การเมืองเรื่องวัคซีน

1351 06 Aug 2021



ถ้าจำไม่ผิดการเกิดขึ้นและรบาดของไวรัสโควิด เริ่มจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ราวต้นปี 2563 จากนั้นก็ลุกลามไปทั่วโลก แต่ก่อนจะลุกลาม เราคนไทยและประชาชนทั่วโลกต่างก็ได้ดูข่าว นี้ และ คิดว่า ต้องทำอย่างไร แบบ ไม่คิดว่าจะมาถึง เพราะอยู่ไกล แต่พอเลยกลางปี กลับพบว่า มีติดและระบาดในประเทศ จนต้องล็อคดาวน์

แน่นอนว่า มาตรการที่รัฐ โดยทั่วไปทำ คือตามความคืบหน้าเรื่องยา และวัคซีน จนปลายปีก็มีข่าวดี ว่ามีหลายประเทศพัฒนาวัคซีนได้แล้ว และกำลังนำออกมาแจกจ่าย จำหน่าย นั่นคือความหวังของชาวโลก และเราก็คิดว่า รัฐบาลไทยจะเข้าใจและมองทางออก ระยะสั้น ด่วนๆ คือ เรื่องนี้

เข้าปลายปี
2563 ข้ามไปถึงต้นปี 2564 เกิดระบาดหนักอีก เป็นระลองที่สอง รัฐบาลประกาศ ทั้งล็อคและไม่ล็อค “ดาวน์” อลหม่านไปหมด  เราประชาชนถามหาวัคซีนอีกครั้ง  ปรากฏว่า ไทยยังไม่มี รัฐบาลยังไม่ดำเนินการ และห้ามเอกชน สั่งซื้อ เพราะผู้ผลิต ต้องการจำหน่ายให้ รัฐบาลกับรัฐบาล เท่านั้น  เพื่อให้ไม่ให้เกิดการเก็งกำไร กักตุนยา ปั่นราคา และ ทั่วถึงประชาชนโดยด่วน แต่มีกระแสข่าวว่า รัฐบาลไทยได้เซ็นสัญญาอนุมัติการลงทุน ตั้งโรงงานผลิตวัคซีน กับหุ้น และ ทุนใหญ่เจ้าประจำ โดยประกาศออกไปอย่างกล้าหาญ ว่า เราจะเป็นแห่งเดียวในอาเซียน ที่มีโรงงานผลิตวัคซีน !!

ซึ่งในอีกแง่หนึ่ง นั่นคือการพยายามจะผูกขาดและตักตวง ผลประโยชน์บนความป่วยไข้ ตายของประชาชน และที่สำคัญ เพื่อให้รัฐบาล นี่แหละเป็นลูกค้าหลัก หมายความว่า เอาเงินภาษีมาซื้อวัคซีนของพวกตัวเอง !!

เราฉลองและเตรียมตั้งหน้าทำมาหากิน เพราะปลอดเชื้อมาได้ ร่วมเดือน ชาวบ้านเริ่มลงทุน ผู้ประกอบการเริ่มรับเริ่มว่าจ้าง แรงงาน ลงทุน รันเครื่องทำการผลิต ชีวิตใหม่กำลังเริ่มต้น  เดือนเมษายนปี 2563 เกิดระบาดระลอกที่ 3 ลุกลาม ควบคุมไม่ได้ เกิดสายพันธุ์ใหม่ๆ แตกตัวออกมา และเชื้อไม่มีอาการ ลุกไปทั่วประเทศ ควบคุมไม่ได้ และรัฐบาล บอกให้จังหวัดไปจัดการตัวเอง ไม่ล็อคดาวน์ ไม่อยากให้เศรษฐกิจทรุดหนัก

