เรากำลังเป็นสังคมที่ปราศจากความยับยั้งชั่งใจ

1261 07 Jul 2012

ประชาธิปไตย ทุน เสรีนิยม ผลักดันและอำนวยให้เทคโนโลยีการสื่อสารพัฒนาไปไวมาก โลกปัจจุยันจึงเชื่อมถึงกันง่ายดาย จนระยะทาง ความห่างไกล ความแตกต่าง ความลี้ลับกลายเป็นเรื่องง่ายดาย ปกติ ซึ่งด้านหนึ่งก็เป็นสิ่งที่ดีที่ทำให้มนุษย์สามารถติดต่อ สื่อสารกันทั่วโลกตลอดเวลา คนในยุคนี้จึงเกาะเกี่ยวมีกลุ่ม มีคลับ มีเพื่อน มีเครือข่าย มีช่องทางกว้างไกลที่จะค้นหา เรียนรู้และเปิดหูเปิดตาอย่างไร้ขีดจำกัด แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นดาบสองคมที่ทำให้คำพูดหนึ่งหรือสัญลักษณ์หนึ่ง อาจจะพูดหรือกระทำออกมาในมุมสนุกๆ หรือกระทำตอบโต้เล็กๆ จากความคิดแคบๆ กลายเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต และแน่นอนอาจจะนำไปสู่ความหายนะทั้งชีวิต เสมือนสงครามอาจจะถูกประหาร ตามล่า ตามชิงชังฝังลึกเลยก็ได้ สังคมปัจจุบันทุกสิ่งทุกอย่างจึงสามารถเคลื่อนย้าย ข้ามผ่าน ไปมาได้สะดวกไร้กำแพงกางกั้น หลายๆ ครั้งคลื่นความคิดจากจุดหนึ่งจึงไหลถ่ายเท หรือโหมพัดเหมือนพายุที่สาดความคิด ความจริง (ที่สร้างขึ้นด้วยชุดความรู้ ข้อมูลเพียงบางชุด ) ทำให้สั่นสะเทือนและรุนแรง จนบางครั้ง มันใกล้เข้าสู่ภาวะสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดความหายนะ อย่างไม่มีกลไกหรืออำนาจอื่นใด กำกับและกำจัดได้ ผมนั่งมองพายุความคิดสุดโต่ง ทางการเมืองในประเทศนี้ อย่างไม่สบายอกสบายใจเอาเสียเลย เพราะในบางทีก็เพ่งมองเห็นกล้าอ่อนๆ ของความคิดของสังคมไซเบอร์ที่กระหายสงครามกลางเมือง เพราะคนมักคิดว่า การก่อการณ์ ยั่วยุ เช่นนั้น มันไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ความฮึกเหิมที่ถาโถมทำให้รู้สึกเหมือนตนเองคือทหารหาญ คือผู้กล้า คือวีรชน จึงสำแดงและออกปฏิบัติการทางถ้อยคำ ภาพ และสัญลักษณ์ แม้ตอนนี้ จะยังไม่ใช่สงครามจริงๆ เต็มรูปแบบ แต่ก็อยู่ในระยะก่อสงครามทางอารมณ์ อย่างเข้มข้นมากขึ้นๆ อันมาจากการที่ตัดสินพิพากษากันด้วยอคติ  การไล่ล่าศัตรูความคิด ปฏิบัติการฟาดกระหน่ำอย่างทารุณและน่าหวาดกลัว ต่อฝ่ายตรงข้าม และผมกำลังแน่ใจว่า ปฏิบัติการที่ขยายวงกว้างมากขึ้นนี้กำลังเป็นปรากฏการณ์ปรกติ ลดหลั่น แยกย่อยอยู่ในสังคมไซเบอร์ ซึ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ แค่ในไม่กี่ปีที่เกิดการปะทะทางความคิด มันสามารถฝังรากลึกมากลงในความคิดคน ทำให้เห็นว่า หลายคนไม่รู้สึกเลยว่าสิ่งที่ตนทำตนพูดนั้นมันปราศจากมโนธรรม ไร้สำนึก และมันกำลังก้าวข้ามจากโลกไซเบอร์ไปสู่โลกความจริงไปแล้ว เช่น กรณีล่าสุดคือ กรณี ตั๊ก บงกช และกรณีเผาหมู่บ้านเสื้อแดง ภูเก็ต และถ้าย้อนไปในอดีต 2-3 ปีที่ผ่านมา มีอีกหลายกรณี ผมไม่อยากวิเคราะห์เรื่องความคิดทางการเมืองของฝักฝ่ายไหน เพราะมันรู้สึกอิดหนาระอาใจ แต่ที่กำลังวิตกว่าผลพวงจากความคิดคนๆ หนึ่งกำลังกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวได้อย่างไร และอารมณ์ความคิดแบบนี้มันผลิตซ้ำความขาดสติ ไร้เหตุผล ไร้ความยับยั้งชั่งใจได้อย่างไร จากใคร ผ่านช่องไหน ?   