รัฐประหารอียิปต์ : ขอประณามการรัฐประหารแต่ก็ขอให้อียิปต์ปลอดภัย
1248 08 Jul 2013
อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บิน ชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)
อดีตกรรมการสมาคมนักเรียนไทย ณ กรุงไคโร ประเทศอียิปต์
Shukur2004@chaiyo.com
http://www.oknation.net/blog/shukur
"มวล การสรรเสริญเป็นสิทธิของอัลลอฮฺ (สุบหานะฮูวะตะอาลา) ผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความจำเริญและสันติจงประสบแด่ศาสนฑูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน"
3 กรกฎาคม 2556 กองทัพอียิปต์ได้เข้ารัฐประหารรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประธานาธิบดี ดร.มุฮัมมัดมุรซีย์
จาการรัฐประหารครั้งนี้
ฝ่าย ทหารที่ทำรัฐประหารและแนวร่วมคิดว่าสามารถแก้ปัญหาทางการเมืองในอียิปต์ได้ แต่เหตุการณ์กลับเป็นหน้ามือเป็นหลังมือเพราะประชาชนนับล้านทั่วประเทศออกมา เดินขบวนต่อต้านการปฏิวัติอย่างสันติหลังละหมาดวันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม 2556
การประท้วงดังกล่าวทำให้รัฐบาลรัฐประหารออกมาตรการกระชับพื้นปราบปราบ ประชาชนทำให้มีผู้เสียชีวิตและ 30 คน และบาดเจ็บเกือบพันคน และได้ประกาศจับแกนนำขบวนการภราดรภาพ อีก 300 กว่าคนซึ่งสวนทางกับการการประกาศของฝ่ายรัฐประหารที่ประกาศต่อชาวโลกว่า “ จะอนุญาตให้มีการประท้วงอย่างสันติต่อผู้ไม่เห็นด้วยในการรัฐประหาร”
เป็น ที่น่าสังเกตว่าชาติมหาอำนาจตะวันตกไม่ว่าชาติใดไม่ได้ออกมาประณามการรัฐ ประหารครั้งนี้เหมือนที่ผ่านๆมาในประเทศอื่นๆโดยเฉพาะประเทศที่อยู่ฝ่ายตรง ข้ามกับตน ยกเว้นเพียงแต่ใช้คำว่าแสดงความกังวลและขอรัฐบาลชั่วคราวอียิปต์จัดการเลือกตั้งให้เร็วที่สุด ที่สำคัญมิยอมเรียกการยึดอำนาจครั้งนี้เป็นรัฐประหารที่ผิดหลักกระบวนทางประชาธิปไตย
ถึง แม้จะไม่มีประเทศใดกล้าประกาศประณามการรัฐประหารครั้งนี้แต่ผู้เขียนในฐานะ นักวิชาการขอประณามการทำรัฐประหารยึดอำนาจผู้นำที่มาจากการเลือกตั้งครั้ง แรกของประชาชน ถึงแม้ท่าน ประธานาธิบดีมุรซีย์จะบริหารภายในหนึ่งปีไม่ประสบความสำเร็จ ฝ่ายต่อต้านท่านมีสิทธิที่จะประท้วงท่านอย่างสงบและฝ่ายสนับสนุนท่านก็มี สิทธิประท้วงอย่างสงบเช่นกัน แต่ทหารไม่มีสิทธิที่รัฐประหารด้วยกระบอกปืนและรถถัง
นายอัสซาม อัล-ฮัดดาด ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดีดร.มุฮัมมัด มุรซีย์ได้กล่าวว่า “ในยุคสมัยนี้ ไม่มีรัฐหารด้วยฝีมือทหารครั้งใดที่เกิดขึ้นต่อหน้ากองกำลังประชาชนจะประสบความสำเร็จโดยปราศจากเหตุนองเลือด”