สถานการณ์ระบาดหนัก จนประชาชนเรียกร้องวัคซีน หรือตั้งคำถามถึง การดำเนินการเรื่องวัคซีนซึ่งเพิ่มเริ่มทยอยกระจาย ผ่านนโยบายคนพิเศษ คนป่วย คนชรา แต่ก็ไปแบบช้าๆ แน่นอน คนด่านหน้า อย่างแพทย์ พยาบาลได้ก่อน และรัฐบาลก็พยายามยืนยันถึง วัคซีนแห่งชาติ ที่แอบไปอุบอิบกับทุน และหุ้นส่วนคนสำคัญ แล้วก็กักตุน รวมถึงไม่เปิดโอกาสให้ รพ.เอกชน ประชาชนทั่วไป สั่งซื้อวัคซีน ด้วยตัวเอง

ที่น่าตกใจคือ ในขณะที่เรา เริ่มได้วัคซีนซิโนแวค
Zinovac ซึ่งมาจากประเทศจีน   เป็นสูตรวัคซีนเชื้อตาย ซิโนแวค ใช้กับกับประชาชนทั่วไป และ แอซตร้า เซเนก้า ( Astra Zeneca ) กับคนป่วย คนชรา และวีไอพี สถานการณ์คือ ล่วงมาเกือบครึ่งปี เราพิ่งเริ่มมีวัคซีน ที่มาอย่างกระท่อนกระแท่น ไม่ทั่วถึงประชาชน ในขณะที่ ประเทศต่างๆ ที่ลุยเต็มที่กับการฉีดวัคซีน ให้ประชาชน เริ่มสะท้อนออกมาว่า วัคซีนที่ไทย ระบุเป็นวัคซีนแห่งชาติ ถูกวิจารณ์ว่า รับมือไวรัสไม่ได้ หรือได้แต่บางสายพันธุ์ แต่เวลานี้ ไวรัสกลายพันธุ์ เป็นสกุลต่างๆ ที่รุนแรง แต่รัฐบาลไทยก็เพิกเฉย ยืนกระต่ายขาเดียว  กลับสั่งวัคซีนเดิม มาเพิ่มเติม สถานการณ์จึงรุนแรง ทั้งการเมือง ทั้งโรคระบาด เพราะกระแสคนติดเชื้อลุกลามจากวันละหลักร้อย ขึ้นเป็นหลักพัน และหลายพันต่อวัน

เกิดกระแสประชาชน วิพากษ์วิจารณ์รุนแรงมาก  ออกมาต่อต้านและประณามรัฐบาลไทยอย่ารุนแรง จนสุดท้าย รัฐบาลก็ยอมถอย ประกาศจะฉีดแบบผสม เป็นรายแรกของโลกที่
!!

ล่วงเลยกลางปี ผ่านไป ปริมาณคนติดเชื้อต่อวัน สูงเป็นหลักหมื่นและขึ้นมาวันละ 2 หมื่น มีคนนอนตายตามถนน ในบ้าน อย่างสิ้นหวัง เพราะรอเตียง รพ.เริ่มล้น รับมือไม่ไหว ไม่ทัน ที่สำคัญ บุคลากรทางการแพทย์ พยาบาล แม้ว่าจะฉีดวัคซีนไปแล้ว เริ่มติดเชื้อไวรัส ซึ่งหมายความ วัคซีนที่ใช้ ไม่สามรถปกป้อง คุ้มครองการติดเชื้อได้ มีประชาชนบางส่วนเดินทางไปถึงอเมริกา ไปพบตัวแทน บริษัทผู้ผลิตวัคซีน ที่ถูกรับว่า มีประสิทธิภาพที่สุดในโลก อาทิ ไฟเซอร์ (Pfizer) โมเดอร์น่า ( Moderna ) จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (Johnson & Johnson ) ซึ่งประชาชนคนไทยเรียกร้องต้องการมาก โดยเฉพาะไฟเซอร์ แต่รัฐบาลอ้างว่า ไม่มีเงิน และเรามีวัคซีนของเราแล้ว แต่รัฐบาล กลับแถลงข่าว จะจัดซื้อ “เรือดำน้ำ” เพิ่ม จุดไฟความโกรธแค้นกับประชาชนออกมากระหน่ำด่าอย่างบ้าคลั่ง !!

