โชคชะตาสุราแช่ 3 ตอน ความเป็นอื่นและภาวะชายขอบแห่งอารยธรรมเมรัย

1935 13 Jul 2020

โชคชะตาสุราแช่ 3

ตอน ความเป็นอื่นและภาวะชายขอบแห่งอารยธรรมเมรัย

.

ความสุขที่ก่อเกิด สะสม มาจากการได้ทำตามความเชื่อนั้น มันเป็นความสุขเพียวๆ ล้วนๆ แบบไม่มีสิ่งใดเจือปนของคน “ขบถ” อย่างเรา เพราะการที่เราเลือกแตกต่าง เราทำแตกต่างนั้น มันต้องเจอะเจอคำถาม เจอะเจออุปสรรค ตลอดเวลา ผิดพลาดเล็กน้อย ก็โดนกระหน่ำซ้ำเติม ซึ่งจากคนอื่นนั้น ไม่เท่าไหร่ แต่โดนจากคนรอบตัว คนที่รัก นี่หนักไม่ใช่ย่อยๆ

.

ไม่มีใครหรอกตอบคำถามให้เราได้ ว่า ทำไปแล้วจะยืนได้ อยู่ได้ หรือสำเร็จไหม เรามีแค่ความระอุร้อนในใจ ความเชื่อ ความปรารถนาแรงกล้า ต้องแบบนี้ เช่นนี้ ซึ่งทั้งหมดนั้นเพราะเรารู้จักตัวเราดี เรารู้ว่าเราทำแบบไหน ทำอย่างไร เป้าหมายคืออะไร ยิ่งวันนี้ หลังจากผ่านพ้นเวลามาร่วม 10 ปี สิ่งที่ทำไป (แม้ว่ามันจะน่าขำ ดูกระท่อนกระแท่น ) เริ่มปรากฎ ต้นไม้ที่รอดเริ่มโต พื้นที่โล่งๆ เริ่มรกครื้ม มีผลผลิตหลากหลายออกมา ไร่ทวนลม ไร่อิ่มเอม เริ่มถูกรู้จักและแบรนด์ เซราะกราว ที่ชื่อ สวนซีโมนและ De Simone เริ่มถูกรู้จัก มากขึ้นๆ ความรู้สึก ต่ำต้อย ไร้ค่า ไม่มีหนทาง สิ้นโอกาส มันค่อยๆจางหายไป กลับกลายเป็น แสงสว่าง ความหวังอันมหึมา

.

จุดเปลี่ยนชีวิตผมครั้งสำคัญมี 3 เรื่อง เรื่องแรก คือการตัดสินใจไปเรียนมหาวิทยาลัยรามคำแหง แล้วไปทำกิจกรรมค่ายอาสาฯ ที่นั่นหล่อหลอม เรื่องการอ่านหนังสือนอกตำรา หล่อหลอมให้ตั้งคำถาม รู้จักมีความเชื่อความศรัทธา และผลักดันให้กล้าขบถต่อสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายให้สมเหตุสมผลได้  เรื่องที่สอง คือการเข้ามาทำงานพัฒนาอกชน ( NGOs) ที่นี่สอนให้ผมมีความเห็นอกเห็นใจในความเป็นมนุษย์  ในความหวงแหนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ในการความกล้าหาญที่จะทำเพื่อปกป้องคนที่อ่อนแอ และถูกกระทำ คนชายขอบและที่ถูกทำให้เป็นอื่น ไม่มีความหมาย ไม่มีตัวตน คนที่ถูกตีตราจากวัฒนธรรมอำนาจ เรื่องที่สาม คือผมทะเยอทะยานไปเรียนต่อปริญญาโท ทำให้ผมพบตัวเอง นี่ไม่ใช่หนทางที่ปรารถนา ไม่ใช่ชีวิตที่อยากเลือก ความล้มเหลวเรื่องการเรียนทำให้พบคำตอบใหม่ ว่า เรานั้นเหมาะที่จะอยู่ในที่ห่างไกล ห่างผู้คน  ในไร่ ในสวน ในป่า และทำงานหนัก เพื่อระบาย ปลดปล่อยพลังแต่ละวัน  และหลับสนิทในค่ำคืน

.

