1810 23 Jul 2019
ผู้ประสานงานฝ่ายสื่อสารองค์กร
ปัญหา “ผู้ลี้ภัย” ถือเป็นประเด็นยอดฮิตติดชาร์ตดราม่าประจำโลกโซเชียล ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทย ที่มีการถกเถียงกันอย่างเผ็ดร้อนทุกครั้งที่ประเด็นนี้เกิดขึ้น ซึ่งวาทกรรมสุดคลาสสิกที่มักจะมาพร้อมกับดราม่า ก็คือการมองว่าผู้ลี้ภัยเป็นแรงงานผิดกฎหมาย บ้างก็ว่าเป็นอาชญากรที่หนีคดีมาจากประเทศต้นทาง ผู้ลี้ภัยหลายกลุ่มถูกตีตราว่าเป็นชนชาติที่ขี้เกียจ หรือเข้ามาแย่งชิงทรัพยากรในประเทศไทย รวมทั้งวาทกรรมที่ว่า “ให้เอาผู้ลี้ภัยไปเลี้ยงที่บ้าน” ซึ่งตอกย้ำภาพความเป็น “ภาระ” ของผู้ลี้ภัยยิ่งกว่าเดิม
แต่หากมองลึกลงไปกว่านั้น วาทกรรมต่างๆ ที่ออกมาจากความคิดของคนไทยบางส่วน ก็สะท้อนให้เห็นถึงการมองผู้ที่ไม่ใช่คนไทยว่าเป็น “คนอื่น” ซึ่งทำให้เราหลงลืมที่จะทำความ “เข้าใจ” คนเหล่านี้ในฐานะมนุษย์ที่ไม่ต่างจากเรา และจากความไม่เข้าใจก็อาจจะนำไปสู่การทำร้ายเพื่อนมนุษย์ด้วยกันโดยที่ไม่รู้ตัว
“Diversity Workshop”
เพราะความเข้าใจเป็นสิ่งที่จำเป็น แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชันแนล ประเทศไทย จึงริเริ่มโครงการ “Diversity Workshop” เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนทั้งชาวไทยและผู้ลี้ภัยได้ทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจระหว่างกัน โดยหวังว่าคนรุ่นใหม่จะเป็นแรงผลักดันเล็กๆ ที่สร้างความเข้าใจให้แก่คนในสังคมในที่สุด
ปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชันแนล ประเทศไทย เล่าว่า โครงการ Diversity Workshop จัดขึ้นครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ภายใต้แนวคิดเรื่องการสร้างความรู้ความเข้าใจระหว่างเยาวชนไทยกับผู้ลี้ภัยหลากหลายเชื้อชาติ โดยจัดให้เยาวชนทั้งสองกลุ่มได้มาใช้ชีวิตร่วมกัน ขณะเดียวกัน ผู้จัดกิจกรรมและกระบวนกรเอง ก็มีทั้งคนไทยและผู้ลี้ภัยด้วย และสิ่งที่น่าสนใจก็คือ จำนวนผู้สมัครเข้าร่วมกิจกรรมนั้นก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ
“ปีแรกคนสมัครไม่เยอะเลย แต่ปีนี้เยอะเป็นหลักร้อย บางคนเข้ามาร่วมกิจกรรมตอนปีที่ 1 ปีต่อมาก็มาเป็นกระบวนกร เป็นเทรนเนอร์ ก็จะพัฒนาไปเรื่อยๆ อย่างปีนี้ก็จะพัฒนาให้มีทักษะในการทำงานรณรงค์เพื่อให้คนเห็นความสำคัญของสิทธิผู้ลี้ภัย เราพยายามเลือกให้หลากหลายจริงๆ ไม่ใช่แค่เชื้อชาติ แต่ยังหลากหลายทั้งเพศ ความคิด และชุมชนที่มา เราก็อยากให้เห็นว่าคนเรา ถ้าถอดหมวกเชื้อชาติ วัฒนธรรม หรือหมวกผู้ลี้ภัยออก เราก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน แค่อยู่ในวัฒนธรรมที่หลากหลาย” คุณปิยนุชกล่าว
นอกจากการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันบนความหลากหลายแล้ว สิ่งหนึ่งที่แอมเนสตี้มุ่งเน้นในกิจกรรมนี้ คือการจุดประกายให้เยาวชนนำความรู้ที่ได้ไปต่อยอด ทำกิจกรรมเพื่อผู้ลี้ภัยในวิถีของคนรุ่นใหม่ ซึ่งที่ผ่านมา กิจกรรมเวิร์กช็อปนี้ก็มีการต่อยอดไปในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเชิญผู้ลี้ภัยไปพูดที่โรงเรียนไทย การเข้าเยี่ยมผู้ลี้ภัยที่ถูกกักตัวในห้องกักของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับผู้ลี้ภัย
“ความเปลี่ยนแปลงที่ผู้ลี้ภัยอยากให้เกิดขึ้นก็คือ ไม่ต้องการให้คนเหมารวม (stereotype) ไม่ต้องการให้คนอื่นมองว่าเขาสกปรก ไม่มีค่า มาสร้างปัญหา อีกกลุ่มหนึ่งบอกว่าแค่อยากให้เห็นความหลากหลายก็พอ อีกกลุ่มหนึ่งก็อยากให้เห็นถึงทักษะที่เขามี สิ่งที่เขาสามารถให้ได้ เพราะที่จริงหลายคนก็เลยเป็นหมอ เป็นวิศวะ อยู่ที่ประเทศเขา เขามาที่นี่ก็ไม่ได้อยากนั่งเฉยๆ เพียงแต่ว่าด้วยการที่เขาไม่มีสถานะ มันทำไม่ได้จริงๆ หรือว่าถูกลืม ต้องคอยหลบซ่อนตัว โดนจับ อีกกลุ่มหนึ่งไม่อยากเห็นคนต้องมาถูกกักตัวหรือโดนส่งกลับ ให้ได้รับอันตราย ซึ่งอันนี้ก็เป็นมุมมองที่น่าสนใจของเด็กกลุ่มนี้” ปิยนุชกล่าว
24 Jan 2024
24 Jan 2024
30 Nov 2023
11 Feb 2024
11 Feb 2024
24 Jan 2024
30 Nov 2023
ข่าวสารสังคมนอกสื่อกระแสหลัก ข่าวสารความเคลื่อนไหว เกี่ยวกับเอ็นจีโอ ข่าวกิจกรรมเพื่อสังคม งานสัมนา สมัครงานเอ็นจีโอ ร้องเรียน แจ้งข่าว…ประนามประจาน !! ที่ได้รับความทุกข์ร้อนไม่เป็นธรรม