เปิดเบื้องหลังการสังหารกำนันทองม้วน ศพที่ 4 สังเวยเหมืองหินปูนดงมะไฟ

1547 23 Sep 2020


 

          เป็นระยะเวลากว่า 38 วันแล้ว ตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม 2563 จนถึงปัจจุบัน ที่กลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได ยังคงปักหลักชุมนุมตาม 3 ข้อเรียกร้อง คือ

          (1) ปิดเหมืองแร่หินปูนและโรงโม่หิน

          (2) ฟื้นฟูภูผาป่าไม้

          (3) พัฒนาดงมะไฟเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศวัฒนธรรมและแหล่งอารยธรรมโบราณคดี

          ซึ่งภายใต้สถานการณ์การต่อสู้คัดค้านให้มีการปิดและฟื้นฟูเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน (เพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง) เนื้อที่ 175 ไร่ และโรงโม่หิน เนื้อที่อีก 50 ไร่ ตามประทานบัตรที่ 27221/15393 ของบริษัท ธ.ศิลาสิทธิ จำกัด

          ได้เกิดเหตุการณ์ผิดปกติและไม่ชอบมาพากลที่ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ฯต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่อาจนำไปสู่ความรุนแรงระลอก 3 ซึ่งสถานการณ์ความรุนแรงยังคงก่อตัวและคุกรุ่นอยู่ในพื้นที่อยู่ตลอดเวลา โดยกำลังไต่ระดับความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จากการข่มขู่คุกคามสู่การล็อกเป้าหมายสมาชิกกลุ่มอนุรักษ์ฯ ที่มีบทบาทสำคัญในการคัดค้านการทำเหมืองหินปูนและโรงโม่หิน เพื่อหวังหยุดกระบวนการเคลื่อนไหวคัดค้านต่าง ๆ ให้สิ้นสุดลง

          หากสืบสาวย้อนกลับไปหาข้อเท็จจริงเมื่อปี 2542 จากกรณีการลอบยิงกำนันทองม้วน คำแจ่ม แกนนำคัดค้านเหมืองหินปูนบน ‘ภูผาฮวก’ และนายสม หอมพรมมา เพื่อนคนสนิท นั้น ชาวบ้านในพื้นที่เล่าว่า วันที่ 22 เมษายน 2542 ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ กำนันทองม้วนได้รับโทรศัพท์ติดต่อมาจากนายอ่อน (นามสมมติ) เพื่อนสนิท ที่อาศัยอยู่บ้านโนนสง่าและเป็นสมาชิก อบต.ดงมะไฟ อยู่ในขณะนั้น บอกให้เดินทางไปหาตนเองที่ทุ่งนาบ้านวังหินซา เพราะมีเรื่องเกี่ยวกับโรงโม่หินจะคุยด้วย และอยากให้ไปเคลียร์ปัญหา

          ทำให้กำนันทองม้วนเดินทางออกไปพบนายอ่อน โดยได้พานางสอน คำแจ่ม ภรรยา เดินทางไปเป็นเพื่อนด้วย โดยระหว่างทางนายอ่อนได้มายืนดักรออยู่ที่สี่แยกบ้านวังหินซา ซึ่งได้บอกว่า ให้ไปพานายสมมาแทนภรรยาและให้ไปเจอกันที่ร้านอาหารบ้านหนองเหลือง ต.กุดผึ้ง แทน

          ซึ่งกำนันทองม้วนได้ทำตามนายอ่อนด้วยความไว้ใจเพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนกันมานาน โดยได้พาภรรยากลับไปส่งไว้ที่บ้าน และได้ไปรับนายสม พร้อมขับจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันออกไปยังสถานที่นัดพบกันกับนายอ่อนที่ร้านอาหารบ้านหนองเหลืองด้วยกัน โดยเวลาประมาณ 14.00 น. เมื่อกำนันทองม้วนและนายสมเดินทางไปถึงร้านอาหารดังกล่าว ก็เกิดเหตุอุกอาจยิงสังหารกำนันทองม้วนและนายสมขึ้นกลางวันแสก ๆ พร้อมกับประจักษ์พยานในร้านอาหารที่เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย

          คำถามตลอด 22 ปีที่ผ่านมา คือ ใครเป็นตัวบงการสั่งฆ่ากำนันทองม้วน คำแจ่ม และนายสม หอมพรมมา?