มีหลายคน ชื่นชมว่าผมขยัน จริงๆ ไม่ใช่เลย ในทุกวันๆ ผมต้องออกไป เดิน ไปโหมแรง ทำอะไรก็ได้ ส่วนใหญ่ไม่เป็นงานทื่ทำให้พืช ผล งอกงาม แต่ทำให้พลังงานในตัวมันถูกปลดปล่อย ทำให้สภาวะในความคิดมันถูกข้ามพ้น ผ่าน ทำให้จิตว่าง บางเบา และสบาย การสนใจสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ใหม่ๆ ในทุกๆวัน มันทำให้ผมตื่นตัวตื่นเต้น ก็เท่านั้น

 

การปลูกพืชแปลกแยกและแตกต่าง แถมหลากหลายสารพัด ไม่เหมือนคนอื่น ที่มีเพียง ยางพารา ข้าว มันสำปะหลัง ยูคาร์ลิปตัส และอ้อย ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ทำให้ชีวิตผมแต่ละวัน มีแต่เรื่องตื่นเต้น มีการบ้านให้คิด ให้ทำ เยอะมาก ทำให้จิตใจไม่หว้าวุ่น โดดเดี่ยว ไม่เหงา แต่ก็ค่อนไปในทางหมกมุ่นคนเดียว เพราะจมอยู่ในห้วงคิด ตลอดเวลา ยิ่งมาทำแบรนด์ สินค้า ที่บ้านนอกอีก ยิ่งมากเรื่อง ให้ขบคิด ทำการบ้าน วางแผนงาน การตลาด การผลิต การดำเนินการ ประสานงาน โฆษณา บริหาร บัญชี และระดมทุน

 

สินค้าที่ผมทำทั้งหมด กลุ่มผู้บริโภคหลักๆ เป็นคนเมือง ยึดเมืองได้ ก็ยึดชนบทได้ เพราะคนชนบทมีวิถีวัฒนธรรมแบบอาณานิคม อยู่ภายใต้ทุกอย่าง ภายใต้รสนิยมของคนเมือง เพราะเมืองคือความทันสมัย คือความศิวิไล คนชนบท ไม่กล้าหาญพอที่จะ ปลดปล่อยตัวเองให้อิสระ จากทุกอย่าง ดังนั้น คนเมืองใช้ กิน ดื่ม ทา สวมใส่ อะไร คนชนบทก็มักเห่อเหิมตาม ในขณะที่คนเมือง ก็ตามกระแสชนชั้นนำ เหมือนกัน

.

หนทางที่กำลังผมพอทำได้ เพราะต้องเจียดพลังทำหลายอย่าง ไร่ นา ป่า สวน งาน NGOs ซึ่งดูแลเว็บไซต์ เล็กๆ ชื่อ ThaiNGO.org ด้วย ดังนั้น กำลังที่ผมพอทำได้จึง น้อยนิดและจำกัด สำหรับการผลักดันให้ สินค้าในแบรนด์ สวนซีโมนและ ไวน์ De Simone ถูกรู้จัก การออกร้าน หรือ ออกบูธ ก็จะสมหวังบ้าง หากผู้จัดงาน ประชาสัมพันธ์ถึง เจาะกลุ่มเป้าหมายได้ เพราะคนที่เปิดใจรับ สนับสนุนสินค้าบ้านนอก เป็นคนกลุ่มเล็กๆ เช่น เป็นคนที่สนใจสนับสนุนผลิตภัณฑ์ชาวบ้าน เป็นคนที่แสวงหาอะไรใหม่ๆ เป็นคนที่ชอบความดั้งเดิม ธรรมชาติหรือจุดกำเนิด (Original) และเป็นคนที่ไม่มีอะไร ไม่ยึดติด ไม่มีมาตรฐานในตัวเอง ซึ่งทั้งหมดคือคนกลุ่มน้อยมาก นั่นหมายความว่า สินค้าแบรนด์บ้านนอก ไม่ได้ขายได้ง่ายๆ การไปออกบูธ ในกรุงเทพฯ ในห้างใหญ่ ในแหล่งกลุ่มผู้มีอันจะกิน ชนชั้นสูง บางครั้ง ก็เหมือนไปประจานตัวเอง ไปเห็นความจริง อันเจ็บปวด

.

เราเป็นสินค้าแปลกหน้า น่าขำ “นี่อะไร ?”  หลายคนมักถาม เวลาไปออกร้าน

 

wine ครับ..”   ผมตอบ

wine อะไร ?..”  หลายคนสงสัย 

“ไวน์มะขามป้อม ไวน์ลูกจัน ไวน์ตะเปียงจูครับ”   ผมตอบ ขณะที่คนถามยิ้มและวางสินค้า ก่อนจะเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

.

