูปองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.๒๕๕๔ และมีมติในสมัชชาปฏิรูป พ.ศ.๒๕๕๔
๑.๔ ในระดับพื้นที่ ควรมีองค์กรสภาผู้รู้ทางศาสนาหรือปราชญ์ชาวบ้านในระดับตำบล โดยการกำหนดนโยบายระดับท้องถิ่นจะต้องได้รับการรับรองจากสภาผู้รู้ทางศาสนา และประชาชน สมาชิกสภานี้ได้มาจากการเสนอชื่อและการเลือกสรรจากคณะกรรมการชุมชนผู้นำศาสนา องค์กรภาคประชาชนและสถาบันการศึกษาในท้องถิ่น สภาผู้รู้ทางศาสนาเป็นที่ปรึกษาในกิจการศาสนาและศีลธรรมของสังคมขององค์กรบริหารส่วนท้องถิ่น สมาชิกที่มาจากการคัดสรรนี้ควรเป็นกรรมการโดยตำแหน่งขององค์กรปกครองท้องถิ่นด้วยจำนวนหนึ่งในสามของสมาชิกสภาท้องถิ่นเพื่อให้มีอำนาจในการยับยั้งในกรณีที่มีผู้นำท้องถิ่นกระทำผิดในทางนโยบายและเกิดการทุจริตประพฤติมิชอบ
ข้อเสนอ
๑.๔๑ ให้คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา และสตูล ร่วมกับมหาวิทยาลัยอิสลามยะลาและวิทยาลัยอิสลาม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ สถาบันการศึกษาทำการศึกษารูปแบบสภาผู้รู้ทางศาสนาหรือปราชญ์ชาวบ้านในระดับตำบลโดยการสนับสนุนงบประมาณจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และเสนอผลการศึกษาไปยังรัฐบาลเพื่อกำหนดเป็นนโยบาย
๑.๕ พัฒนาระบบกฎหมายอิสลามและกฎหมายตามประเพณี หรือระบบยุติธรรมทางเลือก ระบบยุติธรรมชุมชน โดยการประสานกับองค์กรสันติยุติธรรมสร้างความชอบธรรมในอำนาจการเมืองการปกครอง (Legitimate political authority) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นไว้วางใจต่ออำนาจของกฎหมาย
ข้อเสนอ
๑.๕.๑ ให้กระทรวงยุติธรรม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา วิทยาลัยอิสลามศึกษา มอ. และมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ จัดทำแผนการพัฒนาระบบกฎหมายอิสลามและกฎหมายตามประเพณี หรือระบบยุติธรรมทางเลือก ระบบยุติธรรมชุมชน และให้มีการพิจารณาโครงสร้างของระบบยุติธรรมโดยการมีส่วนร่วมของประชาชน หน่วยงาน และองค์กรที่เกี่ยวข้อง
๑.๖ ส่วนการปกครองและการบริหารในระดับหมู่บ้านและชุมชนจะต้องปลอดภัยและมั่นคงด้วย โดยกระทรวงยุติธรรมรับผิดชอบในการพัฒนาแผนยุทธศาสตร์ยุติธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้สามารถอำนวยการให้เกิดการใช้กฎหมายอิสลามที่เกี่ยวกับครอบครัวและมรดก
ข้อเสนอ
๑.๖.๑ ให้กระทรวงยุติธรรม คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด ทบทวนขั้นตอนการเข้าถึงระบบยุติธรรมชุมชนเพื่อลดความยุ่งยากและความซ้ำซ้อน ให้กระทรวงยุติธรรมประชาสัมพันธ์บทบาทหน้าที่และการเข้าถึงศูนย์อำนวยความเป็นธรรมภาคประชาชน
๑.๗ มีระบบการจัดการความมั่นคงของหมู่บ้านและชุมชนแบบบูรณาการตามพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ. 2551 ตามโครงสร้างใหม่ของกฎหมายฉบับนี้ผู้ใหญ่บ้านมีอายุการดำรงตำแหน่งจนถึงเกษียณอายุ 60 ปี ควรมีการปรับปรุงการทำงานของคณะกรรมการหมู่บ้านให้มีความมั่นคงและมีส่วนร่วมมากขึ้น เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาในระดับฐานราก
ข้อเสนอ
๑.๗.๑ ให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ จัดทำแผนพัฒนาศักยภาพของชุมชน โดยเฉพาะการพัฒนาศักยภาพของสภาองค์กรชุมชนและคณะกรรมการหมู่บ้านให้มีศักยภาพในเรื่อง กระบวนการพัฒนานโยบายสาธารณะเพื่อการจัดการตนเองของชุมชน ท้องถิ่น