          จากการสืบเสาะหาข้อมูลข้อเท็จจริงในพื้นที่นำมาปะติดปะต่อกัน พบว่า มือปืนที่ลงมือสังหารกำนันทองม้วน คำแจ่ม และนายสม หอมพรมมา อาจเป็นอดีตสหายพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) โดยเคลื่อนไหวในพื้นที่เขตงานภูซาง ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่ตำบลดงมะไฟ อำเภอสุวรรณคูหา และเป็นคนบ้านเดียวกันกับนายประคอง (นามสมมติ)

          โดยนายอ่อนเพื่อนของกำนันทองม้วน ซึ่งเป็นคนโทรศัพท์ลวงกำนันทองม้วนกับนายสมออกไปให้มือสังหารลงมือยิงนั้น เดิมเคยเป็นสมาชิก อบต.ดงมะไฟ รุ่นแรก โดยมีความสนิทสนมกับนายประคอง อดีตกำนันตำบลดงมะไฟ เพราะเคยลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบต.ดงมะไฟ รุ่นแรก เช่นกัน ทั้งยังเป็นคนบ้านวังหินซา หมู่ 9 เหมือนกัน ซึ่งในขณะนั้นนายประคองถือเป็นผู้มีอิทธิพลหลักที่หนุนเหมืองหินปูน โดยเป็นตัวตั้งตัวตีชักชวนเพื่อนฝูงเข้าไปหาเสี่ยไฮ้ หรือนายธีรสิทธิ์ ตรีวัฒน์สุวรรณ เพื่อต่อรองผลประโยชน์เปิดทางให้บริษัทมาขอสัมปทานทำเหมืองหินปูนบน ‘ภูผายา’ แต่ทว่าเกิดการคัดค้านอย่างหนักจากชาวบ้านในพื้นที่จนต้องเบนเข็มเปลี่ยนเป้าหมายมาขอสัมปทานทำเหมืองหินปูนบน ‘ภูผาฮวก’

          ซึ่งในขณะเดียวกันนั้น นายจวง (นามสมมติ) แกนนำชาวบ้านคัดค้านเหมืองหินปูนและโรงโม่หิน ซึ่งอาศัยอยู่หมู่บ้านเดียวกันกับนายประคอง เคยมีความขัดแย้งกับนายประคองจากการเป็นหัวคะแนนเลือกตั้งท้องถิ่นคนละฝ่าย ได้ใช้ประโยชน์จากการเป็นแกนนำต่อรองรับผลประโยชน์ลับหลังชาวบ้าน โดยรับเงินจากเสี่ยไฮ้หยุดการเคลื่อนไหวคัดค้านเหมืองหินปูน ทั้งยังมีการฉ้อโกงเงินชาวบ้านในการทำโครงการพัฒนาหมู่บ้านต่าง ๆ มากมาย

          ซึ่งนายจวงและนายประคองได้มาสนิทสนมกับมากขึ้นเรื่อย ๆ จากการที่ต่างฝ่ายต่างก็วิ่งเข้าหาผลประโยชน์จากเสี่ยไฮ้เช่นกัน โดยฝ่ายหนึ่งออกมาคัดค้านหวังต่อรองค่าตัวให้สูงขึ้น และอีกฝ่ายหนึ่งที่พยายามผลักดันให้เกิดการทำเหมืองหินปูนและโรงโม่หินในพื้นที่ตำบลดงมะไฟด้วยวิธีการฉ้อฉลต่าง ๆ ดังเช่นสำนวนที่ว่า ‘ฝนตกขี้หมูไหล...’

          จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2542 นั้น จะเห็นได้ว่า กลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังการลอบยิงนักต่อสู้คัดค้านเหมืองหินกับสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เป็นกลุ่มคนเดียวกันกับเมื่อปี 2538 และปี 2542 อย่างแน่นอน โดยเป็นฝีมือของแกนนำหนุนเหมืองหินปูนและโรงโม่หินที่ยังมีชีวิตอยู่และยังอาศัยอยู่ในพื้นที่ตำบลดงมะไฟอย่างเห็นได้ชัด

          ซึ่งบุคคลเหล่านี้เป็นตัวบงการสำคัญที่คอยปฏิบัติการข่มขู่คุกคามชาวบ้านคัดค้านเหมืองหินปูนและโรงโม่หินอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งยังส่งลูกสมุนในสังกัดมายุยง ปลุกปั่น และสร้างสถานการณ์ให้ชาวบ้านเกิดความหวาดกลัวและหวั่นเกรงต่อภัยอันตรายในการออกมาคัดค้านเหมืองหินปูนและโรงโม่หินอยู่เนือง ๆ จนนำไปสู่การ ล็อกเป้าไปที่ NGO ต้านเหมืองที่สนับสนุนชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ฯปิดและฟื้นฟูเหมืองหินปูนและโรงโม่หินในครั้งนี้

Contact Information

  • : มูลนิธิกองทุนไทย Thai Fund Foundation 2044/23 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ บางกะปิ ห้วยขวาง กรุงเทพ 10310
  • : webmaster@thaingo.org
  • : 082 178 3849
  • : www.thaingo.in.th

Thai NGO

ข่าวสารสังคมนอกสื่อกระแสหลัก ข่าวสารความเคลื่อนไหว เกี่ยวกับเอ็นจีโอ ข่าวกิจกรรมเพื่อสังคม งานสัมนา สมัครงานเอ็นจีโอ ร้องเรียน แจ้งข่าว…ประนามประจาน !! ที่ได้รับความทุกข์ร้อนไม่เป็นธรรม