ทิ้งให้ผมได้แต่ติดตรึงกับดวงตาที่มองมาที่ผม มันเป็นแววตาที่เขารู้สึกอยากขำ ส่วนผมนะหรือ ผมตอบออกไปอย่างภาคภูมิใจ ทุกครั้ง ที่ได้ออกมายืนเผชิญหน้ากับโลกภายนอกและพูดประโยคนี้  เหมือนอยากบอกว่า “ผลไม้บ้านเราทำไวน์ได้ รสชาติอร่อย มีเอกลักษณ์ด้วยนะ ครับ”  แต่น้อยคนมาก ที่อยากรู้ สิ่งที่ผมอยากบอกนี้

 

"มะม่วงทำไวน์ ไดด้วยหรอ  ?.."  หลายมีความสงสัยแม้กระทั่งมะม่วง ผมย้อนนึก ทำไมประเทศนี้ หรือระบบการศึกษา ไม่ทำให้คนมีความพื้นฐานที่ถูกต้อง ทำไมเราปล่อยให้คน อยู่ภายใต้อาณานิคมความรู้ของคนอื่น มายาวนาน

.

การไปออกร้านในเมืองใหญ่ และยืนรอใครสักคนถาม ไม่ใช่ถามว่า “มีไวน์องุ่นไหม ?”  แล้วก็เดินจากไปเมื่อผมตอบ แต่ถามว่า “มันรสชาติเป็นยังไง ?”  หรือ “เอาผลไม้ชนิดนี้มาทำได้ด้วยหรือ ?” หรือ “ทำไมถึงคิดมาทำไวน์ ?”   (หมายถึงไวน์บ้านนอก ใครจะกิน เพราะคอไวน์ส่วนมากเป็นกลุ่มคนชนชั้นนำ ที่ดื่ม หรือ ชนชั้นกลางที่พยายามจะลอกเลียนยกฐานะเป็นชนชั้นนำ) ฯลฯ  ผมทำ เพราะผมอยากตอบ ผมอยากเล่าย้อน โยงไปตั้งแต่ผืนป่าธรรมชาติ อากาศ ดิน น้ำ ลม และวิถีชีวิตเกษตรกร และการปลดปล่อยตัวเองจากการอยู่ภายใต้อาณานิคมทางวัฒนธรรม จากการถูกปลูกฝัง จากการเป็นทาสค่านิยมที่คนอื่นกำหนด ฯลฯ 

.

การปลูกต้นไม้ปลูกป่า ทำให้ผมกลายเป็นอื่นในสังคมเกษตรกรรมชนบท และการทำสินค้าทำแบรนด์ ทำแยม ทำ Wine ก็ทำให้ผมกลายเป็นอื่น ในกระแสรสนิยมของผู้บริโภคในประเทศนี้

.

 “เกษตรกรทำไวน์..”  ซึ่งเป็นเครื่องดื่มของชนชั้นนำ ที่ดื่มตั้งแต่ขวดหลักพันไปจนหลักหมื่นหลักแสน แต่ไวน์ De Simone ราคา 300 บาท ถูกมาก!! 

"ส่วนมากไม่ดื่มไวน์บ้านๆ เกษตรกรทำเพราะเทคโนโลยีไม่ถึง อารยธรรมไม่ใช่"

 

นักดื่มไวน์ เกือบทั้งหมดยอมรับความแพง มีแบบแผนของรสชาติ นั่นเพราะตกอยู่ภายใต้อาณานิคมของความรู้ แบบไวน์ตะวันตก ประเทศนี้ และชนชั้นนำในประเทศนี้ พยายามจะเดิมตามหรือแตกต่างจากคนไทยส่วนใหญ่ด้วยการเข้าใจองค์ความรู้ และการปฏิบัติตามอารยธรรมตะวันตก ฉะนั้น  ว่าไวน์ต้องทำจากองุ่นพันธุ์นั้นเท่านั้น ต้องบ่มแบบนี้ บรรจุแบบนั้น รินแบบนี้ แกว่งอย่างนี้ กลิ่น สีและรสชาติต้องประมาณนี้ และกินด้วยแก้วทรงนั้น กินเมนูแบบโน้น ฯลฯ ดังนั้น  ความแตกต่าง จากนี้ ความนอกบรรทัดฐานนี้ คือ ความเป็นอื่น คือความไม่ีอารยธรรม หล้าสมัย ไม่เจริญ หรือ บ้านนอก เป็นสิ่งที่ไม่ใช่ เป็นสิ่งที่ไร้ค่า ไม่มีรสนิยม เฉกเช่น ผู้เป็นเจ้าของอารยธรรม มันเหมือนกับการกดทับกัน เป็นชั้นๆ

.