แต่ที่พบเห็นส่วนใหญ่ ไม่ใช่ทุกคนพูดแล้วเกิดประกายเพลิงโหมกระพือ แต่จะมีบางคนที่มีศักยภาพ เป็นแกนกลางการสื่อสารในโลกไซเบอร์ เป็นที่ยอมรับและมีชื่อเสียงเป็นคนสาธารณะซึ่งมีโครงข่ายทางสังคมกว้างใหญ่ ไร้ที่สิ้นสุด คนเหล่านี้คือคนสำคัญในการจุดชนวนให้ขั้วความคิดลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากัน ศัพท์ในทางวิชาการเรียก ภาวะมนุษย์ออนไลน์นี้ว่า   Disinhibition หรือ พฤติกรรมที่ไม่สามารถยับยั้งชั่งใจได้ ตอนนี้ภาวะเช่นนี้กำลังเป็นมหันตภัยมืดซ่อนลึกในสังคม เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณหรือผม เกิดพูดแล้วไม่ถูกใจ ไม่ใช่หรือไม่เห็นด้วย จนรับไม่ได้ในความคิดอีกฝ่าย เมื่อนั้นมันพร้อมจะเข้ามาคุกคามรุกรานคุณถึงบ้าน มันพร้อมจะไล่ล่าครอบครัวคุณ คนรักคุณ จัดการประวัติคุณ คุณจะถูกแฉ ถูกแปลง ถูกกระทำย่ำยี ด้วยชุดข้อมูลความจริง ฯลฯ  คุณอาจจะตายทั้งเป็นเพราะการ ลงทัณฑ์ !! มันเป็นยุคเสรีนิยมที่ปราศจากมโนธรรม ไม่มีจิตวิญญาณที่เป็นประชาธิปไตย ป่าเถื่อนเหมือนกลับไปสู่ยุคไร้อารยธรรมอีกครั้ง ทุกคนตะโกนให้ฆ่า ให้เผา ให้กำจัดฝ่ายตรงข้ามด้วยวิธีการที่หฤโหดผิดมนุษย์ได้อย่างไม่รู้สึกรู้สา อะไร หรือนั่งมองคนถูกกระทำอย่างพึงพอใจ และปรบมือชื่นชม อีกไม่นานมันจะถูกยอมรับ มันมีพลังในแบบของมันจนยากที่จะมีใคร หรือ อะไรมากำจัดกวาดล้างได้ !! ณ วันนี้ ผมคิดว่าเราต้องตื่นเสียที หยุดและคิด  เรื่องนี้บ้าง สำหรับเรื่องจุดยืนทางการเมืองเราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน เพราะถ้าเราเลือกที่จะมีเสรีภาพ และถ้าเราอยากจะเดินบนเส้นทางประชาธิปไตยเรากล้าจะมีพื้นที่ให้ทุกฝ่าย ทุกความคิดได้ต่อสู้กันบนเส้นทางประชาธิปไตย  ส่วนการไล่ล่าคู่ตรงข้ามอย่างเอาเป็นเอาตาย นั้น จงประณาม ว่ามันเป็นอาชญากรรม !! ปัญญาชน นักคิด นักเคลื่อนไหว และกลไกรัฐจะต้องเร่งรีบ คิดหาหนทางรับมือกับปรากฏการณ์นี้ให้ทัน ซึ่งแน่นอน ทุกกลไกรัฐ รวมถึงสถาบันการศึกษา ชุมชน  และสถาบันครอบครัว คือ ความหวังเดียวที่จะหล่อหลอม สร้างสังคมใหม่ สังคมที่เทคโนโลยีกำลังกลืนกินมโนธรรมสำนึกของผู้คนในสังคม ต้องรีบลุกขึ้นมาหาทางปลูกฝังให้เข้าใจ เท่าทันการครอบงำของภาวะความคิดแบบไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจนี้ในบุตรหลานหรือ ยุวชนคนรุ่นใหม่ โดยพลัน !! กับโศกนาฏกรรมในทศวรรษนี้ บางทีก็อดคิดไม่ได้ว่า เราจะยอมหุบปาก หยุดและอดทนอย่างเจ็บปวด  หรือว่า พร้อมจะเจอและจดจำภาพฝังใจอันเลวร้าย   ?………..

Contact Information

  • : มูลนิธิกองทุนไทย Thai Fund Foundation 2044/23 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ บางกะปิ ห้วยขวาง กรุงเทพ 10310
  • : webmaster@thaingo.org
  • : 082 178 3849
  • : www.thaingo.in.th

Thai NGO

ข่าวสารสังคมนอกสื่อกระแสหลัก ข่าวสารความเคลื่อนไหว เกี่ยวกับเอ็นจีโอ ข่าวกิจกรรมเพื่อสังคม งานสัมนา สมัครงานเอ็นจีโอ ร้องเรียน แจ้งข่าว…ประนามประจาน !! ที่ได้รับความทุกข์ร้อนไม่เป็นธรรม