ฝ่าย รัฐประหารไม่เพียงปราบปรามประชาชนอย่างหนักเท่านั้นแต่ยังละเมิดความอิสระ ของสื่อ โดยกองกำลังความมั่นคงบุกยึดและระงับการออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ของกลุ่ม ภราดรภาพมุสลิมช่องหนึ่ง พร้อมทั้งยังเข้าควบคุมตัวเจ้าหน้าที่ของสถานีอัลญะซีเราะห์ สาขาอียิปต์ที่กำลังถ่ายทอดสดเหตุการณ์ต่างที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะ ออกอากาศคำปราศรัยขัดขืนการรัฐประหารของประธานธิบดีมุรซีย์
มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีส่วนคล้ายคลึงกับการรัฐประหารของไทย 2549 มากซึ่งผู้เขียนขอนำเสนอประเด็นดังนี้
- กองทัพรัฐประหารรัฐบาลจากการเลือกตั้งและใช้เหตุผลคล้ายกันในการรัฐประหาร
กล่าวคือกองทัพทั้งสองประเทศรัฐประหารรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเหมือนกันกล่าวคืออียิปต์เป็นการรัฐประหารประธานาธิบดีที่มาจากการเลือกตั้งคือ ดร.มุฮัมมัดมุรซีย์โดยกองทัพให้เหตุผลว่าต้องการหยุดการนองเลือดและปะทะกันของคนสองกลุ่มที่สนับสนุนและต่อต้านดร.มุฮัมมัดมุรซีย์นับแสนๆคนเป็นการปกป้องความมั่นคงและผลประโยชน์ของชาติ โดยที่พล เอก อับดุล ฟัตาฮฺ อัซซีซี ผู้นำกองทัพอียิปต์ และ รัฐมนตรีกลาโหม อ่านประกาศผ่านทางโทรทัศน์ว่า กองทัพไม่สามารถนิ่งดูดาย ที่ประชาชนชาวอียิปต์เรียกร้องให้กองทัพออกมาช่วยเหลือ ทำให้การยึดอำนาจจากประธานาธิบดีมอร์ซีครั้งนี้ ไม่ใช่การยึดอำนาจเพื่อขึ้นปกครอง แต่เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติ ซึ่งกองทัพจึงปรึกษาบุคคลสำคัญของชาติด้านต่างๆ ทั้งการเมือง, ศาสนา (อิสลามและคริสต์) และกลุ่มคนหนุ่มสาว สุดท้ายทุกคนเห็นพ้องกับแผนแม่บททางการเมืองที่จะนำอียิปต์สู่ความสมานฉันท์
ในขณะที่ประเทศไทยกองทัพภายใต้การนำของพลเอสนธิ บุ ณยรัตนกลินได้ยึดอำนาจจาก พ.ต.อ. ดร. ทักษิณ ชิณวัตร นายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งเช่นกันและกองทัพก็ให้เหตุผลข้อหนึ่งว่า ต้องการป้องกันเหตุปะทะกันของคนสองกลุ่มทั้งสนับสนุนและต่อต้านทักษิณ
- ผู้ต่อต้านต้องการโค้นระบอบอิสลามทีนำโดยมุรซีย์และภราดรภาพมุสลิม-ทักษิณ
หลังจาก ดร.มุฮัมมัด มุรซีย์ได้รับฉันทานุมัติจากประชาชนให้เป็นประธานาธิบดีท่านได้เริ่มปฏิรูปกองทัพอียิปต์ อำนาจตุลาการ นำ แนวคิดอิสลามนิยมตามทัศนะขบวนการภราดรภาพมุสลิมเข้าปฏิรูปในกฎหมาย สังคม เศรษฐกิจและการเมืองทำให้ไม่ได้รับความพอใจจากอำนาจเก่าทั้งทหาร ตุลการ นักเสรีนิยมตะวันตกและชาวคริสต์รวมทั้งมุสลิมที่มีทัศนะโลกาวิสัยกอร์ปกับตลอดหนึ่งปีของการบริหารท่านมุรซีย์มิสามารถแก้ปัญหาปากท้อง เศรษฐกิจ และอาชญากรรมในประเทศ ทำให้แต่ละกลุ่มดังกล่าวจัดชุมนุมใหญ่ขับไล่ท่านมุรซีย์ แต่ก็มีการชุมนุมนับแสนคนเช่นกันของกลุ่มผู้สนับท่านมุรซีย์
