ผลท่อแก๊สระเบิด:คนจะนะ-หาดใหญ่กังวล

5606 07 Nov 2020

( ขอบคุณภาพ จาก : https://www.thailandstack.com ) 

อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ) 

Shukur2003@yahoo.co.uk 

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขแด่

จากเหตุการณ์ ท่อแก๊สระเบิดในพื้นที่ ต.เปร็ง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ประมาณเวลา 13.00 น. ของวันนี้ (22 ต.ค.) และมีเปลงเพลิงพวยพุ่งขึ้นไปในอากาศ จนสามารถเห็นได้ไกลอย่างน้อยหลายสิบกิโลเมตร ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 20 คน เสียชีวิตแล้ว 3 ราย

 

ในโลกโซเชี่ยล ไม่ว่า เพจเฟซบุ๊ก twitters และอื่นๆ มีทั้งภาพ คลิป บทสัมภาษณ์ รายงานข่าวจากสำนักข่าวต่างๆแสดงให้เห็นความเสียหายในพื้นที่โดยรอบ บ้านเรือน อาคารต่างๆ ถูกเปลวเพลิงไหม้จนไม่เหลือเค้าเดิม ไม่นับรวมความเสียหายด้านจิตใจที่ไม่สามารถประเมินได้ 

ในขณะที่สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนเผยว่าชาวบ้านบางบ่อใกล้แนวท่อก๊าซ ปตท.ยังนอนผวาส่วน ปตท. ประกาศพร้อมเยียวยารับผิดชอบผู้ได้ผลกระทบจากเหตุการณ์ท่อส่งแก๊สระเบิด ทั้งหมด

ใช่ในความรับผิดชอบต่อความเสียหายทางแพ่งนั้น เป็นหน้าที่ของปตท.จะปฏิเสธความรับผิดชอบไปไม่ได้ แต่ทว่าในความรับผิดชอบทางอาญานั้น ดูเหมือนหน่วยงานรัฐต่างๆที่เกี่ยวข้องทั้งทางฝ่ายปกครองของจังหวัดสมุทรปราการ กรมธุรกิจพลังงาน ยันกรมควบคุมมลพิษ มิได้กล่าวถึงหรือมีความพยายามที่จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายแต่อย่างใด โดยเฉพาะการปล่อยให้พนักงานเจ้าหน้าที่ของ ปตท.เข้าไปสอบสวนหาเหตุที่เกิดขึ้นพร้อมเจ้าหน้าที่ กองพิสูจน์หลักฐาน พร้อมหน่วยกู้ภัยต่างๆและกองทัพสื่อมวลชน ซึ่งกว่าจะกันพื้นที่ให้เป็นเขตหวงห้ามก็ทำให้หลักฐานบางอย่างหมดไปได้

ศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน

ชี้ ว่า “เหตุท่อก๊าซระเบิดต้องเอาผิดอาญาผู้บริหารธุรกิจก๊าซ ปตท.-กก.สิ่งแวดล้อมแห่งชาติด้วย”โดยเหตุผลว่า

“เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตด้วย ซึ่งเป็นเหตุทางอาญา ตาม ปอ.291 ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องจะต้องเก็บรวมรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุมาประกอบสำนวนในการเอาผิดผู้บริหารหน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ด้วย 

 กรณีที่เกิดขึ้น เป็นผลพิสูจน์โดยประจักษ์ที่ภาคประชาชนและเอ็นจีโอ เคยชุมนุมประท้วงการวางท่อก๊าซของ ปตท.ในหลายๆเส้นทางที่รอนสิทธิ์ประชาชนมาโดยตลอดว่า อาจสร้างความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่อยู่ตามแนวท่อก๊าซได้ แต่ ปตท.ก็ปฏิเสธมาโดยตลอดว่าตั้งแต่เริ่มมีการวางท่อก๊าซมาตั้งแต่ปี 2524 จนถึงปัจจุบันเกือบ 40 ปีมานี้ไม่เคยเกิดเหตุถึงขั้นทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตโดยอุบัติเหตุ แต่ครั้งนี้ถือเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นเด่นชัดว่าข้อกังวลที่ชาวบ้านและเอ็นจีโอท้วงติงจนนำไปสู่การฟ้องร้องเป็นคดีต่อศาลมากมายมาโดยตลอดนั้นเกิดขึ้นจริงได้ และที่สำคัญหน่วยงานและคณะกรรมการ คชก. และคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่เห็นชอบ EIA โครงการท่อก๊าซที่ส่วนใหญ่อยู่ใต้โครงข่ายสายไฟฟ้าแรงสูงของ กฟผ.นั้นถือเป็นความเสี่ยงที่อันตรายยิ่งทั่วประเทศ แต่ผู้ที่เห็นชอบ EIA จะสำนึกผิดและจะถ่ายบาปกับสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้อย่างไร และหน่วยงานรัฐจะใช้ ม.96-97 แห่ง พรบ.สิ่งแวดล้อม 2535 ฟ้อง ปตท.เป็นคดีสิ่งแวดล้อมหรือไม่ อย่างไรต้องติดตามกันต่อไป”

