สมัชชาคนจนเดินหน้าหารือแก้ไขปัญหาในหลายพื้นที่ ต่อเนื่อง 2 วันซ้อน เร่งตั้งคณะอนุกรรมการระดับจังหวัด
Back23
27 November 2025
สมัชชาคนจนเดินหน้าหารือแก้ไขปัญหาในหลายพื้นที่ ต่อเนื่อง 2 วันซ้อน เร่งตั้งคณะอนุกรรมการระดับจังหวัด - รอความชัดเจนอีก 2 คณะสำคัญ
สมัชชาคนจนยังคงเดินหน้าติดตามการแก้ไขปัญหาตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีอย่างใกล้ชิด โดยเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 และ 26 พฤศจิกายน 2568 ผู้แทนสมัชชาคนจนเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาตามคำสั่งที่ 363-369/2568 ในหลายคณะอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นการขับเคลื่อนสำคัญหลังรัฐบาลตั้งคณะกรรมการใหญ่ 7 คณะ เพื่อเร่งรัดการแก้ไขปัญหาที่ค้างสะสมในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ
ประชุม 3 คณะใหญ่ 25 พฤศจิกายน - เดินหน้าแต่งตั้งคณะทำงานรวมกว่า 29 ชุด
เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 เวลา 13.00 น. สมัชชาคนจนเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหา 3 คณะ ณ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีความคืบหน้าดังนี้
1. คณะกรรมการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน ที่ประชุมเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการชุดย่อย 15 คณะ เพื่อเร่งดำเนินการใน 33 กรณีเร่งด่วนที่ค้างสะสม และมอบหมายให้ดำเนินการต่อเนื่องจากการประชุมก่อนหน้า
2. คณะกรรมการกรณีปัญหาป่าไม้–ที่ดินในรูปแบบนิคมสหกรณ์ มีมติแต่งตั้งอนุกรรมการรวม 14 คณะ ครอบคลุมหลายพื้นที่ เช่น
- ป่าควนแก้ว–คลองตม–ทุ่งลานแซะ จ.นครศรีธรรมราช
- ป่าย่านยาว–เขาวง–ป่ากระซุม จ.สุราษฎร์ธานี
- ป่าตาพระยา จ.สระแก้ว
พร้อมตั้งอนุกรรมการศึกษาปรับปรุง พ.ร.บ.จัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ. 2511 ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
3. คณะกรรมการกรณีปัญหาเขื่อนหัวนาและเขื่อนราษีไศล การประชุมพิจารณา 4 ประเด็นสำคัญ และมีมติเห็นชอบทั้งหมด เพื่อให้การแก้ไขปัญหาของชุมชนที่ได้รับผลกระทบดำเนินต่อเนื่องจากคณะกรรมการชุดก่อนหน้า
ที่ประชุมทั้งสามคณะดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย โดยสมัชชาคนจนเรียกร้องให้ฝ่ายเลขานุการเร่งประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้จริงในพื้นที่
26 พฤศจิกายน ประชุมคณะกรรมการกรณีที่ดินในความรับผิดชอบของกระทรวงมหาดไทย
วันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 เวลา 10.00 น. ผู้แทนสมัชชาคนจน 10 คนเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการกรณีปัญหาที่ดินในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ที่ศาลาว่าการกระทรวง และผ่านระบบ Zoom กับหน่วยงานจังหวัดต่าง ๆ
ในการประชุมมีการพิจารณาสำคัญ 2 เรื่อง คือ
1. แต่งตั้งอนุกรรมการระดับจังหวัด 8 คณะ ครอบคลุมพื้นที่เร่งด่วน ได้แก่ บึงกาฬ นครพนม กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ลพบุรี สุรินทร์ ร้อยเอ็ด และศรีสะเกษ เพื่อสานต่อการแก้ไขปัญหาที่ดินของสมาชิกสมัชชาคนจนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
2. เห็นชอบ “บันทึกแนวทางการบรรเทาปัญหา” ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องดำเนินการบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ที่อยู่อาศัยหรือทำกินในที่ดินของรัฐระหว่างรอการแก้ไขปัญหา โดยให้ดำเนินการในส่วนที่ทำได้ทันที หากมีอุปสรรคให้เสนอคณะกรรมการพิจารณาต่อ
คณะกรรมการทั้ง 7 คณะตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีประชุมไปแล้ว 5 คณะ โดยยังเหลืออีก 2 คณะที่ยังไม่ประชุม ได้แก่
- กรณีปัญหาเขื่อนปากมูล นัดประชุมวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568
- กรณีปัญหาแรงงาน ที่ยังไม่สามารถกำหนดวันประชุมได้
สมัชชาคนจนเห็นว่า การประชุมทั้งสองคณะสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ และเป็นตัวชี้วัดความจริงจังของรัฐบาลในการผลักดันการแก้ไขปัญหาให้เป็นรูปธรรม
การประชุมต่อเนื่องของสมัชชาคนจนในช่วงสองวันนี้สะท้อนให้เห็นความคืบหน้าในหลายประเด็น โดยเฉพาะการตั้งคณะอนุกรรมการจำนวนมากในระดับพื้นที่ ซึ่งถือเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อนและยืดเยื้อมาหลายปี
อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตาการประชุมของคณะที่เหลือ และการประสานงานเชิงปฏิบัติที่ต้องเกิดขึ้นหลังจากนี้เพื่อให้ชุมชนได้รับผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม
ติดตามสถานการณ์เพิ่มเติมได้ที่ สมัชชาคนจน Assembly of the Poor