๑.๘ เชื่อมโยงระบบย่อยที่ประกอบด้วยระบบผู้นำ ระบบการปกครองท้องถิ่น ระบบยุติธรรม ระบบการศึกษา ระบบราชการ ระบบการพัฒนาเศรษฐกิจ ระบบวัฒนธรรม ระบบการจัดการความขัดแย้งและความมั่นคงในชุมชน รวมทั้งระบบสวัสดิการสังคมบนฐานของชุมชน
ข้อเสนอ
๑.๘.๑ ให้สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน สภาพัฒนาการเมือง พัฒนาศักยภาพของสภาองค์กรชุมชนระดับตำบลเพื่อให้เป็นกลไกหลักในการเชื่อมโยงระบบย่อยที่ประกอบด้วยระบบผู้นำ ระบบการปกครองท้องถิ่น ระบบยุติธรรม ระบบการศึกษา ระบบราชการ ระบบการพัฒนาเศรษฐกิจ ระบบวัฒนธรรม ระบบการจัดการความขัดแย้งและความมั่นคงในชุมชน รวมทั้งระบบสวัสดิการสังคมบนฐานของชุมชน
๒. การติดตามมติและข้อเสนอ
นโยบายด้านการปฏิรูประบบความยุติธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้
๒.๑ จัดตั้ง“คณะกรรมการรับเรื่องราวร้องทุกข์” เป็นองค์กรที่มีลักษณะสำคัญ คือ
๑.) เป็น “องค์กรอิสระ” ที่มีความอิสระอย่างแท้จริง ขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรีหรือ ศอ.บต.
๒.) เป็นองค์กรที่ประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วมและมีความรู้สึกเป็นเจ้าของ
๓.) เป็นองค์กรที่ประชาชนสามารถไว้วางใจ เข้าถึงได้ง่าย และใช้ภาษาถิ่นได้
๔.) เป็นองค์กรที่มีเครือข่ายเชื่อมโยงกับองค์กรทางศาสนาในชุมชน เช่น วัด มัสยิดและคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด เป็นต้น
ข้อเสนอ
๒.๑.๑ ให้ ศอบต. และ กอรมน. ประชาสัมพันธ์ผ่านคลื่นกระแสหลักและรองในพื้นที่ ให้ประชาชนได้รับทราบและใช้ช่องทางในกลไกปัจจุบัน เพื่อการร้องเรียนเมื่อได้รับความไม่เป็นธรรม
๒.๑.๒ ให้คณะกรรมการรับเรื่องราวร้องทุกข์เพิ่มบทบาทการทำงานเชิงรุกและให้ศอบต.ร่วมกับกระทรวงยุติธรรมทบทวนโครงสร้างรวมถึงบทบาทภารกิจของศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ภาคประชาชน ทุกตำบล อำเภอ จังหวัด เพื่อบูรณาการกระบวนการรับเรื่องราวร้องทุกข์ของทั้งสองหน่วยงาน
๒.๑.๓ ให้สภาประชาสังคมชายแดนใต้ ร่วมกับ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ ผลักดันให้เกิดคณะกรรมการอิสระเพื่อรับเรื่องราวร้องทุกข์และไต่สวนข้อเท็จจริง
๒.๒ จัดตั้ง “ศาลแผนกคดีครอบครัวและมรดกมุสลิม เป็นแผนกหนึ่งในศาลยุติธรรม โดยมีลักษณะสำคัญ คือ
๑) มีความเป็นอิสระในการดำเนินการต่าง ๆ ทางคดีตามที่กฎหมายอิสลามบัญญัติอย่างสมบูรณ์
๒) กำหนดให้ “ศาลแผนกคดีครอบครัวและมรดกมุสลิม” มี 2 ชั้น คือ ศาลชั้นต้น กับศาลชั้นฎีกา
๓) ให้ดาโต๊ะยุติธรรม (Qadhi) เป็นผู้มีอำนาจแต่ฝ่ายเดียวในการชี้ขาดตัดสินคดีความในศาลคดีครอบครัวและมรดกอิสลาม และจัดให้มีสำนักงานดาโต๊ะยุติธรรม(Qadhi)ในแต่ละศาลด้วย
๔) ปรับปรุงแก้ไข “หลักกฎหมายอิสลาม” ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยจัดทำ(ร่างกฎหมายใหม่) เป็น “หลักกฎหมายสารบัญญัติอิสลาม” และ “หลักกฎหมายวิธีสบัญญัติอิสลาม” และควรกำหนดกรอบแนวทาง คือ
๔.๑) ให้เป็นหลักกฎหมายอิสลามว่าด้วยเรื่องครอบครัวและมรดก และบทบัญญัติลักษณะอื่นที่เกี่ยวข้องด้วยเท่าที่จะทำให้มุสลิมดำเนินการในทางศาลได้โดยมิต้องฝ่าฝืนหลักกฎหมายอิสลาม
๔.๒) ให้ยึดถือหลักศาสนบัญญัติตามแนวทาง(มัซฮับ) ชาฟิอี เป็นสำคัญในการจัดทำหลักกฎหมาย “หลักกฎหมายสารบัญญัติอิสลาม” และ“หลักกฎหมายวิธีสบัญญัติอิสลาม”