ด้วยเหตุผลเหล่านี้ทำให้คนจะนะ - หาดใหญ่รู้สึกกังวลกลัวเหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นกับพวกเขา?เพราะพื้นที่อำเภอจะนะจังหวัดสงขลาอันเป็นแหล่งที่ตั้งโรงแยกเเก๊ส บริษัททรานส์ ไทย-มาเลเซีย (ประเทศไทย) จํากัด ซึ่งมีการต่อท่อส่งก๊าซผ่านหลายอำเภอไม่ว่าจะนะ นาหม่อม หาดใหญ่และสะเดา จังหวัดสงขลา

 

เช่นคนจะนะ คนหนึ่งซึ่งเคยคัดค้านโครงการโรงแยกแก๊สจะนะเมื่อหลายสิบปีก่อน(ขอสงวนนาม)ให้ทัศนะว่า “ท่อก๊าซระเบิดทั้งที่ปตท.เคยบอกว่า หากท่อรั่วปุ๊บวาล์วปิดปั๊บ พิสูจน์ด้วย 3 ชีวิตและแผลใจนับไม่ถ้วน ย้อนดูท่อก๊าซผ่านชุมชนจะนะด้วยใจระทึก” “เอาระเบิดมาใว้ในบ้านตัวเองสงสารลูกหลาน?” “เราไม่มั่นใจระบบรักษาความปลอดภัยของบริษัท จากระเบิดที่ส่วนกลาง...เห็นว่าบริษัทมีแต่แผนฯ..เผชิญเหตุมีแต่กระดาษ....แต่ไม่มีคน...ไม่มีอุปกรณ์...ไม่มีการซ้อมแผนอย่างจริงจัง...ไม่มีระบบอะไรเลย? ถ้าเกิดการระเบิด...รัศมีทำลายล้างประมาณ 3 กม...คนตำบลสะกอม..ตลิ่งชัน..บ้านนาของอำเภอจะนะ..มีความเสี่ยง จะนอนหลับ?

ลามไปถึงคำว่า “จะนะ..เมืองต้นแบบ

อุตสากรรมก้าวหน้าแห่งอนาคตจะเอากันอีก?”

หรือแม้กระทั่งคนหาดใหญ่ ตั้งข้อสังเกตว่า “ถ้าหาดใหญ่ ความเสียหายน่าจะมากมิสามารถคำนวณได้เพราะหาดใหญ่เป็นเมืองใหญ่ผู้คนมากมาย ศูนย์รวมเศรษฐกิจ แม้ท่อแก๊สจะอยู่นอกเทศบาลเมืองหาดใหญ่อย่าลืมว่าวัตถุไวไฟจำนวนมากอาจไปถึง ความโกลาหลน่าจะวุ่นวาย “

    นายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ให้ทัศนะว่า “

 

ในจังหวัดสงขลาเองก็มีท่อส่งก๊าซในลักษณะเดียวกัน คือท่อส่งก๊าซไทย-มาเลเซีย ซึ่งเริ่มต้นที่โรงแยกก๊าซจะนะผ่านอำเภอจะนะ นาหม่อม หาดใหญ่และสะเดา เข้าสู่ประเทศมาเลเซีย

