994 08 Jul 2013
ชื่อชุมชนที่ได้รับผลกระทบ: แร่ใยหิน องค์การ อนามัยโลก องค์การแรงงานระหว่างประเทศ และ องค์กรนานาชาติด้านการวิจัยมะเร็ง ยืนยันเป็นเอกภาพเรื่องอันตรายของแร่ใยหินไครโซไทล์ที่เป็นสารก่อมะเร็งและ ทำให้เกิดโรคมะเร็งปอด มะเร็งเยื่อหุ่มปอด และมะเร็งชนิดอื่น ในการสนับสนุนมาตรการการยกเลิกการใช้ใยหิน ประเทศที่พัฒนาแล้วในทวีปต่างๆทั่วโลก 57 ประเทศ ได้ยกเลิกการใช้แร่ใยหินไครโซไทล์ ทำให้ทวีปเอเชียกลายเป็นผู้ใช้แร่ใยหินมากที่สุดในโลก ถึงประมาณร้อยละ 71 ในอาเซียนประเทศไทยมีการใช้แร่ใยหินสูงถึง 58,000 ตัน ต่อปี จัดอยู่ในสามประเทศที่มีการใช้แร่ใยหินมากที่สุด ในขณะที่สิงคโปร์และบรูไนได้ยกเลิกการใช้ใยหินและมีมาตรการเข้มงวดในการรื้อ ถอนและกำจัดใยหินในอาคาร ทั้งนี้ผู้ผลิตแร่ใยหินไครโซไทล์ที่มีการส่งออกมาประเทศไทยมากที่สุดคือ ประเทศรัสเซีย ในปี 2549 กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศยกเลิกการใช้ใยหินภายใน 5 ปี (Bangkok declaration on asbestos) ต่อ มา ครม.ได้มีมติในเดือนเมษายน 2554 ให้มีการยกเลิกการนำเข้าแร่ใยหินไครโซไทล์ภายในปี 2554 และ ยกเลิกการผลิตและนำเข้าสินค้าใยหินทั้งหมดภายในปี 2555 โดยให้กระทรวงอุตสาหกรรมไปจัดทำแผนในการยกเลิกการนำเข้า ผลิต และจำหน่ายแร่ใยหินและผลิตภัณฑ์ที่มีแร่ใยหินเป็นส่วนประกอบทุกชนิด ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมได้เสนอแผนงานเพื่อการลดและเลิกใช้แร่ใยหินไครโซไทล์ ในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีแร่ใยหินเป็นส่วนประกอบจำนวน 5 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งไม่สอดคล้องกับมติ ครม.โดยยืดเวลาการยกเลิกกระเบื้องมุงหลังคา ท่อซีเมนต์ใยหิน ผ้าเบรกและคลัทซ์ ไปจนถึงปี 2560 เครือข่ายรณรงค์ยกเลิกแร่ใยหินแห่งประเทศไทย (T-BAN) ซึ่งประกอบด้วย สมาคมวิชาชีพ องค์กร ผู้บริโภค เครือข่ายแรงงาน และ นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยต่างๆ มีความกังวลต่อการตัดสินใจ ของคณะรัฐมนตรี ที่จะพิจาณาข้อเสนอของ กระทรวงอุตสาหกรรม โดยขาดความตระหนักต่ออันตรายจากแร่ใยหินไครโซไทล์ที่นานาประเทศได้มีบทเรียน และผลกระทบอย่างรุนแรงมาแล้ว จึงมีข้อเสนอ ต่อ นายกรัฐมนตรีขอให้ ครม.มีมติ ดังนี้05 Nov 2024
09 Oct 2024
09 Oct 2024
20 Sep 2024
05 Nov 2024
05 Nov 2024
05 Nov 2024
05 Nov 2024
ข่าวสารสังคมนอกสื่อกระแสหลัก ข่าวสารความเคลื่อนไหว เกี่ยวกับเอ็นจีโอ ข่าวกิจกรรมเพื่อสังคม งานสัมนา สมัครงานเอ็นจีโอ ร้องเรียน แจ้งข่าว…ประนามประจาน !! ที่ได้รับความทุกข์ร้อนไม่เป็นธรรม