ประชุมคณะกรรมการกำกับและติดตามการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน ครั้งที่ 1/2568 เดินหน้า 4 วาระสำคัญ “สมัชชาคนจน” จี้เร่งกำหนดวันประชุมอีก 2 คณะที่ยังค้าง
Back35
25 November 2025
ประชุมคณะกรรมการกำกับและติดตามการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน ครั้งที่ 1/2568 เดินหน้า 4 วาระสำคัญ “สมัชชาคนจน” จี้เร่งกำหนดวันประชุมอีก 2 คณะที่ยังค้าง
วันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกำกับและติดตามการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน ครั้งที่ 1/2568 ภายหลังคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 363/2568 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2568 แต่งตั้งคณะกรรมการดังกล่าวขึ้น เพื่อเร่งรัดการแก้ไขปัญหาที่เครือข่ายสมัชชาคนจนสะท้อนมายาวนาน
การประชุมครั้งนี้มีผู้แทนหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ได้แก่ นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายนพพร บุญแก้ว รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และนายพันศักดิ์ เจริญ ผู้อำนวยการศูนย์บริการประชาชน รวมถึงผู้แทนกระทรวงแรงงาน นำโดยนางสาวบุปผา เรืองสุด เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงแรงงาน
ที่ประชุมได้พิจารณา 4 ประเด็นหลัก ได้แก่
- กรอบแนวทางการขับเคลื่อนการดำเนินงานของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาสมัชชาคนจน จำนวน 6 คณะ
- การมอบหมายให้คณะกรรมการแต่ละชุดดำเนินการแก้ไขปัญหาตามแนวทางที่คณะรัฐมนตรีรับทราบ
- บันทึกแนวทางการบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของสมาชิกสมัชชาคนจนที่อยู่อาศัยหรือทำกินในที่ดินของรัฐในระหว่างรอผลการแก้ไขปัญหา
- กรณีปัญหาคำสั่งไล่รื้อบ้านพัก แพปลา โรงเรือน และพื้นที่ทำกินของชาวประมงพื้นบ้าน บ้านบ่อดาน–ในไร่ หมู่ 7 ตำบลนาเตย อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา
ที่ประชุมมีมติรับทราบและเตรียมนำเข้าสู่กระบวนการแก้ไขต่อไป โดยเน้นให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินงาน เพื่อให้ประชาชนได้รับผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม
แม้คณะกรรมการทั้ง 6 คณะถูกแต่งตั้งครบแล้ว แต่ยังมี 2 คณะสำคัญที่ยังไม่สามารถกำหนดวันประชุม ได้แก่ คณะกรรมการแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูน และ คณะกรรมการแก้ไขปัญหาแรงงาน ที่ประชุมจึงมอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการเร่งรัดการกำหนดวันประชุม เพื่อให้การแก้ไขปัญหาที่คั่งค้างเดินหน้าต่อทันที
สมัชชาคนจนเป็นการรวมตัวของประชาชนและชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนาของรัฐ ปัญหาที่ดินทำกิน มลภาวะ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงผลกระทบด้านเศรษฐกิจและสังคมในหลายจังหวัดทั่วประเทศ เป้าหมายสำคัญคือผลักดันความเป็นธรรมทางสังคม ลดความเหลื่อมล้ำ และให้รัฐเร่งแก้ปัญหาที่ดำเนินมากว่าสองทศวรรษ
การประชุมครั้งนี้จึงนับเป็นก้าวสำคัญของรัฐบาลชุดใหม่ที่เริ่มขับเคลื่อนกลไกเพื่อติดตาม ปรับปรุง และแก้ไขปัญหาที่สมัชชาคนจนเรียกร้องมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมคาดหวังให้กระบวนการทั้งหมดดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรมมากขึ้นในปี 2569