อีก 1000 ปี สังคมไทยก็ยังไม่พร้อมจะยกเลิกกฎหมายประหาร!!

3287 24 Jun 2018

 

 ( ขอบคุณภาพ oknation blog )
.

ผมเป็นคนหนึ่งที่คัดค้านเรื่องการประหารนักโทษ แต่กระนั้น ก็เข้าใจได้ว่าทำไมโทษประหารถึงยังเป็นที่เรียกร้องของคนส่วนใหญ่ในสังคม จึงรับได้กับแนวคิดอีกฟากฝั่ง ที่รณรงค์ให้ประหารนักโทษ กระนั้น ก็อยากให้พิจารณาว่า ทำไม เพราะอะไรในทุกแง่มุมที่ยังไม่ถูกพูดถึง

ประเด็นแรก ต้องยอมรับว่าวัฒนธรรมสังคมไทย เป็นวัฒนธรรมที่นิยมความรุนแรงแบบฝังรากลึกจริงๆ ความรุนแรงมีทุกมิติ ความรุนแรงเชิงโครงสร้าง ความรุนแรงในสื่อ ในโรงเรียน ในสำนักงาน ในครอบครัว  ในกิจกรรมชีวิต มีรอบตัวของทุกๆ คน สังคมไทยเป็นสังคมนิยมอำนาจ ใช้อำนาจ ชอบความเบ็ดเสร็จ เด็ดขาด ชอบความสงบเรียบร้อยแบบว่านอนสอนง่ายเชื่อฟัง สังคมแบบนี้เอง ที่หล่อหลอมให้เกิดพฤติกรรมเช่นนี้ ต้องการจัดการให้จบ สังคมที่มีวัฒนธรรมการยับยั้งชั่งใจน้อยมาก แม้แต่พระเองยังออกมาให้สัมภาษณ์สนับสนุนการประหาร

ประเด็นที่สอง สังคมไทย มีปัญหาการก่ออาชญากรรมถิบถี่รายวัน ฆ่า ข่มขืน ปล้น ชิงทรัพย์ คอรัปชั่น การพนัน ยาเสพติด ปล้น จี้ อุ้ม ฯลฯ กระบวนการป้องปราม ปราบ และดำเนินคดีจากรัฐ ไม่สามารถรับมือ เยียวยาให้ลดลงได้ และถ้าให้เพิ่มโทษหรือลงโทษสูงสุดเด็ดขาด รัฐจะสิ้นเปลืองแค่ไหน คนทุกคนกว่าจะโตมาได้ รัฐมีส่วนร่วมลงทุนต่อหัวไม่ใช่น้อยๆ ด้วยคาดหวังว่าจะได้แรงงานทำการผลิตหรือทำให้รัฐมีรายได้ จากภาษี คนๆ หนึ่งอายุงาน 30-40 ปี ถ้าประหารเสียหมด รัฐก็ลงทุนเปล่า

ประเด็นที่สาม คนไทยหมดศรัทธาในความเป็นคนของตัวเอง  คนไทยกำลังหวาดกลัวสังคมตัวเอง ไม่มีศรัทธาอะไรเหลือแล้ว วันนี้คนไทยต้องการแค่ความปลอดภัย เพราะไม่รู้ว่า คนรอบตัว รอบบ้าน ในชุมชน ใครเป็นคนยังไง มิติทางวัฒนธรรมชุมชน การเรียนรู้ การคุ้นเคย สอดส่อง เปลี่ยนไป ต่างคนต่างอยู่ โดยไม่คิดว่า เบ้าหลอมความรุนแรงแบบนี้ มีทุกหนแห่ง การละเลยต่อกันอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่บ่มเพาะคนอีกคนขึ้นมา และ หนึ่งในนั้นอาจจะเป็นลูกหลานตัวเอง