กระนั้น ที่พูดมาทั้งหมด ผมรู้มาก่อน ผมเข้าใจได้ เพราะก่อนจะลงมือทำในสิ่งที่เรียกว่า Wine ผมรู้อยู่แล้ว ว่า “ใครว่ะ จะมาดื่มไวน์บ้านนอกของกู ?”   แต่ผมสนุก ผมอยากลอง อยากท้าทาย มันคือการปฏิวัตทางอารยธรรม (ที่ผมเรียกอย่างเท่ห์ ๆ เวลาเมามาย)

.

ผมอยากย้อนแย้งหยอกเย้าคนไทย ให้เห็นแง่มุมคนคิดต่าง  อยากรู้ว่าจะมีสักกี่คนที่ กล้าหาญสร้างอารยธรรมการดื่มเมรัยให้ตนเอง กล้าที่จะเชื่อในสิ่งที่ตนเองชอบ และกล้าที่จะประกาศถึงความอิสระทางวัฒนธรรมเมรัย!!  

.

แต่ความสนุกของผมดับวูบ ฉับพลันเมื่อ รัฐ กลายเป็นเครื่องมือสนองความใคร่ทางศีลธรรมของขบวนการกดขี่ตีตราเพราะคลั่งสุขภาพอย่าง สสส.และกลุ่มเครือข่าย พวกใคร่ทางศีลธรรมที่โง่พอจะทำตัวเป็นกลไกกลุ่มทุนสุราเมรัย ในประเทศนี้  และเมื่อรัฐ กลายเป็นเครื่องมือของกลุ่มทุนสุราเมรัย ที่ผูกขาดผลประโยชน์นประเทศนี้มายาวนาน ความเจ็วปวดทั้งมวลคือ คนไทยส่วนใหญ่ คนรากหญ้าคนเล็กคนน้อย ที่อยากมีพื้นที่ทางอัตลักษณ์วัฒนธรรมการดื่มให้ตนเอง

.

ไม่มีรัฐใดๆ ชั่วช้ากว่านี้แล้ว เพราะการที่ รัฐ ไม่สนับสนุนโอกาสให้เกษตรกร คนเล็ก คนน้อย สร้างเศรษฐกิจให้ตัวเอง สร้างงาน สร้างเงิน สร้างคน สร้างทุนเพื่อความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจสำหรับคนจน คนรากหญ้า เกษตรกร นั้น เป็นรัฐที่ชั่ว ไร้สติปัญญา เอนเอียง ฝักใฝ่ แล้วกระทำต่อประชาชน เพราะเศรษฐกิจของประชาชนโดยยรวมคือ โอกาสทางภาษี คือเงินที่จะนำมาพัฒนา ความสุขมวลรวมของคนทั้งชาติ การที่รัฐ ละเลยการสนับสนุนดูแล ผลักดัน ก็ยังเข้าใจและเฝ้ารอได้ แต่วันนี้ รัฐ ได้เขียนกฎหมาย หรือ เพิกเฉยให้คนชั่วบางคน แอบแฝง เขียน ผลักดันกฎหมาย ออกมาบังคับ เข่นฆ่า สิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค และโอกาสของประชาชน ของเกษตรกรคนเล็กคนน้อย ทำให้ผลไม้พื้นถิ่นซึ่งเป็นแค่พืชชายขอบกำลังสูญพันธุ์  กลับกลายเป็นอื่น เป็นสินค้าที่ไม่มีสิทธิ บนแผ่นดินตนเอง...


ดังนั้น รัฐต้องกลับทำบทบาทใหม่ เพื่อประชาชนคนไทย จริงๆ เพื่อเศรษฐกิจของเกษตรกร และต้องเร่งรีบแก้ไขกฎหมายปีศาจเหล่านี้ โดยพลัน!!

 

โดย  เกษตรกรขบถ ไร่ทวนลม
 

Contact Information

  • : มูลนิธิกองทุนไทย Thai Fund Foundation 2044/23 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ บางกะปิ ห้วยขวาง กรุงเทพ 10310
  • : webmaster@thaingo.org
  • : 082 178 3849
  • : www.thaingo.in.th

Thai NGO

ข่าวสารสังคมนอกสื่อกระแสหลัก ข่าวสารความเคลื่อนไหว เกี่ยวกับเอ็นจีโอ ข่าวกิจกรรมเพื่อสังคม งานสัมนา สมัครงานเอ็นจีโอ ร้องเรียน แจ้งข่าว…ประนามประจาน !! ที่ได้รับความทุกข์ร้อนไม่เป็นธรรม