สมัชชาคนจนปักหลักทวงคำตอบรัฐบาล ชัยชนะก้าวแรก…แต่การต่อสู้ยังไม่จบ

Back

112

20 November 2025

สมัชชาคนจนปักหลักทวงคำตอบรัฐบาล ชัยชนะก้าวแรก…แต่การต่อสู้ยังไม่จบ

วานนี้ (19 พฤศจิกายน 2568) เวลา 17.30 น. บรรยากาศหน้าทำเนียบรัฐบาลบริเวณประตู 4 เต็มไปด้วยความคาดหวัง เมื่อนายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี เดินออกมาพบปะตัวแทนสมัชชาคนจน เพื่อชี้แจงความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาที่เครือข่ายได้เรียกร้องมานานหลายเดือน

การปรากฏตัวในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน รวม 7 คณะ ตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2568 แต่การแต่งตั้งผู้รับผิดชอบระดับรองนายกรัฐมนตรีเพื่อเป็นประธานคณะกรรมการกลับล่าช้า จนทำให้การแก้ไขปัญหาหลายกรณีหยุดชะงัก และบางกรณีทวีความรุนแรงขึ้น

 

คำมั่นบนท้องถนน “24 พ.ย. เปิดประชุมทันที

ในการชี้แจงต่อหน้าผู้ชุมนุม นายโสภณ ระบุว่า นายกรัฐมนตรีได้ลงนามมอบหมายให้เขาเป็น ประธานคณะกรรมการกำกับติดตามการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน พร้อมทั้งมอบหมายให้ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหา 6 คณะย่อย

นายโสภณยืนยันต่อมวลชนว่าจะเปิดการประชุมครั้งแรกในวันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2568เวลา 13.00 น. ถือเป็นสัญญาณว่ารัฐบาลเริ่มขยับแก้ปัญหาที่ค้างคามานาน

หลังจากการพูดคุย สมัชชาคนจนจึงเคลื่อนขบวนจากทำเนียบรัฐบาลมายังหน้า สำนักงาน ก.พ.ร. และประกาศว่าจะยังคงชุมนุมต่อไปจนกว่าข้อเสนอทั้งหมดจะได้รับการตอบสนอง

 

ทำไมต้องชุมนุม?

แม้จะมีการตั้งคณะกรรมการตั้งแต่เดือนตุลาคม แต่ข้อเท็จจริงคือปัญหาของชาวบ้านในพื้นที่พิพาทยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น

  • การปักป้ายขับไล่โดย ส.ป.ก. ในจังหวัดกระบี่
  • หนังสือให้รื้อถอนที่อยู่อาศัยในจังหวัดภูเก็ตโดยกรมเจ้าท่า
  • การออกหมายเรียกดำเนินคดีประชาชนในพื้นที่พิพาท
  • การห้ามทำกินในพื้นที่ตามเขตอุทยานในจังหวัดสกลนคร

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นขณะที่รัฐบาลระบุว่ามีแนวทางการผ่อนผันอยู่แล้ว แต่ไม่ถูกนำไปใช้จริง

สถานการณ์เช่นนี้ทำให้สมัชชาคนจนมองว่าการชุมนุมครั้งนี้ จำเป็นเพื่อบังคับให้รัฐบาลเดินหน้าทำตามกรอบที่เคยตกลงกันไว้

 

3 ข้อเรียกร้องที่ยังไม่จบ

สมัชชาคนจนระบุว่า แม้การมอบหมายอำนาจให้รองนายกฯ จะเป็นก้าวแรก แต่การเคลื่อนไหวยังต้องดำเนินต่อไปจนกว่าทั้ง 3 ข้อเรียกร้องจะบรรลุผล ได้แก่

1. ให้นายกรัฐมนตรีมอบหมายรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะกรรมการทั้งชุด

  • คณะกรรมการกำกับติดตามการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน
  • คณะกรรมการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน

2. ให้ประธานกรรมการกำกับติดตามการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน และประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน ทั้ง 7 คณะ กำหนดให้มีการประชุมโดยทันที

3. ให้รัฐบาลใช้กรอบแนวทางการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2566 เรื่อง แนวทางการแก้ไขของสมัชชาคนจน และแนวทางการบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของสมาชิกสมัชชาคนจน ที่ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินพิพาท เป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเฉพาะของสมัชชาคนจน


มติซึ่งถือเป็น กรอบสัญญาที่กำหนดวิธีการแก้ปัญหาเรื่องที่ดินพิพาทและความเดือดร้อนของสมาชิกสมัชชาคนจนอย่างเป็นรูปธรรม

 

ชัยชนะก้าวแรกแต่การต่อสู้ยังอีกยาวไกล

สมัชชาคนจนประกาศชัดเจนว่า การมอบหมายครั้งนี้เป็นเพียง ชัยชนะก้าวแรก

และยังไม่เพียงพอที่จะยุติการชุมนุมจนกว่ารัฐบาลจะเดินหน้าแก้ปัญหาอย่างจริงจังครบทั้ง 3 ข้อ หากรัฐบาลเพิกเฉยหรือไม่ทำตามสัญญา หลังฤดูเก็บเกี่ยว เครือข่ายจากทั่วประเทศจะเดินทางเข้ามาร่วมชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลมากยิ่งขึ้น

การเคลื่อนไหวครั้งนี้สะท้อนให้เห็นความพยายามของประชาชนระดับรากหญ้าที่ต้องการให้เสียงของคนจน ถูกได้ยินในระบบการเมืองไทย
และตอกย้ำสโลแกนของสมัชชาคนจนว่า

ประชาธิปไตยที่กินได้ การเมืองที่เห็นหัวคนจน

นี่คือคำทวงถามของประชาชนที่ต้องการให้การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเป็นเรื่องเร่งด่วน ไม่ใช่เอกสารที่วางทิ้งไว้บนชั้นในกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง

 

ภาพจาก : สมัชชาคนจน Assembly of the Poor 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ตัวแทนสมัชชาคนจนกว่า 100 คน รวมตัวหน้าทำเนียบฯ ทวงถามความคืบหน้า หลังรัฐบาลยังไม่มอบหมายผู้รับผิดชอบแก้ปัญหา