ประเด็นที่สี่ สังคมไทย ยังพัฒนาระดับจิตใจ ไปไม่ถึงขั้นนั้น สภาพสังคมที่ยอมรับการยกเลิกโทษประหาร เป็นสังคมที่หล่อหลอมสะสมเป็นสำนึกเข้มแข็งมากเรื่องความรุนแรง เรื่องการเคารพสิทธิของคนอื่น เรื่องการให้เกียรติให้ความเคารพต่อผู้อื่น ต่อสาธารณะ เราไม่มีสังคมแบบนั้น สังคมเราเป็นสังคมชนชั้น เป็นสังคมที่มาจากรากแบบไพร่ ผู้ดี มีความรุนแรงเชิงโครงสร้างสูงมาก อาทิ ความจนคือความชั่ว !!  ทำให้เห็นว่า ในแต่ละวันมีข่าว มีภาพการกระทำความรุนแรงเกิดขึ้นรอบตัวทุกวัน  ขนาดพระยังสนับสนุนให้ฆ่าเลย

ประเด็นที่ห้า สังคมไทยเป็นสังคมที่ชายเป็นใหญ่ เป็นผู้กำหนด เป็นผู้นำ เป็นผู้บงการ เป็นกฎหมาย ความเชื่อนี้ถูกปลูกฝังมายาวนาน อยู่ในราก ในวิถี ในวัฒนธรรม ในพิธีกรรรมต่างๆ ที่ให้พื้นที่ผู้ชาย ให้ตำแหน่งสำคัญเป็นผู้ชาย แม้แต่ศาสนาพุทธเอง ก็ยอมรับเพียงผู้ชายที่เป็นผู้สืบสอด (พระ) ศาสนา  เราจึงเห็นทุกวี่วัน ที่ผู้ชายกระทำความรุนแรงกับผู้หญิง กับครอบครัว และพฤติกรรมที่ก้าวร้าวรุนแรงนี้เอง สังคมก็มักยอมรับ คุ้นเคย เป็นธรรมดา ถ้าเป็นผู้หญิงจะยากกว่า ไม่เหมาะไม่ควรและห้ามทำ  ทำให้สะสมเป็นสำนึกและเป็นพฤติกรรมคุณลักษณะของผู้ชายในสังคมไทยที่นิยมใช้อำนาจและกระทำความรุนแรง

ประเด็นที่หก การยกเลิกโทษประหารที่ NGOs ด้านสิทธิมนุษยชนเอารณรงค์นั้น เป็น มโนภาพ แบบยูโทเปีย พูดง่ายๆ คือ ยังไม่เหมาะกับสังคมไทย เพราะรากฐาน สำนึก ของสังคมไทยยังพัฒนาไปไม่ถึงจินตนาการนั้นๆ คดีฆ่า ข่มขืน  ข่าวอาชญากรรม มีทุกวัน มีทุกที่ ผู้คนหวาดกลัว สะพรึงกับสิ่งรอบตัวทุกวัน ดังนั้น ไม่มีใครรู้สึกว่า ความสูงส่งทางจิตใจเช่นนั้น จะเป็นเรื่องสำคัญ

คนไทยเวลานี้ ต้องการแค่อยากให้ลงโทษ หรือ ฆ่า หรือกำจัดคนชั่วๆ เลวๆ ให้หมดไปจากโลก!!!

Contact Information

  • : มูลนิธิกองทุนไทย Thai Fund Foundation 2044/23 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ บางกะปิ ห้วยขวาง กรุงเทพ 10310
  • : webmaster@thaingo.org
  • : 082 178 3849
  • : www.thaingo.in.th

Thai NGO

ข่าวสารสังคมนอกสื่อกระแสหลัก ข่าวสารความเคลื่อนไหว เกี่ยวกับเอ็นจีโอ ข่าวกิจกรรมเพื่อสังคม งานสัมนา สมัครงานเอ็นจีโอ ร้องเรียน แจ้งข่าว…ประนามประจาน !! ที่ได้รับความทุกข์ร้อนไม่เป็นธรรม