ชาวบ้านโคราชร้องผู้ว่าฯ  ค้านเวทีปรึกษาเบื้องต้นเหมืองแร่โปแตช  ส่อกระบวนการมิชอบด้วยกฎหมาย

1448 04 Mar 2020

วันนี้ (24 .. 63) เมื่อเวลา 15.40 . ตัวแทนชาวบ้านกลุ่มคัดค้านการขอประทานบัตรทำเหมืองแร่โปแตชหลายอำเภอในจังหวัดนครราชสีมาได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดที่ศาลากลางจังหวัด  โดยคัดค้านการจัดประชุมปรึกษาเบื้องต้นกับผู้มีส่วนได้เสียเพื่อทําเหมืองแร่โปแตช  ซึ่งอาจมีกระบวนการจัดประชุมปรึกษาเบื้องต้นโดยมิชอบด้วยกฎหมาย

.

โดยนายณรงชนนฐ์ ดีปู่ เลขานุการผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้รับหนังสือจากชาวบ้านกลุ่มผู้คัดค้านเหมืองแร่โปแตช  พร้อมทั้งกล่าวว่า วันนี้ผู้ว่าฯติดประชุม  แต่จะนำเรียนผู้ว่าฯให้ภายในวันนี้

.

สืบเนื่องจากวันที่ 22 มกราคม 2563 อุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมาโดยคณะกรรมการจัดประชุมปรึกษาเบื้องต้นกับผู้มีส่วนได้เสียของบริษัท อินเตอร์ เนชั่นแนล ปิโตรเลียม กรุ๊ป จํากัด ได้ส่งหนังสือเชิญให้ผู้มีส่วนได้เสียโครงการเหมืองแร่โปแตชในพื้นที่ประสงค์ขอประทานบัตรแปลงที่ 1 และ 2 ท้องที่ตําบลเมืองปราสาท และตําบลลําคอหงษ์  และพื้นที่ประสงค์ขอประทานบัตรแปลงที่ 3 และ 4 ท้องที่ตําบลจันอัด อําเภอโนนสูง ตําบลด่านจาก อําเภอโนนไทย ตําบลหนองไข่น้ํา ตําบลโคกสูง อําเภอเมือง  เข้าร่วมเวทีประชุมปรึกษาเบื้องต้นกับผู้มีส่วนได้เสียเพื่อทําเหมืองแร่ใต้ดิน  ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 09.30 ณ โรงแรมดิอิมพีเรียล โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ โคราช  อําเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา  ซึ่งได้จัดประชุมในวันและเวลาเดียวกันนั้น

.

ชาวบ้านกลุ่มคัดค้านเหมืองแร่โปแตชพบว่ามีข้อพิรุธและไม่ชอบมาพากลหลายจุดที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงและอาจเข้าข่ายขัดต่อบทบัญญัติตามพระราชบัญญัติแร่ พ.. 2560  และไม่เป็นไปตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การจัดประชุมปรึกษาเบื้องต้นกับผู้มีส่วนได้เสียของผู้ประสงค์จะขอประทานบัตรเหมืองใต้ดิน พ.. 2561

.

โดยชาวบ้านกลุ่มผู้คัดค้านได้ตั้งคำถามกับการจัดประชุมปรึกษาเบื้องต้นกับผู้มีส่วนได้เสียในครั้งนี้ว่าทำไมจึงมีการนัดประชุมผู้มีส่วนได้เสียจาก 2 โครงการ มาจัดประชุมร่วมในวันเวลาและสถานที่เดียวกัน  ซึ่งตามกระบวนการแล้วพื้นที่ประสงค์ขอประทานบัตรแปลงที่ 1 และ 2 มีระยะห่างจากพื้นที่ประสงค์ขอประทานบัตรแปลงที่ 3 และ 4 กว่า 5 กิโลเมตร  ซึ่งเป็นคนละโครงการและเป็นกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียคนละกลุ่มกัน  ต้องมีการจัดประชุมปรึกษาเบื้องต้นกับผู้มีส่วนได้เสียแยกออกจากกันเป็นสองเวทีด้วย  โดยไม่ควรนำมารวมกันเพื่อให้เกิดความลักลั่นในการแสดงความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียในทั้ง 2 โครงการ  ซึ่งการพยายามจัดประชุมปรึกษาเบื้องต้นฯแบบรวบทีเดียวในครั้งเดียวนั้นอาจส่อเจตนาของผู้จัดการประชุมว่าต้องการนําเสียงผู้สนับสนุนซึ่งอยู่คนละโครงการมากลบเสียงของผู้ที่ไม่เห็นด้วยอีกโครงหารหนึ่ง  จนนำไปสู่การยื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้ว่าฯให้แยกการจัดประชุมปรึกษาเบื้องต้นกับผู้มีส่วนได้เสียในพื้นที่ที่ประสงค์จะขอประทานบัตรโครงการทำเหมืองใต้ดินของบริษัทฯระหว่างแปลงที่ 1 และ 2 ออกจากแปลงที่ 3 และ 4

.