บทเรียนสำคัญของท่อส่งก๊าซหรือโรงงานที่มีความไวไฟและเสี่ยงต่อการระเบิดหรือรั่วไหลคือการบำรุงรักษาและตรวจสอบระบบ  รวมทั้งการเปลี่ยนอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนต่างๆตามรอบระยะเวลาโดยไม่ต้องรอให้เสียแล้วจึงมาซ่อมแซม  คำถามใหญ่ที่สุดจึงอยู่ที่ว่า  ท่อส่งก๊าซเหล่านั้นหรือโรงงานเหล่านั้นมีการซ่อมบำรุงและการเปลี่ยนชิ้นส่วนอุปกรณ์ตามระยะเวลาที่กำหนดหรือไม่ ทำครบถ้วนหรือไม่ และมีการรายงานให้กับตัวแทนของชุมชนรับรู้หรือไม่  ซึ่งแน่นอนว่า การรายงานผลการตรวจซ่อมบำรุงรักษาด้วยคำศัพท์ทางวิศวกรรมนั้น ย่อมไม่แปลกที่ชาวบ้านในพื้นที่จะเข้าจได้ไม่ลึกซึ้ง การมีนักวิชาการในสถันการศึกษาที่ชาวบ้านเชื่อใจและมั่นใจมาร่วมฟังและวิเคราะห์ตามนั้นก็มีความสำคัญมาก  ทั้งนี้ก็เพื่อให้เกิดการดำเนินมาตรการเชิงป้องกันอย่างจริงจัง และเป็นต้นทุนที่ผู้ประกอบการต้องยอมจ่าย

หากรั่ว ไฟไหม้ หรือระเบิดด้วยเหตุสุดวิสัยก็ประเด็นหนึ่ง แต่หากเป็นเพราะขาดการบำรุงรักษา เพื่อลดต้นทุนของผู้ประกอบการ ก็ควรที่จะมีการปรับหรือบังคับเยียวยาในมูลค่าที่สูงมากๆ  และอาจหมายรวมถึงการมีความผิดทางอาญาด้วย เพื่อให้ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญกับการบำรุงรักษาอย่างจริงจัง”

จากเหตุผลข้างต้นพบว่า

“กระบวนการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างมีส่วนร่วม”คือโจทย์ใหญ่(ไม่ใช่เฉพาะจะนะแต่ทั่วประเทศ)

 

การเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เมื่อดำเนินโครงการไปแล้วอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องถือเป็นอีกองค์ประกอบสำคัญที่ควรมีในพื้นที่ดำเนินโครงการ เนื่องจากมีผลข้างเคียงที่ไม่พึงปรารถนาเกิดขึ้นได้ในเวลาใดเวลาหนึ่งเช่นการระเบิดครั้งนี้

 

ควรมีการจัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังขึ้น สามารถแจ้งได้ตั้งแต่สัญญาณเตือนภัย และผลกระทบต่างๆ

 

ในระยะเร่งด่วนจึงฝากบริษัททรานส์ไทย-มาเลเซีย และรัฐออกมาแถลงความมั่นใจต่อเรื่องนี้แก่ประชาชน นอกจากนี้ควรเอาเรื่องนี้ไปอยู่ในกิจกรรมการมีส่วนร่วมในการป้องกัน และลดอุบัติภัยโดยการให้ความรู้ความเข้าใจและแนวทางปฏิบัติในกรณี เกิดเหตุฉุกเฉิน อุบัติเหตุและอุบัติภัย โดยการอบรมฯ การฝึกซ้อมฯ การตรวจตราฯ การแจ้งเหตุและอื่นๆ

ตามมาตรฐานสากลพร้อมทั้งควรติดตั้งป้ายเตือนขนาดใหญ่ให้เห็นชัด ๆ ในอนาคตควรเลิกแนวคิดที่จะวางท่อก๊าซและสายไฟฟ้าแรงสูงผ่านหรือใกล้ชุมชน

หมายเหตุ

สำหรับบริษัททรานส์ ไทย-มาเลเซีย (ประเทศไทย) จํากัดศึกษาเพิ่มเติมใน

https://www.ttm-jda.com/content/aboutus

Contact Information

  • : มูลนิธิกองทุนไทย Thai Fund Foundation 2044/23 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ บางกะปิ ห้วยขวาง กรุงเทพ 10310
  • : webmaster@thaingo.org
  • : 082 178 3849
  • : www.thaingo.in.th

Thai NGO

ข่าวสารสังคมนอกสื่อกระแสหลัก ข่าวสารความเคลื่อนไหว เกี่ยวกับเอ็นจีโอ ข่าวกิจกรรมเพื่อสังคม งานสัมนา สมัครงานเอ็นจีโอ ร้องเรียน แจ้งข่าว…ประนามประจาน !! ที่ได้รับความทุกข์ร้อนไม่เป็นธรรม