ในขณะที่ประเทศไทยอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ เมื่อสามารถเป็นผู้บริหารรอบที่2 เริ่มแทรกแซงสื่อและองค์กรอิสระ มี อำนาจด้านเศรษฐกิจในกลุ่มทุนตนเองและพวกพ้อง มีการรวบอำนาจและสร้างอำนาจทางการเมืองในกลุ่มตนเองไม่ว่าในรัฐสภาหรือการ เมืองท้องถิ่น ทำให้เกิดวาทกรรมระบอบทักษิณขึ้น จึงทำให้กลุ่มต่อต้านทักษิณจากฝ่ายพันธมิตรจัดประท้วงทั้งในเมืองหลวงและเมืองใหญ่ทั่วประเทศ
ซึ่ง เป็นที่น่าเสียดายต่อประชาชนที่ต้านผู้นำที่มาจาการเลือกทั้งสองประเทศว่า ไม่อดทนให้ระบบมันเดินตามวาระโดยเฉพาะอียิปต์ที่ไม่สามารถอดทนอยู่ภายใต้ผู้ นำที่ตัวเองเลือกมามีอายุเพียง 1 ปี ในขณะที่พวกเขาอดทนได้กับการอยู่ภายใต้อำนาจเผด็จการมุบาร็อค 30 ปี และทหารก่อนการเลือกตั้งอีก 1 ปีครึ่ง ซึ่งการรัฐประหารในประเทศไทย ปี 2549 น่าจะเป็นบทเรียนให้กับชาวอียิปต์ได้
- ปฏิกิริยาตอบรับจากประชาชนที่สนับสนุนการรัฐประหาร
หลังจากกองทัพอียิปต์ยึดอำนาจสำเร็จ ประชาชนที่ต่อต้านท่านมุรซีย์ได้จุดพลุและออกมาแสดงความยินดี กับการรัฐประหารด้วยการแสดงออกต่างๆนานาซึ่งเป็นภาพ แพร่กระจายไปทั่วโลก ในขณะที่ประเทศไทยฝ่าย ต่อต้านท่านอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ได้ออกมาแสดงความยินดีและมีประชาชนบางส่วนออกมามอบดอกไม้ให้กับทหารที่อยู่ บนรถถังกลางเมืองหลวงซึ่งเป็นภาพที่เผยแผ่ไปทั่วโลกเช่นกัน
- ปฏิกิริยาตอบรับจากประชาชนที่ต่อต้านการรัฐประหาร
ปรากฏ ว่าหลังจากการยึดอำนาจของกองทัพอียิปต์ประชาชนที่สนับสนุนท่านมุรซีย์ได้ออก มาชุมนุมประท้วงกองทัพอย่างล้นหลามเช่นกันแต่ได้รับการปราบปรามจากหน่วยความ มั่นคงอย่างหนัก ทำให้วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม 2556 มีผู้เสียชีวิตจากการปราบปรามแล้ว 30 ราย ในขณะเดียวกัน ได้ประกาศจับแกนนำขบวนการภราดรภาพ อีก 300 กว่าคน
ในขณะที่ประเทศไทย กลุ่มเสื้อแดงที่ประท้วง ในปี 2553 ก็ได้รับการปราบอย่างหนักและทำให้ผู้เสียชีวิตหลายรายเช่นกัน (โปรดดูรายละเอียดใน
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%81%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%8C_%E0%B8%9E.%E0%B8%A8._2553)
การต่อสู้ของฝ่ายต่อต้านกองทัพอียิปต์ พึ่งจะเริ่มต้น ถ้าถูกปราบอย่างหนักเกรงว่า สมาชิกระดับแกนนำหลายคน อาจ จะไม่ใช้สันติวิธีในการต่อสู้หรือจับอาวุธขึ้นมาต่อสู้กับกองทัพ เป็นสงครามกลางเมืองและเมื่อนั้นอาจจะนำไปสู่ภัยก่อการร้ายที่จะยิ่งเพิ่ม อุณหภูมิสงครามให้ภูมิภาคนี้อย่างแน่นอน และอาจจะเป็นโดมิโนด้านการเมืองในประเทศอื่นๆด้วยเช่นกัน...ซึ่งผู้เขียนขอพรจากพระเจ้าขอให้อย่าเป็นเช่นนั้น
ครับ..ถึงแม้ผู้เขียนจะประณามการรัฐประหารครั้งนี้ แต่ผู้เขียนขอพรจากอัลลอฮฺให้ชาวอียิปต์ทั้งฝ่ายต่อต้านและสนับสนุนใช้สติ สันติวิธีแก้ปัญหาเหตุการณ์บ้านเมือง ก่อนที่จะมีการนองเลือด อันเนื่องมาจาก สงครามกลางเมืองเหมือนซีเรีย เพื่อต้อนรับเดือนรอมฎอนอันประเสริฐ... อามีน