แต่ทว่าการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามประเด็นที่ร้องเรียนกลับกำหนดไว้หลังวันจัดประชุมปรึกษาเบื้องต้นฯในวันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้  ซึ่งเป็นการจงใจให้การจัดประชุมปรึกษาเบื้องต้นฯผ่านไปได้  เพื่อจะเข้าสู่ขั้นตอนต่อไปของการขอประทานบัตร  โดยไม่สนใจว่าเป็นการขอประทานบัตรโดยมิชอบ  เพราะว่าการจัดประชุมปรึกษาเบื้องต้นฯในวันดังกล่าวเป็นการรวมสองโครงการเข้าด้วยกัน  ซึ่งตามข้อกฎหมายแล้วต้องแยกออกจากกันโดยเด็ดขาด

.

ไม่เพียงเท่านั้นพฤติกรรมของผู้ประกอบการและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับการจัดประชุมปรึกษาเบื้องต้นฯกำลังทำให้การจัดประชุมซึ่งมีเจตนารมณ์โดยกว้างขวางต่อการปรึกษาเบื้องต้นกับผู้มีส่วนได้เสียซึ่งมีความเห็นอันหลากหลาย  ไม่ว่าจะสนับสนุนหรือค้านการดำเนินการขอประทานบัตรได้แสดงความเห็นโดยอิสระ  เปลี่ยนไปเป็นการประชุมเพื่อผลักดันหรือสนับสนุนโครงการโดยทางเดียว  โดยกำหนดรูปแบบ วิธีการและกระบวนการประชุมเพื่อทำให้ ผู้มีส่วนได้เสียกลายเป็น ผู้สนับสนุนเหมือง’  ทั้ง ๆ ที่นิยามความหมายของผู้มีส่วนได้เสียไม่ได้มีความหมายเท่ากับผู้สนับสนุนเหมืองแต่อย่างใด  ซึ่งไม่สอดคล้องต่อเจตนารมณ์ของกฎหมายแร่และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ  ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการประพฤติปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของข้าราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดประชุมปรึกษาเบื้องต้นฯ  โดยเอื้อประโยชน์ให้ผู้ประกอบการทำเหมืองมากจนเกินงาม

.

นอกจากนี้  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาซึ่งเป็นประธานกรรมการจัดการประชุมปรึกษาเบื้องต้นฯ  และยังเป็นประธานคณะกรรมการแร่จังหวัด  มีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาข้อร้องเรียนหรือผลกระทบจากการทำเหมืองและบริหารจัดการแร่ในจังหวัด  แต่กลับเพิกเฉยและถ่วงเวลาล่าช้าเพื่อให้การจัดประชุมปรึกษาเบื้องต้นกับผู้มีส่วนได้เสียแล้วเสร็จไปก่อน  โดยไม่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือชะลอการจัดเวทีปรึกษาเบื้องต้นฯเอาไว้ก่อนจนกว่าจะมีผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ชัดเจนออกมา  ซึ่งผู้ว่าฯในฐานะเป็นประธานกรรมการจัดการประชุมปรึกษาเบื้องต้นฯจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบสูงสุดต่อการกระทำความผิดโทษฐานที่ปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามกฎหมายอาญาแผ่นดิน

.

ทั้งนี้ในกระบวนการและขั้นตอนต่าง ๆ ในการสำรวจและการขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ใต้ดินยังพบว่า  มีการเจาะสำรวจแร่โปแตชในบางหลุมโดยไม่ได้แจ้งเจ้าของพื้นที่  และมีการแอบอ้างว่ามาดำเนินการตรวจความเค็มหรือมาเจาะหาน้ําบาดาล  และหลังจากเจาะสํารวจเสร็จแล้วได้มีการเทปูนซีเมนต์ใส่ลงไปในหลุมเจาะโดยไม่ได้มีมาตรการป้องกันอื่น ๆ แต่อย่างใด  ทําให้หลายหลุมพบว่ามีคราบเกลือขึ้นมาบริเวณปากหลุมเป็นบริเวณกว้าง  และทําให้ไม่สามารถปลูกพืชในบริเวณนั้นได้อีก  และชาวบ้านกลุ่มผู้คัดค้านยังหวั่นเกรงต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในอนาคตระยะยาว  เช่น  ปัญหาดินเค็ม  ปัญหาจากกองเกลือ  ปัญหาการแย่งชิงทรัพยากรน้ํา  หรือแม้แต่ปัญหาดินถล่ม  รวมทั้งอุตสาหกรรมต่อเนื่องจากแร่โปแตชและเกลือหินในพื้นที่

Contact Information

  • : มูลนิธิกองทุนไทย Thai Fund Foundation 2044/23 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ บางกะปิ ห้วยขวาง กรุงเทพ 10310
  • : webmaster@thaingo.org
  • : 082 178 3849
  • : www.thaingo.in.th

Thai NGO

ข่าวสารสังคมนอกสื่อกระแสหลัก ข่าวสารความเคลื่อนไหว เกี่ยวกับเอ็นจีโอ ข่าวกิจกรรมเพื่อสังคม งานสัมนา สมัครงานเอ็นจีโอ ร้องเรียน แจ้งข่าว…ประนามประจาน !! ที่ได้รับความทุกข์ร้อนไม่เป็นธรรม