 จนอเมริกายินยอมบริจาคมา 1.5 ล้านโดส เพื่อไปฉีดชาวอเมริกันที่อยู่ในไทย และคนไทยที่ป่วย ชรา รวมถึง บุคลากรด่านหน้า อาทิ แพทย์ พยาบาล ปรากฏว่า มีมือดีพยายามแทรกแซง ยึดเอาไป รวมถึง การฮั้วผลประโยชน์ โดยให้สภากาชาด นำวัคซีนมาจำหน่าย ท่ามกลางสถานการณ์ ที่รัฐบาลก็ยังเพิกเฉย ข่าวประสิทธิภาพวัคซีน ต่างๆ ก็ทยอยรับรู้ และที่สำคัญ จีนประกาศฉีด ไฟเซอร์ ให้ประชาชน เป็นเข็มที่ 3

ถึงเวลานี้ คนไทยเดือดดาลเกินกำลัง คนตายพุ่ง ลุกลาม ควบคุมไม่ได้ ไม่มีหมอ  ไม่มีเตียง ไม่มีความหวัง รัฐบาลประกาศล็อคดาวน์อีก ไล่คน ตจว.กลับบ้าน คนเริ่มสิ้นความหวัง บ้างป่วยนอนตายยกครัว หลายพื้นที่ตัดสินใจ นำรถกู้ภัย รถทัวร์ รถส่วนตัว เข้ากรุงเทพฯ มาขนญาติพี่น้องที่ป่วย ที่นอนความตาย ที่ไร้หนทางอยู่รอด กลับบ้าน เพราะรัฐบาลหมดสิ้นน้ำยาแก้ไข และก็ยังดึงดัน แผนการฉีด แบบผสม คือ ซิโนแวค และ แอสตร้า เซเนกา

วันนี้  เชื้อระบาดลุกลามไปทั่วทุกหนทุกแห่ง ประชาชนทนกับความสิ้นหวังสิ้นหนทางไม่ไหว หันกลับมา ต้มข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด สูดดมรักษาไปตามมีตามเกิด  หันมาปั่นน้ำกระชาย กินฟ้าทะลายโจร เพียงเพื่อให้มีความหวัง การอยู่รอด สะท้อนความล้มเหลวของระบบสาธารณสุข ที่บริหารโดย รัฐบาล นายประยุทธ จันทร์โอชา   

 

ใครจะคิดว่า เมืองหลวง เมืองฟ้าเมืองอมร เมืองแห่งเทพเทวดา นามว่า “กรุงเทพ” จะกลายเป็นป่าช้า เป็นดินแดนที่หมดสิ้นอารยธรรมชาวเมือง เมื่อประชาชนนอนตายไร้คนเหลียวแลกลางเมืองหลวง หน่ำมิซ้ำกลับถูก นักการเมืองออกมาวิจารณ์ว่า “จัดฉากตาย!!!

 วันนี้ ทุกหมู่บ้าน พ่อแม่พี่น้อง ต่างตระเตรียมสถานที่กักตัว รับมือกันตามกรรมตามเวร  และวันนี้ วัคซีนก็ยังมาไม่ถึงประชาชน ไม่ว่าจะซีโนแวค แอสตร้า หรือ ไฟเซอร์  ท่ามกลางความสั่นคลอน ต่อความเชื่อในประสิทธิภาพของวัคซีน ที่ชื่อ ซิโนแวค
!!

และท่ามกลางความวิกฤติศรัทธาต่อรัฐบาล ตอนนี้เหลือแค่เส้นด้ายแห่งความอดทนที่ประชาชนคนไทยจะตัดสินใจ ซะที....

Contact Information

  • : มูลนิธิกองทุนไทย Thai Fund Foundation 2044/23 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ บางกะปิ ห้วยขวาง กรุงเทพ 10310
  • : webmaster@thaingo.org
  • : 082 178 3849
  • : www.thaingo.in.th

Thai NGO

ข่าวสารสังคมนอกสื่อกระแสหลัก ข่าวสารความเคลื่อนไหว เกี่ยวกับเอ็นจีโอ ข่าวกิจกรรมเพื่อสังคม งานสัมนา สมัครงานเอ็นจีโอ ร้องเรียน แจ้งข่าว…ประนามประจาน !! ที่ได้รับความทุกข์ร้อนไม่เป็นธรรม