๔.๓) ให้คดีที่โจทก์และจำเลยเป็นมุสลิม และคดีที่จำเลยฝ่ายเดียวเป็นมุสลิมอยู่ภายใต้อำนาจของ ศาลแผนกคดีครอบครัวและมรดกมุสลิมด้วย
ข้อเสนอ
๒.๒.๑ ให้สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ และเครือข่ายสมัชชาสุขภาพในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ผลักดันให้รัฐบาลเร่งรัดการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งแผนกศาลครอบครัวและมรดกอิสลามเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาโดยเร็วที่สุด
๒.๒.๒ ขอให้สำนักจุฬาราชมนตรี ร่วมกับสมัชชาสุขภาพกลุ่มจังหวัด และ สภาประชาสังคมชายแดนใต้ ผลักดันการเสนอร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งแผนกศาลครอบครัวและมรดกอิสลาม ต่อรัฐบาลปัจจุบัน และฝ่ายค้าน ในสภาผู้แทนราษฎร และ สมาชิกวุฒิสภาในพื้นที่
๒.๒.๓ เมื่อผ่านการพิจารณาให้กระทรวงยุติธรรมพิจารณาเพิ่มขยายเขตพื้นที่การใช้พระราชบัญญัติจัดตั้งแผนกศาลครอบครัวและมรดกอิสลาม ให้ครอบคลุมจังหวัดที่มีคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด
๒.๓ ให้มีบทบัญญัติเรื่องทนายความ ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ช่วยดาโต๊ะยุติธรรม และการประนีประนอมไกล่เกลี่ย บรรจุอยู่ในหลักกฎหมายวิธีสบัญญัติด้วย
ข้อเสนอ
๒.๓.๑ ให้กระทรวงยุติธรรมเร่งรัดการจัดตั้งแผนกศาลครอบครัวและมรดกอิสลามอย่างเร่งด่วนโดยให้กำหนดบทบาทของทนายความ ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ช่วยดาโต๊ะยุติธรรม ให้ชัดเจน
๒.๔ ให้มีการผลิตและพัฒนาบุคลากรทางกฎหมายอิสลาม ในระดับปริญญาโท และ ปริญญาเอก มากขึ้น
ข้อเสนอ
๒.๔.๑ ให้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์จัดทำหลักสูตรร่วมเพื่อผลิตและพัฒนาบุคลากรทางกฎหมายอิสลาม ในระดับปริญญาโท และ ปริญญาเอก โดยมีเป้าหมายผลิตไม่ต่ำกว่า ๕๐ คนต่อปี
๒.๔.๒ ให้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา ผลักดันให้สถาบันการศึกษาของรัฐที่มีคณะนิติศาสตร์ ปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรควบคู่ระหว่างนิติศาสตร์ทั่วไปและนิติศาสตร์อิสลามรวมทั้ง ให้ผลักดันการรับรอง วิชาชีพนิติศาสตร์อิสลาม
๒.๕ ให้มีการจัดตั้งศูนย์นิติวิทยาศาสตร์อย่างน้อย 1 ศูนย์ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือพื้นที่ใกล้เคียง
ข้อเสนอ
๒.๕.๑ ให้กระทรวงยุติธรรมจัดตั้งศูนย์นิติวิทยาศาสตร์ที่เป็นเอกเทศและพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในพื้นที่ชายแดนใต้ และให้ความรู้เพื่อสร้างความมั่นใจในเรื่องของนิติวิทยาศาสตร์แก่ประชาชนทั่วไปในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้
๓. นโยบายด้านการศึกษา
๓.๑ ปรับโครงสร้างการบริหารการศึกษาในพื้นที่ โดยให้มีหน่วยงานระดับอำเภอและระดับจังหวัดเพื่อทำหน้าที่ดูแลและการจัดการศึกษาของโรงเรียนเอกชนสอนศาสนา และให้บุคคลในพื้นที่ที่เข้าใจศาสนาอิสลามและมีความรู้เกี่ยวกับการจัดการศึกษาในพื้นที่เป็นอย่างดีเป็นหัวหน้าหน่วยงาน
ข้อเสนอ
๓.๑.๑ ให้สำนักงานคณะกรรมการศึกษาเอกชน สรรหาผู้บริหารในเขตพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้และจังหวัดที่มีการศึกษาตามวิถีมุสลิม ที่มีความเข้าใจมิติพหุวัฒนธรรม และมีความเข้าใจในระบบและพื้นที่ที่มีการศึกษาตามวิถีมุสลิม
๓.๑.๒ ให้กระทรวงศึกษาธิการพิจารณาการจัดตั้ง คณะกรรมการการศึกษาเอกชนในพื้นที่ที่มีการศึกษาตามวิถีมุสลิม
