2031 21 Jul 2019
เลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์
๒๗ มิถุนายน ๒๕๖๒
พระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. ๒๕๖๐ หรือ ‘กฎหมายแร่ฉบับใหม่’ ได้กำหนดให้มีคณะกรรมการว่าด้วยการบริหารจัดการแร่ ๓ ชุด ๓ ระดับ ได้แก่ (๑) คณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการแร่แห่งชาติ (คนร.) (๒) คณะกรรมการแร่ และ (๓) คณะกรรมการแร่จังหวัด โดย คนร. เป็นคณะกรรมการชั้นบนสุดมีนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกฯซึ่งนายกฯมอบหมายเป็นประธานกรรมการ กรรมการตำแหน่งอื่นมาจากรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงและอธิบดีหลายกระทรวง โดยเฉพาะกรรมการจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกรมทรัพยากรธรณีที่ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อถ่วงดุลอำนาจการอนุมัติ/อนุญาตสัมปทานในการสำรวจและทำเหมืองแร่ที่เคยเป็นของกระทรวงอุตสาหกรรมแต่ผู้เดียวตลอดมาตามกฎหมายแร่ฉบับเก่า (พระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. ๒๕๑๐ ที่ถูกยกเลิกใช้บังคับไปแล้ว)
อำนาจหน้าที่ที่สำคัญของ คนร. ก็คือการเสนอยุทธศาสตร์ นโยบาย และแผนแม่บทการบริหารจัดการแร่ต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.), เสนอแนะแนวทางหรือมาตรการเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามยุทธศาสตร์ นโยบายและแผนแม่บทฯอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ, กำกับดูแล ตรวจสอบให้หน่วยงานรัฐดำเนินการให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ นโยบายและแผนแม่บทฯ รวมทั้งในมาตรา ๑๙ ได้กำหนดให้ คนร. มีอำนาจประกาศกำหนดให้การอนุญาตและการกำหนดเงื่อนไขใด ๆ ในการออกประทานบัตรให้ทำเหมืองในพื้นที่และชนิดแร่ใดต้องได้รับความเห็นชอบจาก คนร. ก่อนการอนุญาตเพื่อพิจารณาความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ ความเหมาะสมของเทคโนโลยีที่ใช้ในการทำเหมือง มาตรการในการป้องกันผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน รวมทั้งผลกระทบสะสมต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน
ส่วนคณะกรรมการแร่เป็นคณะกรรมการระดับปลัดกระทรวงลงมา มีปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธานกรรมการ มีอำนาจหน้าที่ที่สำคัญในการให้คำแนะนำแก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รทส.) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (รวอ.) ในการประกาศให้มีการประมูลเขตแหล่งแร่, ให้คำแนะนำแก่รัฐมนตรีฯในการออกกฎกระทรวงหรือประกาศตามกฎหมายแร่ฉบับใหม่, ให้ความเห็นชอบในการอนุญาตหรือไม่อนุญาต ต่ออายุ โอน เพิกถอนและกำหนดเงื่อนไขใด ๆ เกี่ยวกับประทานบัตรสำหรับการทำเหมืองประเภทที่ ๒ และ ๓[1]
