สงครามข่าวคดีอิหม่ามยะโก๊บและข้อเสนอแนะ

1071 07 Aug 2013

อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ) กรรมการสภาประชาสังคมชายแดนใต้ อาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัยทักษิณ ผู้ช่วยผู้จัดการโรงเรียนจริยธรรมศึกษามูลนิธิ อ.จะนะ จ.สงขลา Shukur2004@chaiyo.com http://www.oknation.net/blog/shukur "มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิของอัลลอฮฺ (สุบหานะฮูวะตะอาลา) ผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความจำเริญและสันติจงประสบแด่นบีมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน ข่าวการเสียชีวิตอิหม่ามยะโก๊บ หร่ายมณี อิหม่านมัสยิดกลางปัตตานีสร้างความเศร้าสลดทั้งคนในและนอกพื้นที่หรือแม้กระทั่งวงการเฟสบุคส์ที่มีการแสดงความเสียใจตลอดไม่ขาดสาย เป็นที่ทราบกันดีว่า เวลา 16.30 น.วันจันทร์ที่ 5 ส.ค.2556 คนร้ายซึ่งคาดว่ามี 4 คน ขี่รถจักรยานยนต์ 2 คันไปจอดใกล้ๆ กับถนนยะรัง ซอย 6 ต.จะบังติกอ อ.เมือง จ.ปัตตานี จากนั้นหนึ่งในคนร้ายได้เดินเข้าไปประกบ นายยะโก๊ป หร่ายมณี อิหม่ามประจำมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี ซึ่งเพิ่งเสร็จจากการซื้ออาหารละศีลอดที่ตลาดจะบังติกอ กำลังเดินไปขึ้นรถเพื่อกลับบ้าน เมื่อสบโอกาสได้ใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดจ่อยิงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนวิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่เพื่อนสตาร์ทเครื่องรออยู่หลบหนีไป ทั้งนี้ รถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ 2 คัน มี 1 คันที่มีพยานจดจำเลขทะเบียนได้ คือ กลง 303 ปัตตานี หลังสิ้นเสียงปืนที่ก่อความตื่นตระหนกให้กับผู้คนในละแวกดังกล่าว คนในย่านนั้นจึงทราบว่านายยะโก๊ปถูกยิง จึงพากันเข้าไปช่วยนำส่งโรงพยาบาลปัตตานี แต่นายยะโก๊ปทนพิษบาดแผลไม่ไหว สิ้นใจระหว่างทาง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ ในขณะที่เวลาประมาณ 22.00 น.วันเดียวกัน ได้มีพิธีละหมาดศพท่านที่มัสยิดกลางและฝั่ง ที่กุโบร์ (สุสาน) โต๊ะอาเยาะ ต.จะบังติกอ Inna lilahi wa inna ilaijiuun ความว่า แท้จริงเราเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺและเราก็จะกลับไปหาพระองค์ นี่คือข้อความที่มุสลิมทุกคนทราบข่าวว่าท่านหรือมุสลิมด้วยกันเสียชีวิตกล่าวและทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวท่านด้วยที่เป็นผู้หนึ่งที่จะต้องถูกสังเวยท่ามกลางการพูดคุยสันติภาพ ท่านเคยให้ทัศนะก่อนเหตุการณ์จะเกิดในกระบวนการพูดคุยสันติภาพไว้ว่า (อ้างจากสถาบันข่าวอิศรา) 1. รอมฎอนกับการเจรจาสันติภาพ การหยุดความรุนแรง ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่ทุกฝ่ายจะสงบ แต่ตามหลักของศาสนาอิสลาม ใครก็ตามที่เป็นอิสลามแล้ว ด้วยจิตสำนึกและวิญญาณความเป็นมุสลิมเต็มร้อย ต้องหยุดหมดโดยปริยาย ไม่จำเป็นต้องไปต่อรอง เพราะเดือนรอมฎอนเป็นเดือนที่พระเจ้าทรงให้ความโปรดปรานกับมนุษย์ ผมพูดตามหลักศาสนา แต่ใครจะไปพูดคุยให้เกิดความสงบสุขก็เป็นการดี แต่ด้วยจิตสำนึกความเป็นอิสลามที่แท้จริงเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ อย่าลืมว่าเดือนรอมฎอนเป็นเดือนแห่งความประเสริฐ เป็นเดือนที่ทำความดี ฉะนั้นเรื่องที่ไม่ดีก็ไม่ต้องไปทำ การคุยเพื่อให้เกิดสันติภาพในเดือนรอมฎอนถือเป็นเรื่องดี ขอสนับสนุนให้เกิดการพูดคุย 2. ข้อเรียกร้องแต่ละข้อของฝ่ายผู้เห็นต่างจากรัฐนั้น จริงๆ ในส่วนของรัฐเอง ผมว่าน่าจะเอาคนที่มีอำนาจในการตัดสินใจแก้ไขปัญหาอย่างแท้จริงไปคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็น ประเภทต่อรองกันได้แล้วจบ ไม่ใช่พูดเสร็จแล้วกลับมาถามพี่น้องประชาชนอีก แต่ทุกอย่างต้องจบบนโต๊ะ ถือเป็นการให้เกียติรซึ่งกันและกัน ข้อเสนอบางข้อ (เงื่อนไขแลกยุติเหตุรุนแรงของบีอาร์เอ็น มี 7-8 ข้อ) อย่างกรณีให้อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) กระทำละหมาด คนเหล่านี้ก็ละหมาดเป็นปกติอยู่แล้ว หรือไม่ให้ขายเหล้า ถ้ามุสลิมขายเหล้าก็หะรอมอยู่แล้ว แต่คนที่ไม่ใช่มุสลิมกระทำได้ เนื่องจากเราอยู่ในพื้นที่ที่มีความหลากหลาย คนพุทธห้ามขายหมูมันไม่ใช่ เราต้องเข้าใจว่าอัตลักษณ์ของศาสนาเป็นอย่างไร ศาสนาของเขาก็ของเขา ของเราก็ของเรา ในเรื่องวิถีชีวิต สังคม เราอยู่ร่วมกันได้ อันไหนที่ทำได้ก็ทำ อันไหนที่ขัดกับระบบอิสลามกำหนดก็มาว่ากันไป 3. อิหม่ามเห็นด้วยกับการเจรจาเพราะ นั่นคือการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง ศาสนาอิสลามเน้นย้ำเรื่องการพูดคุย ตักเตือนซึ่งกันและกัน ศาสนฑูตมุฮัมมัดไม่เคยไปรุกรานใคร การใช้กำลังถือเป็นเรื่องสุดท้าย ผมจึงบอกว่าไปศึกษาประวัติศาสตร์อิสลามให้ดี อิสลามสอนอะไรกับเรา 4. ปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้มีหลายมิติ และมีหลายกลุ่มเกี่ยวข้อง เช่น กลุ่มผลประโยชน์ กลุ่มบีอาร์เอ็น กลุ่มอาร์เคเค เป็นต้น ถามว่าคนที่มีผลประโยชน์แต่ไม่มีอักษรย่อ พวกเรารู้จักหรือไม่ เขาจะยอมหรือเปล่าในเมื่อมีผลตอบแทนมหาศาล บางครั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐก็เข้าไปมีส่วนเสียเอง ตราบใดที่น้ำข้างบนขุ่น สกปรก กรองมากี่ชั้น เมื่อลงมาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็คงขุ่นอยู่วันยังค่ำ นั่นคือทัศนะของท่าน แต่ในสื่อออนไลน์ของกองเชียร์รัฐและผู้เห็นต่างจากรัฐเริ่มมีสงครามข่าวสารโดยโยนความผิดครั้งนี้ให้ฝ่ายตรงข้ามเช่นบทความล่าสุดของ ของสำนักAMBROW (http://www.ambranews.com/berita-hangat/siapa-tembak-imam-yakub/) พาดหัวข่าวเชิงคำถามว่าใครกันแน่สังหารอิหม่ามยะโก๊บ ซึ้งในเนื้อหาพยายามจะโยนความรับผิดชอบให้กับรัฐ ในขณะที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ก็พยายามชี้เป้าไปที่ผู้ก่อความไม่สงบ สงครามข่าวสารครั้งนี้หากปล่อยสู่ร้านน้ำชาก็จะไม่เป็นผลดีต่อผู้นำศาสนา ประชาสังคมหรือแม้กระทั่งชาวบ้านในการเดินหน้ากระบวนการสร้างสันติภาพชายแดนใต้ในอนาคต Hara Shintaro กล่าวว่า “ยิ่งชัดเจนว่า ในพื้นที่สามจังหวัดนี้ ฝ่ายที่พยายามจะ "รักษาความไม่สงบ" เพื่อผลประโยชน์โดยไม่มีอุดมการณ์ใดๆ มีจริง ฆาตกรรมโต๊ะอิหม่ามมัสยิดกลาง จ. ปัตตานีก็เป็นฝีมือของกลุ่มนี้ ฝ่ายที่ต่อสู้เพื่อสันติภาพทุกฝ่ายต้องรวมตัวกันเพื่อต่อต้านพวกนี้” ท้ายนี้ผู้เขียนขอเสนอให้รัฐบาลส่งตำรวจมือดีซึ่งมีเยอะแยะในประเทศไทยลงมาทำคดีนี้อย่างรวดเร็ว และหวังว่าไม่เกินความสามารถของท่าน เพราะหลายคดีใหญ่เช่น คดีเอกยุทธิ์ อันชัญบุตรยังจับทีมสังหารได้ทั้งๆศพถูกฝังและไม่มีกล้องวงจรปิดจับผู้ร้ายขณะลงมือสังหาร แต่คดีอิหม่ามยะโก๊บ ไม่ใช่ มีวงจรปิดจับภาพได้และต่อหน้าผู้คนนับร้อย