๓.๒ ให้พิจารณาเพิ่มเงินอุดหนุนแก่โรงเรียนตาดีกาและสถาบันศึกษาปอเนาะที่ขึ้นทะเบียนโดยคำนวณเงินอุดหนุนเป็นรายหัว
ข้อเสนอ
๓.๒.๑ ให้กระทรวงศึกษาธิการจัดทำแผนเพื่อการพัฒนาโรงเรียนตาดีกาและสถาบันศึกษาปอเนาะทั้งนี้ ควรเป็นแผนพัฒนาที่สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่และความต้องการของประชาชนในพื้นที่
๓.๓ จัดตั้งกองทุนกู้ยืมที่ปราศจากดอกเบี้ยสำหรับโรงเรียนตาดีกา และสถาบันศึกษาปอเนาะ และจัดให้มีกองทุนเพื่อการศึกษาที่ปราศจากดอกเบี้ยในระดับบัณฑิตศึกษา
ข้อเสนอ
๓.๓.๑ ให้กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการคลังทำการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งกองทุนเพื่อการศึกษาสำหรับโรงเรียนตาดีกา และสถาบันการศีกษาปอเนาะ บัณฑิตศึกษา ทั้งนี้อาจจะเป็นความร่วมมือกับธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย หรือมีรูปแบบความร่วมมือกับกระบวนการซากาต ในวิถีอิสลาม
๓.๓.๒ ให้กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการคลังจัดตั้งกองทุนเพื่อการศึกษาสำหรับโรงเรียนตาดีกา สถาบันศึกษาปอเนาะและ ระดับบัณฑิตศึกษา
๓.๔ ให้โรงเรียนทุกโรงเรียนจัดตารางการเรียนการสอนที่เอื้อให้เด็กได้ปฏิบัติศาสนกิจของตนเองอย่างเป็นรูปธรรม
ข้อเสนอ
ไม่มี
๓.๕ เปิดโอกาสให้โรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่สามารถกำหนดวันศุกร์และวันเสาร์หรือวันสำคัญทางศาสนาอื่นๆ เป็นวันหยุดเรียนประจำสัปดาห์ของโรงเรียน ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของท้องถิ่น และเป็นจุดเริ่มต้นของการยอมรับความหลากหลายทางวัฒนธรรม
ข้อเสนอ
๓.๕.๑ ให้กระทรวงศึกษาธิการประกาศให้วันสำคัญทางศาสนาของทุกศาสนาเป็นวันหยุดราชการทั่วประเทศ
๓.๖ ให้บรรจุเนื้อหาเกี่ยวกับสันติศึกษา วิถีชีวิตท้องถิ่นและศาสนาเปรียบเทียบในหลักสูตรแกนกลาง
ข้อเสนอ
๓.๖.๑ ให้กระทรวงศึกษาธิการบรรจุเนื้อหากระบวนการสันติภาพ เพิ่มในหลักสูตรแกนกลาง
๓.๖.๒ ให้กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายสนับสนุนทุนการศึกษาในระดับมหาบัณฑิตและดุษฎีบัณฑิตด้านสันติศึกษาแก่บุคลากรทางการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้อย่างชัดเจน
๓.๗ สนับสนุนให้มีโรงเรียนพิเศษหรือห้องเรียนพิเศษในโรงเรียนเพื่อจัดการศึกษาให้แก่เด็กพิเศษในพื้นที่
ข้อเสนอ
๓.๗.๑ ให้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการจัดทำแผนและยุทธศาสตร์การจัดการการศึกษาให้แก่เด็กพิเศษในพื้นที่ทั่วประเทศ
๔. นโยบายด้านเศรษฐกิจ
๔.๑ ให้มีการจัดตั้งสภาเศรษฐกิจชายแดนใต้ เพื่อเสนอแนะแนวนโยบายทางด้านเศรษฐกิจให้กับรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐ
ข้อเสนอ
๔.๑.๑ ให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้(ศอ.บต.)จัดให้มีคณะกรรมการของสภาพัฒนาเศรษฐกิจชายแดนใต้ ซึ่งประกอบด้วย หน่วยงานรัฐ คือ พาณิชย์จังหวัด อุตสาหกรรม พัฒนาชุมชน สาธารณสุขจังหวัด กรมการค้าระหว่างประเทศ อบจ.เทศบาล อบต. คณะกรรมการอิสลาม หอการค้า ตัวแทนสมัชชาสุขภาพแต่ละจังหวัด สภาองค์กรชุมชน ประมงพื้นบ้าน ประมงพาณิชย์โดยใช้กลไกสมัชชาจังหวัดในการคัดเลือกเข้าเป็นคณะกรรมการฯ เพื่อทำหน้าที่ในการจัดทำข้อเสนอพัฒนาเศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและกำกับติดตามประเมินผลเพื่อพัฒนาในการพัฒนาเศรษฐกิจให้กับรัฐบาล หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