และคณะกรรมการแร่จังหวัดมีผู้ว่าราชการจังหวัด (ผวจ.) เป็นประธานกรรมการ มีอำนาจหน้าที่ที่สำคัญในการให้ความเห็นชอบเกี่ยวกับการอนุญาต/ไม่อนุญาต ต่ออายุ โอน เพิกถอน หรือกำหนดเงื่อนไขใด ๆ เกี่ยวกับประทานบัตรสำหรับการทำเหมืองประเภทที่ ๑, พิจารณาข้อร้องเรียนหรือผลกระทบจากการทำเหมืองประเภทที่ ๑, ให้คำปรึกษา คำแนะนำและความเห็นแก่ ผวจ. ในการบริหารจัดการแร่ระดับจังหวัด
เมื่อพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. ๒๕๖๐ กำหนดบทบาท อำนาจและหน้าที่ให้ คนร. เข้ามาเกี่ยวข้องกับการพิจารณาเพื่ออนุญาตหรือไม่อนุญาตประทานบัตรแล้วก็ต้องไปออกอนุบัญญัติเป็น ‘ประกาศ คนร.’ ตามมาตรา ๑๙ ดังที่ได้กล่าวไป แต่เมื่อสำรวจ ตรวจสอบและค้นหาดูทั้งหมด ณ เวลาปัจจุบันที่กำลังเขียนบทความชิ้นนี้อยู่ก็ไม่พบประกาศ คนร. ตามมาตรา ๑๙ แต่อย่างใด พบเพียงประกาศกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) เรื่องหลักเกณฑ์และแนวทางการประเมินความคุ้มค่าในทางเศรษฐกิจสำหรับการอนุญาตประทานบัตรฉบับที่ ๑ และ ๒ ที่ออกประกาศเมื่อปี ๒๕๖๑ และประกาศ กพร. เรื่องหลักเกณฑ์ในการพิจารณาความเหมาะสมของเทคโนโลยีที่ใช้ในการทำเหมืองที่ออกประกาศเมื่อปี ๒๕๖๑ เช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นประกาศที่อธิบดี กพร. สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นผู้ลงนามในประกาศดังกล่าวด้วยตัวเอง ซึ่งมีลักษณะจงใจบิดเบือนและตัดตอนอำนาจในการอนุมัติ/อนุญาตประทานบัตรเพื่อทำเหมืองแร่ซึ่งเป็นบทบาท อำนาจและหน้าที่ร่วมกันของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกระทรวงอุตสาหกรรมในโครงสร้าง คนร. ที่ต้องการสร้างดุลยภาพในการบริหารจัดการทรัพยากรแร่ใหม่ที่เคยเป็นของกระทรวงอุตสาหกรรมแต่เพียงผู้เดียวมาอย่างยาวนานอย่างเห็นได้ชัด
ดูเหมือนว่าความจงใจบิดเบือนบทบาท อำนาจและหน้าที่ของ คนร. ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาเพื่ออนุญาตหรือไม่อนุญาตประทานบัตรไม่หยุดอยู่เพียงแค่นี้ รวอ. ยังได้ออกอนุบัญญัติเป็น ‘ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง กำหนดขั้นตอนและระยะเวลาในการพิจารณาอนุญาตตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๖๑’ เพื่อแจกแจงแผนผังขั้นตอนและระยะเวลาในการพิจารณาอนุญาตประทานบัตรว่าตั้งแต่เริ่มต้นยื่นคำขอไปจนถึงอธิบดี กพร. ออกประทานบัตรให้ในขั้นตอนสุดท้ายมีกระบวนการอย่างไรและมีหน่วยงานใดเข้ามาเกี่ยวข้องบ้าง ซึ่งในประกาศฯฉบับนี้เองที่กำหนดให้ ‘คณะกรรมการแร่’ เข้ามามีบทบาท อำนาจและหน้าที่ในการให้ความเห็นชอบเกี่ยวกับการอนุญาตประทานบัตรฝ่ายเดียวโดยไม่มี ‘คนร.’ ร่วมด้วย ซึ่งผิดไปจากเจตนารมณ์ของกฎหมายแร่ฉบับใหม่ที่ต้องการให้ทั้งคณะกรรมการแร่และ คนร. เข้ามามีบทบาท อำนาจและหน้าที่ในการให้ความเห็นชอบเกี่ยวกับการอนุญาตประทานบัตรทั้งคู่ ไม่ใช่กรรมการชุดใดชุดหนึ่งเท่านั้น
24 Jan 2024
24 Jan 2024
30 Nov 2023
11 Feb 2024
11 Feb 2024
24 Jan 2024
30 Nov 2023
ข่าวสารสังคมนอกสื่อกระแสหลัก ข่าวสารความเคลื่อนไหว เกี่ยวกับเอ็นจีโอ ข่าวกิจกรรมเพื่อสังคม งานสัมนา สมัครงานเอ็นจีโอ ร้องเรียน แจ้งข่าว…ประนามประจาน !! ที่ได้รับความทุกข์ร้อนไม่เป็นธรรม