๔.๑.๒ ให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้(ศอ.บต.)จัดตั้งศูนย์ข้อมูลการค้าชายแดนเพื่อเตรียมพร้อมรองรับ AEC Asian Economic Community
๔.๑.๓ ให้รัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคมพัฒนาระบบโลจิสติกการขนส่งทางบกและทางทะเลเพื่อรองรับการเป็นประชาคมอาเซียนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้
๔.๑.๔ ให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงานจัดตั้งศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานนานาชาติเพื่อรองรับอาเซียนในทุกจังหวัดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
๔.๑.๕ ให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้(ศอ.บต.)ร่วมกับสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดและสำนักงานพาณิชย์จังหวัดยกระดับและพัฒนากลไกการตลาดภาคประชาชนเพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนทั้งระดับพื้นที่ ระหว่างประเทศและนานาชาติ
๔.๒ ให้บัญญัติกฎหมายให้มีองค์กรหรือสถาบันจัดการทรัพยากรที่เป็นอิสระ ที่มีส่วนร่วมจากหลายฝ่ายทั้งในระดับประเทศและในระดับท้องถิ่น ตัวแทนองค์กรประมงพื้นบ้าน ตัวแทนองค์กรประมงพาณิชย์ เพื่อทำหน้าที่ควบคุมให้มีการปฏิบัติตามกฎหมาย ออกนโยบายและมาตรการในการจัดการทรัพยากรในทะเล
ข้อเสนอ
๔.๒.๑ ให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ตั้งคณะทำงานด้านการจัดการทรัพยากรชายฝั่งและทะเลโดยมีองค์ประกอบ ของคณะทำงานมาจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องและตัวแทนกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านและประมงพาณิชย์ ทำหน้าที่ในการจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายและนำเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อผลักดันให้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม
๔.๓ ให้ออกกฎ ระเบียบคุ้มครองผู้บริโภคอาหารฮาลาล และจัดตั้งศูนย์วิทยาศาสตร์อาหารฮาลาลในพื้นที่เพื่อเรียกความเชื่อมั่นและมาตรฐานของอาหารฮาลาลในประเทศไทย และต้องบัญญัติกฎหมายที่เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคมุสลิมในประเทศไทยให้ได้รับการคุ้มครองบริโภคอาหารฮาลาลตามหลักการของอิสลาม โดยหากมีการปลอมแปลงและปนเปื้อนในอาหาร ฮาลาลจะต้องมีการรับผิดชอบโดยผู้ประกอบการในทางกฎหมาย
ข้อเสนอ
๔.๓.๑ ให้อนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดปัตตานีประสานอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดอื่นๆ ผลักดันให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคจัดตั้งคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคอาหารฮาลาลเป็น อนุกรรมการที่ทำหน้าที่ในการร่างกฎระเบียบว่าด้วยการคุ้มครองผู้บริโภคอาหารฮาลาลและดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภคที่เกี่ยวข้องกับอาหารฮาลาล
๔.๔
31 Jul 2025
04 Jun 2025
04 Jun 2025
04 Jun 2025
ข่าวสารสังคมนอกสื่อกระแสหลัก ข่าวสารความเคลื่อนไหว เกี่ยวกับเอ็นจีโอ ข่าวกิจกรรมเพื่อสังคม งานสัมนา สมัครงานเอ็นจีโอ ร้องเรียน แจ้งข่าว…ประนามประจาน !! ที่ได้รับความทุกข์ร้อนไม่เป็นธรรม